เคล็ดลับในการรักษาความดันโลหิตสูง
ตรวจวัดความดันเป็นระยะ
รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ โดยการลดน้ำหนักลง 10% สำหรับผู้ที่มีน้ำหนักเกิน
งดอาหารเค็มหรือเกลือไม่ควรได้รับเกลือเกิน 6 กรับต่อวัน
รับประทานอาหารไขมันต่ำ
งดการสูบบุหรี่
รับประทานยาตามแพทย์สั่ง
ไปตามแพทย์นัด
ออกกำลังกายตามแพทย์แนะนำโดยการออกกำลังวันละ 30-45 นาทีสัปดาห์ละ 3-5 วัน
รับประทานอาหารที่มีเกลือโปแตสเซียม
แนะนำให้พาพ่อแม่พี่น้องและลูกไปตรวจวัดความดันโลหิต
28 มกราคม 2553
27 มกราคม 2553
อพยพ
วันนี้ ( 27 ม.ค.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รัฐบาลเปรูส่งเฮลิคอปเตอร์ไปช่วยอพยพนักท่องเที่ยวและชาวบ้านกว่า 2,000 คน ที่ติดค้างอยู่ที่มาชู ปิกชู โบราณสถานชื่อดัง หลังเกิดแผ่นดินถล่มจากฝนตกหนัก เฮลิคอปเตอร์ของทหารและตำรวจ 6 ลำ ทยอยเดินทางไปช่วยเหลือนักท่องเที่ยวและชาวบ้ากว่า 2,000 คน ที่ติดค้างอยู่ที่มาชู ปิกชู โบราณสถานชื่อดัง หลังเกิดแผ่นดินถล่มจากฝนตกหนักปิดเส้นทางรถไฟ โดยได้อพยพประชาชนทั้งหมดไปยังเมืองข้างเคียงแล้ว ขณะที่ชาวเมืองคุสโกได้รับผลกระทบมากที่สุด จากฝนนอกฤดูที่ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้เกิดน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง เนื่องจากน้ำในแม่น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน ประชาชนราว 300 คน ต้องไร้ที่อยู่ ด้านสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของเปรู เปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดฝนนอกฤดูว่า เป็นผลกระทบจากภาวะโลกร้อน
ข่าว ๆ วันนี้
มาร์ค''ไม่หวั่นยุบสภา!ภม.แก้เผ็ดสั่งฟรีโหวต
ปชป.หักดิบพรรคร่วมรัฐบาล มิต 82 ต่อ 48 ไม่แก้ รธน.พวงใหญ่เรียงเบอร์ แถมล็อก ส.ส.ไม่ให้ฟรีโหวตอีกชั้น เผย เทือก เจอรุมถล่มยับเยินมาร์ค ไม่กลัวยุบสภา-แพ้ซักฟอก เย้ย เนวิน ราคาคุยสู้ แม้ว ไม่ได้ ชี้ต้องชนะด้วยศรัทธาเท่านั้น อ้างไม่เคยสัญญิงสัญญาแก้ รธน. กับใครที่ไหน ส่วน แม่ นมอมทุกข์ เครียดไม่มีหน้าไปแจ้งข่าวร้าย ฝ่ายลูกแถวจับตานับถอยหลังยุบสภา ด้าน พรรคร่วม ยังหวัง ปชป. กลับลำช่วยโหวต เนวิน แขวะปอดแหก ปู่จิ้น แบะท่าไฟเขียวลูกพรรคสวนหมัด ขณะที่กองทัพ ปัดข่าวปฏิวัติพัลวัน ส่วน บิ๊กป๊อก-บิ๊กตู่ หายเข้ากลีบเมฆ บิ๊กป้อม ยันการเมืองแก้ปมเอาเอง เทือก มั่นใจ ผบ.เหล่าทัพไม่ยึดอำนาจ แจงเคลื่อนรถถังมาซ่อมก่อนส่งไปนอก สหรัฐ ฮึ่มตอบโต้รัฐประหาร ด้าน เหลิม ชี้ บิ๊กรัฐบาลสั่งทหารช่วยรักษาเก้าอี้ ฝ่ายรัฐบาลน้อมรับพระราชดำรัสในหลวง
* เทือกน้อมรับพระราชดำรัส
เมื่อวันที่ 26 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราโชวาทแก่ตุลาการศาลปกครองที่เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ฯ โดยทรงย้ำเตือนเรื่องความเป็นกลางและความยุติธรรมต่าง ๆ ว่า กระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องถือว่าเป็นมงคลสูงสุดของประเทศ ทุกฝ่ายต้องรับใส่เกล้าไปปฏิบัติ ถ้าพวกเราได้ย้อนไปดูประวัติศาสตร์ บ่อยครั้งที่บ้านเมืองเกิดวิกฤติทางด้านความคิด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทาน กระแสพระราชดำรัสแล้วแต่ละฝ่ายที่มีหน้าที่ได้รับใส่เกล้าไปปฏิบัติก็บังเกิดเป็นผลดีต่อประเทศชาติและประชาชนมาโดยตลอด
* ทรงย้ำเตือนสติคนไทยทุกคน
รองนายกฯ กล่าวต่อว่า รัฐบาลเทิดทูนในพระบารมีและมีความจงรักภักดีอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นเรื่องที่คณะรัฐบาลต้องรับใส่เกล้ายึดเป็นแนวทางในการปฏิบัติ แม้ว่าจะไม่ใช่เป็นผู้ที่จะต้องพิจารณาพิพากษาคดีความทั้งหลาย เหมือนกับคณะตุลาการศาลปกครอง แต่งานของรัฐบาลในหลายเรื่องที่ต้องอำนวยความยุติธรรมก็จะต้องทำอย่างตรงไปตรงมา
ต่อข้อถามว่า แสดงว่าจะต้องมีสิ่งผิดปกติอะไร เพราะทรงย้ำเตือนนานมาก นายสุเทพ กล่าวว่า คงไม่ใช่ พระองค์ทรงมีพระราชดำรัสในวโรกาสต่าง ๆ ได้ทรงแนะนำย้ำเตือนทุกครั้ง และทั้งหมดจะทำให้พี่น้องประชาชนคนไทย ข้าราชการทั้งหลายจะได้มีสติระลึกได้ว่าพระองค์ท่านซึ่งเหมือนพ่อของคนไทยทั้งประเทศ ทรงห่วงใยบ้านเมือง และประชาชน ทรงให้สติให้ทุกคนระลึกถึงความสำคัญในหน้าที่ของตนเอง เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เฉพาะผู้ที่รับสั่งด้วย แต่ประชาชนทั่วไป รัฐบาล และข้าราชการ ก็สมควรที่จะน้อมรับไปปฏิบัติ
* ยันผู้นำเหล่าทัพไม่ยึดอำนาจ
นายสุเทพ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการทำปฏิวัติจนทำให้พรรคเพื่อไทยโหมพูดเรื่องนี้ว่า ไม่ทราบว่าทำไมพรรคเพื่อไทยถึงโหมกระแสนี้ แต่ในฐานะที่ทำหน้าที่ด้านความมั่นคงและทำงานอยู่อย่างใกล้ชิดกับผู้นำเหล่าทัพตลอด ขอยืนยันกับประชาชนว่า บรรดาผู้นำเหล่าทัพในยุคนี้ยึดมั่นในแนวทางประชาธิปไตย และยืนยันที่จะสนับสนุนรัฐบาลประชาธิปไตยเพื่อที่จะทำงานแก้ไขปัญหาของประเทศชาติและประชาชน ไม่มีแนวคิดที่จะทำปฏิวัติรัฐประหาร
ส่วนสถานการณ์ทางการเมืองนั้น รองนายกฯ กล่าวว่า ผู้นำเหล่าทัพทั้งหลายต้องการให้การเมืองแก้ไขปัญหากันเองโดยวิถีทางทางการเมือง เมื่อถามว่าจะแน่ใจได้อย่างไร เพราะที่ผ่านมา ผบ.เหล่าทัพ บอกว่าไม่ปฏิวัติแต่ก็ทำทุกครั้ง นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นการมองในแง่ร้ายเกินไป ตนได้คลุกคลีอยู่ใกล้ชิด ทำงานร่วมกันมาตลอด 1 ปีเศษก็รู้และเข้าใจในความคิดของแต่ละท่าน
* ชี้เสื้อแดงใช้แผน ปชช. ปฏิวัติ
นายสุเทพ กล่าวอีกว่า เท่าที่ได้ติดตามข่าวกระบวนการของลูกน้อง พ.ต.ท.ทักษิณชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีแผนการพยายามยั่วยุให้เกิดความรุนแรง เพื่อที่จะให้ทหารทน ไม่ได้ และจะได้เอาไปขยายผลเพื่อเรียกร้องประชาชนให้ลุกขึ้นมาต่อสู้ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น เข้าแผนที่เรียกว่า การปฏิวัติประชาชน ซึ่งตนได้ติดตามดูอยู่ตลอดและเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ว่าตำรวจหรือทหารจะไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา เพราะทหารหรือตำรวจก็เป็นข้าราชการของประชาชน ไม่ได้อยู่ฝ่ายใดสีไหนทั้งสิ้น แต่มีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ให้บ้านเมืองอยู่รอด ถ้าใครทำความเดือดร้อนให้บ้านเมืองก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย
เมื่อถามว่า ในอดีตถ้าทหารจะปฏิวัติไม่บอกกันล่วงหน้า รองนายกฯ กล่าวว่า เขาไม่บอกล่วงหน้ากันขนาดนี้ เพราะฉะนั้นไม่มี ผมไม่คิดว่าทหารจะปฏิวัติ ยืนยันเด็ดขาดเลย ถ้าไม่มั่นใจผมก็ไม่พูดจาอย่างนี้
* ป้องบิ๊กตู่เป็นเป้าทำลายล้าง
ต่อข้อถามว่า ถ้ามีการปฏิวัติขึ้นมาพรรคประชาธิปัตย์จะออกมาต่อต้านหรืออยู่เฉย ๆ เหมือนรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่คิดอะไรล่วงหน้า เพราะมันไม่มี ไม่จำเป็นต้องวางแผนไปในสิ่งที่เชื่อว่าไม่มี เมื่อถามย้ำว่า กลุ่มคนเสื้อแดงออกมาระบุชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รอง ผบ.ทบ. จะเป็นคนทำปฏิวัติ นายสุเทพ กล่าวว่า เสื้อแดงคงหาคนเป็นเป้าไปเรื่อย ๆ ไม่ได้เป็นสาระอะไร
รองนายกฯ ยังกล่าวถึงการเคลื่อนย้ายรถถังในคืนวันที่ 25 ม.ค. ที่ผ่านมาว่า ได้รับรายงานแล้ว ถ้าจำได้เราต้องเอากองกำลังไปทำหน้าที่รักษาสันติภาพในนามของสหประชาชาติที่ประเทศซูดาน ถึงเวลาต้องไปก็ต้องนำเครื่องไม้เครื่องมืออาวุธยุทโธปกรณ์มาซ่อมบำรุงให้เรียบร้อย รถหุ้มเกราะเหล่านี้เป็นเพียงไม่กี่คันที่ต้องเอาไปใช้ จึงต้องเอามาซ่อม และกองทัพคิดว่านำเข้ามาในช่วงที่ไม่เป็นปัญหา จึงนำขึ้นรถไฟมาลงและเคลื่อนย้าย แต่คงมีข้อบกพร่องว่าไม่ได้แจ้งให้ประชาชนทราบก่อนทำให้ เป็นข่าวตกอกตกใจกัน ต้องขออภัยพี่น้องประชาชนด้วย
* บิ๊กป้อมให้การเมืองแก้ปม
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว. กลาโหม ให้สัมภาษณ์เรื่องเดียวกันว่า การ เคลื่อนย้ายรถถังก็เป็นการเตรียมไปซ่อมเพื่อไปใช้ที่เมืองดาร์ฟู ประเทศซูดาน ยืนยันว่าไม่มีเรื่องการปฏิวัติ ที่ผ่านมา พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ได้ยืนยันแล้วว่าไม่มีการปฏิวัติ ผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรต่อกรณีดังกล่าวที่มีข่าวหนาหู พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า แล้วแต่จะคิด เพราะคนมีจำนวนมากเชื่อว่าคงเป็นการคิดกันไปเอง ไม่มีอะไร การเมืองก็คือการเมือง คงต้องพูดกันในเรื่องของการเมือง และการเมืองคงต้องแก้ปัญหาเรื่องการเมือง แต่เรื่องความสงบสุข หน่วยความมั่นคงต้องเป็นผู้ดูแล เพื่อให้ประชาชน มีความสงบสุข อย่างไรก็ตามเราก็ต้องติดตามดูตลอดเวลา
เมื่อถามว่า มีคลื่นใต้น้ำเกิดขึ้นภายในกองทัพหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มีและตนคงไม่ต้องมีคำสั่งเพื่อกำชับแต่อย่างใด เพราะเป็นงานเพื่อความมั่นคง ยืนยันภายในกองทัพไม่เกิดความแตกแยกแน่นอน
* สหรัฐขู่ตอบโต้รุนแรงแน่
วันเดียวกัน เวลา 09.30 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายบีด กิลเบิร์ต คอร์รี่ เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย และนายอีริค จี จอห์น เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้ทยอยเดินทางเข้าพบ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย โดย พล.อ.ชวลิต ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการปฏิวัติ
นายพิทยา พุกกะมาน คณะทำงานฝ่ายต่างประเทศ พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์และสหรัฐ ได้เข้าพบ พล.อ.ชวลิต เพื่อรับทราบข้อมูลและสอบถามท่าทีของพรรคเพื่อไทยต่อเหตุการณ์ทางการเมืองต่าง ๆ เช่น การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ความเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดง และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยอมรับว่ามีการพูดคุยถึงประเด็นกระแสข่าวเรื่องการปฏิวัติรัฐประหารในประเทศไทยด้วย ซึ่งเอกอัครราชทูตสหรัฐวิเคราะห์ว่าการรัฐประหารคงเป็นเพียงข่าวลือ ไม่น่าจะเกิดขึ้นจริง เพราะถ้าจริงคงไม่มีข่าวรั่วออกมา นอกจากนี้ยังระบุว่าสถานการณ์ปัจจุบันถ้ามีการรัฐประหารก็ยากจะสำเร็จ หรือถ้าเกิดขึ้นอีกครั้งก็เชื่อว่าทางการสหรัฐจะมีปฏิกิริยาตอบโต้ค่อนข้างรุนแรงกว่าครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากไม่ยอมรับวิธีการดังกล่าว
* เหลิมฟุ้งเผ่นหนีข่าวปฏิวัติ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทยว่า บ่ายวันเดียวกันระหว่างที่ พล.อ.ชวลิต กำลังเดินทางออกจากพรรค ได้เดินสวนกับ ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย จากนั้น ร.ต.อ.เฉลิม ได้ทักทายและขอขึ้นรถส่วนตัวของ พล.อ.ชวลิต ที่จอดติดเครื่องรอเพื่อหารือลับนานกว่า 5 นาที ก่อนออกมาให้สัมภาษณ์ถึงข่าวเดินทางไปพบ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีต นายกฯ ที่ประเทศกัมพูชา เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เดินทางไปกัมพูชาจริง แต่ไม่ได้ไปหา พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ที่ดูไบ และตนไม่ได้ไปที่กรุงพนมเปญ เพียงแต่ไปหาคนรู้จัก โดยนั่งรถจากด่านปอยเปตไปประมาณ 2 ชั่วโมง ตั้งแต่เช้าวันที่ 23 ม.ค. และกลับมาวันที่ 25 ม.ค.
ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย อ้างว่าสาเหตุที่เดินทางไปกัมพูชา เนื่องจากได้ข่าวว่าจะมีปฏิวัติรัฐประหาร ก็ขอเผ่นก่อน บอกตามตรงว่ากลัว ตนเคยโดนเมื่อครั้งสภารักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) ปฏิวัติแล้วถูกตามล่าต้องหนีอยู่ในป่า 3 สัปดาห์ กลางทะเลอีก 5 สัปดาห์ เพื่อหนีการถูกลอบสังหาร พวกที่ตามล่าตนตอนนี้ก็เวรกรรมสนอง บางคนเป็นอัลไซเมอร์ บางคนต้องนั่งรถเข็น ตนไม่ได้ผูกใจเจ็บอะไร แต่คิดว่าไม่เอาอีกแล้ว
* อ้างบิ๊กรัฐบาลต้นคิดก่อการ
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวด้วยว่า การเตรียมการปฏิวัติเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ต้นเหตุไม่ใช่กลุ่มทหาร แต่เป็นพวกนักการเมืองที่เสพติดอำนาจ แล้วรู้ตัวว่าจะอกหักจึงไปปลุกปั่นให้ทหารก่อการ เพราะรู้ว่าตัวเองอยู่ไม่ได้แล้ว เพราะไปหักหลังพรรคร่วมรัฐบาลซึ่งพรรคร่วมก็ความรู้สึกช้า พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีทางร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะหากแก้ไปแล้วมีการเลือกตั้งอย่างไรก็ต้องแพ้ พรรคเพื่อไทยได้เสียงเกินครึ่งแน่นอน และตนเห็นพ้องกับ พล.ต. จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่ารัฐบาลต้องกล้าเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย แล้วยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้ง
ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามตอนนี้เช็กข่าวแล้ว ไม่มีการปฏิวัติแน่นอน เพราะผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน 96.4% เห็นพ้องต้องกันว่าระบอบประชาธิปไตยเป็นระบอบที่ดีที่สุด ดังนั้นไม่มีใครทำแน่นอน ส่วนเรื่องรถถังที่ออกมาวิ่งเมื่อคืนที่ผ่านมาตรวจสอบแล้วเป็นรถถังที่ใช้ในภาคใต้ และไปส่งโรงซ่อมจริง ๆ
* พัลลภลั่นไม่หมูเหมือนเก่า
เมื่อถามว่า คิดว่านายกฯ ทราบเรื่องกลุ่มที่กลัวเสียอำนาจวางแผนปลุกปั่น ปฏิวัติ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ทราบว่านายกฯ รู้หรือไม่ แต่เป็นฝีมือของพวกที่มี อำนาจที่กลัวจะเสียอำนาจและถูกเช็กบิล เมื่อถามว่าได้หารือกับ พล.อ.ชวลิต อย่างไรบ้าง ร.ต.อ.เฉลิม เปิดเผยว่า ได้วิเคราะห์สถานการณ์แล้วเห็นตรงกันหมดทั้งข่าวปฏิวัติและการตัดสินใจไม่กล้าปฏิวัติ
พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ไม่อยากบอกว่าจะมีรัฐประหารหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาต่างเชื่อกันว่าจะไม่มีการทำรัฐประหารอีกแล้ว แต่ก็เกิดการรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 จนได้ อย่างไรก็ตามส่วนตัวเชื่อจะไม่มีการปฏิวัติเกิดขึ้น เนื่องจากครั้งที่ผ่านมาได้สร้างความเสียหายให้กับบ้านเมืองอย่างมาก หากจะมีรัฐประหารเกิดขึ้น อีกครั้งพูดได้เลยว่าครั้งนี้จะไม่หมูเหมือนที่ผ่านมาแน่นอน
* ปูดบิ๊กป๊อกไม่ยอมเล่นด้วย
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แถลงว่า ได้รับรายงานว่ามีบุคคลกลุ่มหนึ่งเคลื่อนไหวเตรียมพร้อมก่อการปฏิวัติรัฐประหารจริง โดยเมื่อวันที่ 23 ม.ค. ที่ผ่านมา มีการประชุมลับของนายทหารระดับผู้บัญชาการทุกเหล่าทัพ พร้อมด้วยฝ่ายตำรวจ รวมถึงนักการเมือง ซึ่งเป็นรัฐมนตรีจากพรรคใหญ่ มีบทบาทสูงในรัฐบาลเข้าร่วมด้วย 1 คน ที่กองทัพอากาศดอนเมือง มีนายทหารยศพล.อ. นั่ง หัวโต๊ะประชุมเช็กกำลัง และได้สอบถามผู้นำเหล่าทัพทั้งหมดว่าจะให้ความร่วมมือหรือไม่ แต่กองทัพเรือและฝ่ายตำรวจปฏิเสธ รวมทั้งมอบหมายให้กรมทหารราบที่ 21 ใช้กำลังจัดการแกนนำเสื้อแดงในเบื้องต้น แต่ก็ได้รับการปฏิเสธเช่นเดียวกัน
แกนนำ นปช. เปิดเผยว่า แผนการยึดอำนาจครั้งนี้ได้วางตัว พล.อ.คนดังกล่าวเป็นผู้นำ เนื่องจาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ต้องการเกษียณอายุราชการในตำแหน่ง ผบ.ทบ. แต่ขณะเดียวกัน พล.อ.อนุพงษ์ ได้สะสมทุกอย่างเพื่อรองรับบั้นปลายชีวิต
* ถกวันบุก ทบ. ถามใจบิ๊กตู่
นายจตุพร เปิดเผยอีกว่า อีกทั้งยังเป็นที่ชัดเจนว่า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ได้วางตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รอง ผบ.ทบ. ดูได้จากนายทหารตบเท้าเข้าอวยพรครั้งล่าสุด พล.อ.เปรม เลือกทักทายพูดคุยกับ พล.อ. ประยุทธ์ คนเดียว ส่วนที่ปรากฏว่ามีรถหุ้มเกราะนำมาจอดทิ้งไว้ในจุดต่าง ๆ สร้างความแตกตื่นให้กับประชาชนเมื่อช่วงคืนวันที่ 25 ม.ค. โดยกองทัพชี้แจงว่าจะขนส่งไปปฏิบัติภารกิจ เกิดเสียจึงจอดเพื่อรอซ่อมนั้น เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น
ดังนั้นแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงจึงได้นัดหมายประชุมในวันที่ 27 ม.ค. เพื่อกำหนดวันไปชุมนุมหน้ากองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) เพื่อถาม พล.อ.ประยุทธ์ อย่างลูกผู้ชายว่าจะปฏิวัติหรือไม่ คาดหมายว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะตอบคำถามตรงไปตรงมา แต่พวกผมอยากท้าทายให้ปฏิวัติเลยด้วยซ้ำ เพราะว่าจะได้จัดการในคราวเดียวกันให้จบ พวกผมพร้อมพลีชีพแลกประชาธิปไตย ทันทีที่มีการยึดอำนาจ ศาลากลางทุกจังหวัดจะเต็มไปด้วยคนเสื้อแดงและถนนทุกสายจะมุ่งสู่สนามหลวง แกนนำคนเสื้อแดง ระบุ
* ซัดอำมาตย์ผวาคุมเกมไม่อยู่
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีปัจจัยอะไรบ่งชี้ให้ มั่นใจว่าทหารเตรียมการยึดอำนาจ นายจตุพร กล่าวว่า ขณะนี้อำมาตย์จวนตัวกันหมดอย่าง เช่น คนของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี และอดีตนายกฯ แอบไปทุบบ้านที่เขายายเที่ยงตอนกลางคืน ซึ่งจะปล่อยให้เสื้อแดงเคลื่อนไหวต่อไปไม่ได้ เพราะไม่มั่น ใจว่าจะกุมสภาพได้จึงต้องปฏิวัติก่อนที่คน เสื้อแดงจะชุมนุมใหญ่ ทั้งนี้ตามรายงาน ข่าวที่ตนได้รับมาในที่ประชุมเมื่อวันที่ 23ม.ค. มีบุคคลหนึ่งเสนอว่า ปฏิวัติแล้วให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯ ต่อไป แต่เสียงส่วนใหญ่เสนอชื่อนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกฯ โดยแอบอ้างสถาบันเบื้องสูงเพื่อประโยชน์ตัวเองเหมือนกรณี 19 ก.ย. 2549
* พิรุธเคลื่อนย้ายรถถังกลางดึก
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอตั้งข้อสังเกตว่ามีความผิดปกติในการเคลื่อนย้ายรถหุ้มเกราะ จาก จ.อุตรดิตถ์ มาซ่อมที่ จ.ปทุมธานี ตามที่โฆษกกระทรวงกลาโหมกล่าวอ้าง เนื่อง จากโรงซ่อมรถหุ้มเกราะอยู่ที่ จ.นครราชสีมา จึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องเคลื่อนย้ายจาก จ.อุตร ดิตถ์ เข้ามากรุงเทพฯ ก่อนเดินทางต่อไปยัง จ.นครราชสีมา ทั้งนี้หากรถดังกล่าวต้องเข้ารับการซ่อมจริง รถหุ้มเกราะสามารถวิ่งได้อย่างไร นอกจากนี้จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ทหารที่มากับรถหุ้มเกราะต่างพูดสาเหตุการเคลื่อนย้ายไม่ตรงกัน และมีการพูดถึงพันโท ธ. ว่าเป็นคนรับคำสั่งจากนายทหาร คนหนึ่ง
* วอนตุลาการยึดพระราชดำรัส
นายประเกียรติ นาสิมมา ส.ส.สัดส่วน และประธานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กระแสพระราชดำรัสของในหลวงแสดงให้เห็นถึงความเป็นห่วงของพระองค์ท่านในการปฏิบัติหน้าที่ของฝ่ายตุลาการ ซึ่งวันนี้เกิดปัญหาเรื่องสองมาตรฐานมาก ดังนั้นฝ่ายตุลาการควรจะน้อมนำพระราชดำรัสใส่เกล้าไปปฏิบัติ เพราะหากตุลาการไม่อำนวยความยุติธรรมก็จะถือว่าทรยศต่อพระองค์ท่าน กรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นกรณีหนึ่งที่เห็นถึงความไม่เป็นธรรมอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการไปเอาคนมาปฏิวัติ และตั้งคนที่เป็นปฏิปักษ์อย่างคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ขึ้นมาพิจารณา โดยที่ พ.ต.ท. ทักษิณ ไม่สามารถแก้ตัวได้ เรื่องนี้คนที่ประกาศว่ารักทักษิณทั้งประเทศจะยอมรับได้อย่างไร
* ชวนร่ายยาววิธีแก้ซื้อเสียง
ส่วนความคืบหน้าเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงปัญหาความขัดแย้งที่พรรคร่วมรัฐบาลกดดันให้พรรคประชาธิปัตย์แก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับเขตเลือกตั้งว่า เป็นแนวคิดทางหนึ่งของการแก้ไขปัญหาโคตรโกงหรือโกงทั้งโคตร หลังการยึดอำนาจ 19 ก.ย. 2549 ว่าเหตุใดการเมืองไทยจึงพัฒนามาถึงขั้นนี้ ทั้งที่ประชาธิปไตยไทยใช้มา 70 ปี แต่ก็ยังเป็นแบบนี้ สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากธุรกิจการเมืองแบบโคตรโกงหรือโกงทั้งโคตร ซึ่งมาจากที่นักการเมืองใช้เงินซื้อเสียงในการเลือกตั้งมากขึ้น ๆ ตามลำดับ จึงมีการคิดแก้ไขปัญหานี้
ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า แม้จะมีตัวบทกฎหมายแต่ก็เป็นเพียงกฎหมาย ส่วนเรื่องการปฏิบัติก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง จึงมีการคิดเรื่องเขตเลือกตั้งใหญ่แบบเขตใหญ่เรียงเบอร์มาเปรียบเทียบกับเขตเลือกตั้งแบบเขตเดียว เบอร์ เดียวว่าเขตเลือกตั้งแบบใดซื้อเสียงได้ง่าย กว่ากัน สรุปแล้วพบว่าเขตใหญ่ซื้อเสียงได้ยากกว่า
* เขตใหญ่เหมาะกว่าเขตเล็ก
นายชวน กล่าวว่า ในฐานะผู้ปฏิบัติมองว่าการเลือกตั้งเขตเล็กแบบเขตเดียว เบอร์เดียว จะทำให้เกิดการซื้อเสียงได้ง่าย กว่าและรุนแรง มีการยอมซื้อจำนวนมากเพียงเพื่อเอาชนะ ขณะที่แบบเขตใหญ่เรียงเบอร์ยังเบากว่า แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มีการซื้อเสียงเลย เพียงแต่ซื้อเสียงได้น้อยและทำได้ยากกว่า ทั้งหมดคือส่วนหนึ่งของการพยายามแก้ไขการเมืองแบบธุรกิจการเมือง ซึ่งในการประชุม ส.ส. ที่ จ.กระบี่ ก็มีความเห็นหลากหลายและตรงไปตรงมา โดยยึดหลักประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง ส.ส.ส่วนใหญ่เห็นว่าระบบเขตเลือกตั้งแบบเขตใหญ่จะเป็นประโยชน์มากกว่าในสถานการณ์ของประเทศในขณะนี้ ส่วนวันข้างหน้าก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งปัญหา เฉพาะหน้าของประเทศไทย คือ จะทำอย่างไรที่จะป้องกันไม่ให้ธุรกิจการเมืองรุกล้ำเข้ามาได้ม ากกว่านี้อย่างที่เป็นอยู่ อย่างไรก็ตามมี ส.ส. บางคนในพรรคก็คิดว่าน่าจะใช้ระบบเลือกตั้งแบบเขตเล็ก
* ติดใจสัญญาพรรคร่วมตั้ง รบ.
ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่ถ้าไม่แก้ตามที่ พรรคร่วมรัฐบาลต้องการอาจจะมีปัญหากับพรรคร่วมตามมาหรือไม่ นายชวน ยอมรับ ว่า เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่คณะกรรมการบริหารพรรคจะพูดกัน แต่ภายในพรรค ส.ส.ได้แสดงความคิดเห็นหลากหลาย เพราะการมองถึงประโยชน์ส่วนตัวและประโยชน์ส่วนรวมต้องแยกออกจากกัน ทั้งนี้ตนเห็นว่าเขตใหญ่น่าจะแก้ปัญหาได้ เมื่อถามต่อว่า ถ้ามติกรรมการบริหารพรรคออกมาอย่างไรก็ต้องยอมรับ ไม่น่ามีปัญหาความขัดแย้งภายในพรรครุนแรงใช่หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ในพรรคถือว่ามีวินัยดี แต่ในการประชุมที่ จ.กระบี่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค มีภารกิจต้องเดินทางออกไปก่อนแล้ว จะไปตัดสินได้ อย่างไร
และประเด็นนี้ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องของเขตที่เป็นเรื่องต้องตัดสินกัน เพราะมีการตกลงระหว่างการตั้งรัฐบาลว่าเป็นอย่างไร นี่คือส่วนที่มีการพูดกันนอกเหนือจากเหตุผลเขตเล็กเขตใหญ่ ประเด็นคือพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นผู้ตั้งรัฐบาลได้ตกลงกับเพื่อนร่วมรัฐบาลอย่างไร
* เทือกปัดพรรคร่วมกดดัน
ต่อข้อถามว่า มีการมองว่านายชวนเสียท่าที่ให้กรรมการบริหารพรรคตัดสิน เพราะในกรรมการบริหารพรรคมีคนที่สนับสนุนเขตเล็กมากกว่า นายชวน กล่าวปฏิเสธว่า ไม่คิดว่าทางออกที่ดี คือ มอบให้กรรมการบริหารทำงานแทนพรรค ซึ่งกรรมการบริหาร พรรคก็ต้องรับผิดชอบต่อการตัดสินใจ
ขณะที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ครม. กรณีพรรคร่วมรัฐบาลเตรียมยื่นญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญปี 2550 ในสัปดาห์หน้าว่า ไม่ได้มองว่าเป็นการกดดันพรรคประชาธิปัตย์ หากพรรคร่วมรัฐบาลจะเดินหน้าก็ทำไป ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ต้องตกลงในพรรคให้ชัดเจนก่อนจากนั้นจะไปแจ้งให้พรรคร่วมรัฐบาลเท่านั้น เมื่อถามว่าหากที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ได้ข้อสรุปในวันเดียวกันนี้จะแจ้งให้พรรคร่วมทราบทันทีหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ทันได้แจ้ง สื่อมวลชนทั้งหลายก็บอกหมดแล้ว
* มติ กก.บห. ไม่ร่วมลงชื่อญัตติ
ต่อมาเวลา 13.40 น. ที่อาคาร ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช พรรคประชาธิปัตย์ มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อหาข้อสรุปเรื่องการแก้ไขรัฐธรรม นูญ มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ และหัวหน้าพรรคเป็นประธานการประชุม พร้อมด้วยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค และกรรมการบริหารพรรคอีก 14 คนเข้าร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง ขาดไปเพียง 3 คน คือ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ ที่ติดราชการต่างประเทศ นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกฯ และ นางอัญชลี วานิช เทพบุตร รองเลขาธิการนายกฯ ซึ่งที่ประชุมใช้เวลาหารือเพียง 30 นาที เท่านั้น
จากนั้น นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษก พรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ที่ประชุมเห็นว่าการยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของแต่ละพรรคการเมืองที่สามารถเสนอญัตติได้ตามกลไกรัฐสภา ขณะนี้มี ส.ส.ที่เข้าร่วมยื่นญัตติครบ 1 ใน 5 คือ 95 คนแล้ว ดังนั้นคณะกรรมการบริหารพรรคจึงเห็นว่าจะไม่เข้าร่วมยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ไม่ได้หมายความว่าพรรคไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
* ชงที่ประชุม ส.ส. พิจารณาต่อ
ส่วนการพิจารณาว่าจะเห็นด้วยกับญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของสภา ซึ่งกรรมการบริหารพรรคเห็นว่าจะให้ที่ประชุม ส.ส. หารือกันต่อ ส่วนเรื่องฟรีโหวตนั้น ตนมั่นใจว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่มีเอกภาพ
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า มติของกรรมการบริหารพรรคครั้งนี้ ไม่ใช่การตีสองหน้า และมั่นใจว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะเข้าใจว่าพรรคประชาธิปัตย์มีกระบวนการในการตัดสินใจ โดยต้องมีการแสดงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวาง และที่ผ่านมาพรรคร่วมรัฐบาลได้มีแนวการทำงานอย่างชัดเจน คือ มุ่งเน้นแก้ปัญหาประชาชนร่วมกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากการประชุม คณะกรรมการบริหารพรรคเสร็จสิ้น นายอภิสิทธิ์ ได้นำมติของคณะกรรมการบริหารพรรคเข้าแจ้งต่อที่ประชุม ส.ส.ซึ่งประชุมอยู่ที่ห้องประชุมชั้น 3 ตึกเดียวกันทันที
* เติ้งโบ้ยเป็นเรื่องของสภา
ที่พรรคชาติไทยพัฒนา นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ตนเป็นเพียงผู้สังเกตการณ์ขอให้ไปถามนายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ส่วนการเดินสายพบปะแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ของพรรคชาติไทยพัฒนาที่ผ่านมา ตนแค่ไปนั่งร่วมอยู่ด้านหลัง ส่วนโอกาสที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะประสบความสำเร็จหรือไม่คงต้องไปถามพรรคร่วมรัฐบาล
เมื่อถามย้ำว่า ขณะนี้ดูเหมือนพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคกำลังรอท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์อยู่ใช่หรือไม่ นายบรรหาร กล่าว ว่า ไม่ทราบ เท่าที่ทราบเรื่องนี้เป็นเรื่องของสภาผู้แทนราษฎร เมื่อถามต่อว่าหากได้รับเสียงสนับสนุนจากพรรคประชาธิปัตย์จะทำให้เสียงสนับสนุนเพียงพอด้วยใช่หรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า สื่ออย่าถามนำ ถ้าพอมันก็ทำได้ ถ้าไม่พอก็ทำไม่ได้ เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่าหากพรรคประชาธิปัตย์ไม่ร่วมสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญพรรคร่วมรัฐบาลอาจเปลี่ยนขั้วไปร่วมมือกับพรรคเพื่อไทย นายบรรหาร กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ให้ไปถามพรรคร่วมรัฐบาล
* ชุมพลชี้ไม่ทำ รบ. สะเทือน
นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่ากรณีคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ไม่ตอบรับ 5 พรรคร่วมรัฐบาลในการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ขั้นตอนนี้เป็นเพียงการนำเสนอญัตติเข้าสู่สภาเท่านั้น จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยเอาไว้ตอนอภิปรายและลงมติ แต่หลังอภิปรายแล้วโลกมันกลมหมุนไปหมุนมาอาจจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ได้ ดังนั้นยืนยันว่าไม่ได้ รอมติพรรคประชาธิปัตย์ แต่ต้องการเสนอญัตติเข้าสู่สภา เพื่อดึงปัญหานอกสภาทั้งหมดเข้าไปพูดในสภาเท่านั้น
ต้องชมพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นประชาธิปไตยพอสมควร ประชุมพรรคก็โยนให้กรรมการบริหาร ซึ่งกรรมการบริหารก็ยก อย่างไรก็ตามยืนยันไม่มีปัญหาในการร่วมรัฐบาล เพราะคนละประเด็นกัน กติกาในการร่วมรัฐบาลเป็นคนละกติกากันเลย ไม่เกี่ยวข้องซึ่งกันและกัน การแก้ไขรัฐธรรม นูญเป็นเรื่องของสภา ทั้งนี้การร่างญัตติคิดว่าจะเสร็จในวันที่ 27 ม.ค. นี้ และส่งให้ 5 พรรคดูก่อนที่จะนัดหมายว่าจะยื่นกันเมื่อใด นายชุมพล ระบุ
* พผ.วัดใจปชป.ขั้นลงมติ
นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รมว.อุตสาห กรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ให้สัมภาษณ์กรณีมติกรรมการบริหารพรรคประชา ธิปัตย์ ไม่ร่วมลงชื่อในญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาลว่า แค่เสียงพรรคร่วม 5 พรรคก็เพียงพอแล้วสำหรับการยื่นญัตติเสนอแก้รัฐธรรมนูญ และพรรคร่วมต้องเดินหน้าเรื่องนี้อยู่แล้ว ส่วนในขั้นลงมติในสภาผู้แทนราษฎรว่าเห็นด้วยกับญัตติในเรื่องนี้หรือไม่ ก็ต้องไปวัดใจกันว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเอาอย่างไร เมื่อยื่นไปแล้วอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด เรามองมุมดีไว้ก่อนว่าเป็นรัฐบาลร่วมกันก็ต้องเดินร่วมกัน ส่วน กรณีที่การแก้รัฐธรรมนูญอาจส่งผลให้เกิดการยุบสภานั้น นายชาญชัย กล่าวว่า จะยุบก็ยุบเราไม่กลัวอะไร แต่มองว่าเรื่องนี้คงไม่ถึงขั้นต้องยุบสภา
ด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ส.ส.เพื่อไทย ยังยืนยันมติเดิมว่าไม่ร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญ และ ไม่มีการฟรีโหวต เว้นแต่จะมีการปรับโดยนำรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 กลับมาใช้หรือปรับแก้ตามร่างของ คปพร. ที่มีประชาชนเป็นผู้เสนอ
* ตั้งปลัด ก.ท่องเที่ยวฯ คนใหม่
วันเดียวกัน ที่ประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งนายอรรถชัย บุรกรรมโกวิท รอง ผอ.สำนักงบประมาณ สำนักนายกรัฐมนตรี เป็นปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แทนนางสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ทั้งนี้ให้มีผลภายหลังทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง
นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุม ครม. มีมติไม่อุทธรณ์กรณีศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2552 ให้เพิกถอนมติ ครม. เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 2551 ที่ให้ความเห็นชอบร่างคำแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา และแผนที่แนบท้าย ซึ่งสำนักงานอัยการสูงสุดได้มีความเห็นว่าคำพิพากษาของศาลปกครองกลางชอบด้วยเหตุ ผลทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายจึงเห็นควรไม่อุทธรณ์ เนื่องจากคดีนี้จะครบกำหนดอุทธรณ์ในวันที่ 29 ม.ค. นี้ และไม่อาจจะขอขยายเวลาได้ ที่ประชุม ครม. จึงได้มีมติไม่อุทธรณ์คำพิพากษาของศาลปกครองกลางดังกล่าว เพราะถือว่าคำสั่งของศาลปกครองสิ้นสุดแล้ว
* ไฟเขียวซื้อบินรบ 1.63 หมื่นล.
รองโฆษกรัฐบาล แถลงด้วยว่า ที่ประชุม ครม. เห็นชอบหลักการแผนจัดหาและปรับปรุงอากาศยาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 ของกองทัพอากาศตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ โดยให้กองทัพอากาศจัดซื้อเครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์แบบกริพเพ่น 39 ซีดี จำนวน 6 ลำ พร้อมอุปกรณ์การส่งกำลังบำรุง การฝึกอบรม และการปรับปรุงอาคารสถานที่ และการบริหารโครงการ รวมทั้งการรับข้อเสนอพิเศษและความร่วมมือระดับทวิภาคี ตามโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์ ในกรอบวงเงิน 1.63 หมื่นล้านบาท ผูกพันงบประมาณ 5 ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2554-2558 นอกจากนี้ยังอนุมัติให้กองทัพอากาศดำเนินการตามโครง การปรับปรุงขีดความสามารถเครื่องบินขับไล่แบบ 19 ก. ระยะที่ 3 ช่วงที่ 1 จำนวน 6 เครื่อง กรอบวงเงิน 6.9 พันล้านบาท ผูก พันงบประมาณ 3 ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2554-2556
ปชป.หักดิบพรรคร่วมรัฐบาล มิต 82 ต่อ 48 ไม่แก้ รธน.พวงใหญ่เรียงเบอร์ แถมล็อก ส.ส.ไม่ให้ฟรีโหวตอีกชั้น เผย เทือก เจอรุมถล่มยับเยินมาร์ค ไม่กลัวยุบสภา-แพ้ซักฟอก เย้ย เนวิน ราคาคุยสู้ แม้ว ไม่ได้ ชี้ต้องชนะด้วยศรัทธาเท่านั้น อ้างไม่เคยสัญญิงสัญญาแก้ รธน. กับใครที่ไหน ส่วน แม่ นมอมทุกข์ เครียดไม่มีหน้าไปแจ้งข่าวร้าย ฝ่ายลูกแถวจับตานับถอยหลังยุบสภา ด้าน พรรคร่วม ยังหวัง ปชป. กลับลำช่วยโหวต เนวิน แขวะปอดแหก ปู่จิ้น แบะท่าไฟเขียวลูกพรรคสวนหมัด ขณะที่กองทัพ ปัดข่าวปฏิวัติพัลวัน ส่วน บิ๊กป๊อก-บิ๊กตู่ หายเข้ากลีบเมฆ บิ๊กป้อม ยันการเมืองแก้ปมเอาเอง เทือก มั่นใจ ผบ.เหล่าทัพไม่ยึดอำนาจ แจงเคลื่อนรถถังมาซ่อมก่อนส่งไปนอก สหรัฐ ฮึ่มตอบโต้รัฐประหาร ด้าน เหลิม ชี้ บิ๊กรัฐบาลสั่งทหารช่วยรักษาเก้าอี้ ฝ่ายรัฐบาลน้อมรับพระราชดำรัสในหลวง
* เทือกน้อมรับพระราชดำรัส
เมื่อวันที่ 26 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราโชวาทแก่ตุลาการศาลปกครองที่เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ฯ โดยทรงย้ำเตือนเรื่องความเป็นกลางและความยุติธรรมต่าง ๆ ว่า กระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องถือว่าเป็นมงคลสูงสุดของประเทศ ทุกฝ่ายต้องรับใส่เกล้าไปปฏิบัติ ถ้าพวกเราได้ย้อนไปดูประวัติศาสตร์ บ่อยครั้งที่บ้านเมืองเกิดวิกฤติทางด้านความคิด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทาน กระแสพระราชดำรัสแล้วแต่ละฝ่ายที่มีหน้าที่ได้รับใส่เกล้าไปปฏิบัติก็บังเกิดเป็นผลดีต่อประเทศชาติและประชาชนมาโดยตลอด
* ทรงย้ำเตือนสติคนไทยทุกคน
รองนายกฯ กล่าวต่อว่า รัฐบาลเทิดทูนในพระบารมีและมีความจงรักภักดีอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นเรื่องที่คณะรัฐบาลต้องรับใส่เกล้ายึดเป็นแนวทางในการปฏิบัติ แม้ว่าจะไม่ใช่เป็นผู้ที่จะต้องพิจารณาพิพากษาคดีความทั้งหลาย เหมือนกับคณะตุลาการศาลปกครอง แต่งานของรัฐบาลในหลายเรื่องที่ต้องอำนวยความยุติธรรมก็จะต้องทำอย่างตรงไปตรงมา
ต่อข้อถามว่า แสดงว่าจะต้องมีสิ่งผิดปกติอะไร เพราะทรงย้ำเตือนนานมาก นายสุเทพ กล่าวว่า คงไม่ใช่ พระองค์ทรงมีพระราชดำรัสในวโรกาสต่าง ๆ ได้ทรงแนะนำย้ำเตือนทุกครั้ง และทั้งหมดจะทำให้พี่น้องประชาชนคนไทย ข้าราชการทั้งหลายจะได้มีสติระลึกได้ว่าพระองค์ท่านซึ่งเหมือนพ่อของคนไทยทั้งประเทศ ทรงห่วงใยบ้านเมือง และประชาชน ทรงให้สติให้ทุกคนระลึกถึงความสำคัญในหน้าที่ของตนเอง เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เฉพาะผู้ที่รับสั่งด้วย แต่ประชาชนทั่วไป รัฐบาล และข้าราชการ ก็สมควรที่จะน้อมรับไปปฏิบัติ
* ยันผู้นำเหล่าทัพไม่ยึดอำนาจ
นายสุเทพ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการทำปฏิวัติจนทำให้พรรคเพื่อไทยโหมพูดเรื่องนี้ว่า ไม่ทราบว่าทำไมพรรคเพื่อไทยถึงโหมกระแสนี้ แต่ในฐานะที่ทำหน้าที่ด้านความมั่นคงและทำงานอยู่อย่างใกล้ชิดกับผู้นำเหล่าทัพตลอด ขอยืนยันกับประชาชนว่า บรรดาผู้นำเหล่าทัพในยุคนี้ยึดมั่นในแนวทางประชาธิปไตย และยืนยันที่จะสนับสนุนรัฐบาลประชาธิปไตยเพื่อที่จะทำงานแก้ไขปัญหาของประเทศชาติและประชาชน ไม่มีแนวคิดที่จะทำปฏิวัติรัฐประหาร
ส่วนสถานการณ์ทางการเมืองนั้น รองนายกฯ กล่าวว่า ผู้นำเหล่าทัพทั้งหลายต้องการให้การเมืองแก้ไขปัญหากันเองโดยวิถีทางทางการเมือง เมื่อถามว่าจะแน่ใจได้อย่างไร เพราะที่ผ่านมา ผบ.เหล่าทัพ บอกว่าไม่ปฏิวัติแต่ก็ทำทุกครั้ง นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นการมองในแง่ร้ายเกินไป ตนได้คลุกคลีอยู่ใกล้ชิด ทำงานร่วมกันมาตลอด 1 ปีเศษก็รู้และเข้าใจในความคิดของแต่ละท่าน
* ชี้เสื้อแดงใช้แผน ปชช. ปฏิวัติ
นายสุเทพ กล่าวอีกว่า เท่าที่ได้ติดตามข่าวกระบวนการของลูกน้อง พ.ต.ท.ทักษิณชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีแผนการพยายามยั่วยุให้เกิดความรุนแรง เพื่อที่จะให้ทหารทน ไม่ได้ และจะได้เอาไปขยายผลเพื่อเรียกร้องประชาชนให้ลุกขึ้นมาต่อสู้ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น เข้าแผนที่เรียกว่า การปฏิวัติประชาชน ซึ่งตนได้ติดตามดูอยู่ตลอดและเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ว่าตำรวจหรือทหารจะไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา เพราะทหารหรือตำรวจก็เป็นข้าราชการของประชาชน ไม่ได้อยู่ฝ่ายใดสีไหนทั้งสิ้น แต่มีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ให้บ้านเมืองอยู่รอด ถ้าใครทำความเดือดร้อนให้บ้านเมืองก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย
เมื่อถามว่า ในอดีตถ้าทหารจะปฏิวัติไม่บอกกันล่วงหน้า รองนายกฯ กล่าวว่า เขาไม่บอกล่วงหน้ากันขนาดนี้ เพราะฉะนั้นไม่มี ผมไม่คิดว่าทหารจะปฏิวัติ ยืนยันเด็ดขาดเลย ถ้าไม่มั่นใจผมก็ไม่พูดจาอย่างนี้
* ป้องบิ๊กตู่เป็นเป้าทำลายล้าง
ต่อข้อถามว่า ถ้ามีการปฏิวัติขึ้นมาพรรคประชาธิปัตย์จะออกมาต่อต้านหรืออยู่เฉย ๆ เหมือนรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่คิดอะไรล่วงหน้า เพราะมันไม่มี ไม่จำเป็นต้องวางแผนไปในสิ่งที่เชื่อว่าไม่มี เมื่อถามย้ำว่า กลุ่มคนเสื้อแดงออกมาระบุชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รอง ผบ.ทบ. จะเป็นคนทำปฏิวัติ นายสุเทพ กล่าวว่า เสื้อแดงคงหาคนเป็นเป้าไปเรื่อย ๆ ไม่ได้เป็นสาระอะไร
รองนายกฯ ยังกล่าวถึงการเคลื่อนย้ายรถถังในคืนวันที่ 25 ม.ค. ที่ผ่านมาว่า ได้รับรายงานแล้ว ถ้าจำได้เราต้องเอากองกำลังไปทำหน้าที่รักษาสันติภาพในนามของสหประชาชาติที่ประเทศซูดาน ถึงเวลาต้องไปก็ต้องนำเครื่องไม้เครื่องมืออาวุธยุทโธปกรณ์มาซ่อมบำรุงให้เรียบร้อย รถหุ้มเกราะเหล่านี้เป็นเพียงไม่กี่คันที่ต้องเอาไปใช้ จึงต้องเอามาซ่อม และกองทัพคิดว่านำเข้ามาในช่วงที่ไม่เป็นปัญหา จึงนำขึ้นรถไฟมาลงและเคลื่อนย้าย แต่คงมีข้อบกพร่องว่าไม่ได้แจ้งให้ประชาชนทราบก่อนทำให้ เป็นข่าวตกอกตกใจกัน ต้องขออภัยพี่น้องประชาชนด้วย
* บิ๊กป้อมให้การเมืองแก้ปม
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว. กลาโหม ให้สัมภาษณ์เรื่องเดียวกันว่า การ เคลื่อนย้ายรถถังก็เป็นการเตรียมไปซ่อมเพื่อไปใช้ที่เมืองดาร์ฟู ประเทศซูดาน ยืนยันว่าไม่มีเรื่องการปฏิวัติ ที่ผ่านมา พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ได้ยืนยันแล้วว่าไม่มีการปฏิวัติ ผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรต่อกรณีดังกล่าวที่มีข่าวหนาหู พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า แล้วแต่จะคิด เพราะคนมีจำนวนมากเชื่อว่าคงเป็นการคิดกันไปเอง ไม่มีอะไร การเมืองก็คือการเมือง คงต้องพูดกันในเรื่องของการเมือง และการเมืองคงต้องแก้ปัญหาเรื่องการเมือง แต่เรื่องความสงบสุข หน่วยความมั่นคงต้องเป็นผู้ดูแล เพื่อให้ประชาชน มีความสงบสุข อย่างไรก็ตามเราก็ต้องติดตามดูตลอดเวลา
เมื่อถามว่า มีคลื่นใต้น้ำเกิดขึ้นภายในกองทัพหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มีและตนคงไม่ต้องมีคำสั่งเพื่อกำชับแต่อย่างใด เพราะเป็นงานเพื่อความมั่นคง ยืนยันภายในกองทัพไม่เกิดความแตกแยกแน่นอน
* สหรัฐขู่ตอบโต้รุนแรงแน่
วันเดียวกัน เวลา 09.30 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายบีด กิลเบิร์ต คอร์รี่ เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย และนายอีริค จี จอห์น เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้ทยอยเดินทางเข้าพบ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย โดย พล.อ.ชวลิต ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการปฏิวัติ
นายพิทยา พุกกะมาน คณะทำงานฝ่ายต่างประเทศ พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์และสหรัฐ ได้เข้าพบ พล.อ.ชวลิต เพื่อรับทราบข้อมูลและสอบถามท่าทีของพรรคเพื่อไทยต่อเหตุการณ์ทางการเมืองต่าง ๆ เช่น การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ความเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดง และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยอมรับว่ามีการพูดคุยถึงประเด็นกระแสข่าวเรื่องการปฏิวัติรัฐประหารในประเทศไทยด้วย ซึ่งเอกอัครราชทูตสหรัฐวิเคราะห์ว่าการรัฐประหารคงเป็นเพียงข่าวลือ ไม่น่าจะเกิดขึ้นจริง เพราะถ้าจริงคงไม่มีข่าวรั่วออกมา นอกจากนี้ยังระบุว่าสถานการณ์ปัจจุบันถ้ามีการรัฐประหารก็ยากจะสำเร็จ หรือถ้าเกิดขึ้นอีกครั้งก็เชื่อว่าทางการสหรัฐจะมีปฏิกิริยาตอบโต้ค่อนข้างรุนแรงกว่าครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากไม่ยอมรับวิธีการดังกล่าว
* เหลิมฟุ้งเผ่นหนีข่าวปฏิวัติ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทยว่า บ่ายวันเดียวกันระหว่างที่ พล.อ.ชวลิต กำลังเดินทางออกจากพรรค ได้เดินสวนกับ ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย จากนั้น ร.ต.อ.เฉลิม ได้ทักทายและขอขึ้นรถส่วนตัวของ พล.อ.ชวลิต ที่จอดติดเครื่องรอเพื่อหารือลับนานกว่า 5 นาที ก่อนออกมาให้สัมภาษณ์ถึงข่าวเดินทางไปพบ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีต นายกฯ ที่ประเทศกัมพูชา เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เดินทางไปกัมพูชาจริง แต่ไม่ได้ไปหา พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ที่ดูไบ และตนไม่ได้ไปที่กรุงพนมเปญ เพียงแต่ไปหาคนรู้จัก โดยนั่งรถจากด่านปอยเปตไปประมาณ 2 ชั่วโมง ตั้งแต่เช้าวันที่ 23 ม.ค. และกลับมาวันที่ 25 ม.ค.
ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย อ้างว่าสาเหตุที่เดินทางไปกัมพูชา เนื่องจากได้ข่าวว่าจะมีปฏิวัติรัฐประหาร ก็ขอเผ่นก่อน บอกตามตรงว่ากลัว ตนเคยโดนเมื่อครั้งสภารักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) ปฏิวัติแล้วถูกตามล่าต้องหนีอยู่ในป่า 3 สัปดาห์ กลางทะเลอีก 5 สัปดาห์ เพื่อหนีการถูกลอบสังหาร พวกที่ตามล่าตนตอนนี้ก็เวรกรรมสนอง บางคนเป็นอัลไซเมอร์ บางคนต้องนั่งรถเข็น ตนไม่ได้ผูกใจเจ็บอะไร แต่คิดว่าไม่เอาอีกแล้ว
* อ้างบิ๊กรัฐบาลต้นคิดก่อการ
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวด้วยว่า การเตรียมการปฏิวัติเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ต้นเหตุไม่ใช่กลุ่มทหาร แต่เป็นพวกนักการเมืองที่เสพติดอำนาจ แล้วรู้ตัวว่าจะอกหักจึงไปปลุกปั่นให้ทหารก่อการ เพราะรู้ว่าตัวเองอยู่ไม่ได้แล้ว เพราะไปหักหลังพรรคร่วมรัฐบาลซึ่งพรรคร่วมก็ความรู้สึกช้า พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีทางร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะหากแก้ไปแล้วมีการเลือกตั้งอย่างไรก็ต้องแพ้ พรรคเพื่อไทยได้เสียงเกินครึ่งแน่นอน และตนเห็นพ้องกับ พล.ต. จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่ารัฐบาลต้องกล้าเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย แล้วยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้ง
ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามตอนนี้เช็กข่าวแล้ว ไม่มีการปฏิวัติแน่นอน เพราะผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน 96.4% เห็นพ้องต้องกันว่าระบอบประชาธิปไตยเป็นระบอบที่ดีที่สุด ดังนั้นไม่มีใครทำแน่นอน ส่วนเรื่องรถถังที่ออกมาวิ่งเมื่อคืนที่ผ่านมาตรวจสอบแล้วเป็นรถถังที่ใช้ในภาคใต้ และไปส่งโรงซ่อมจริง ๆ
* พัลลภลั่นไม่หมูเหมือนเก่า
เมื่อถามว่า คิดว่านายกฯ ทราบเรื่องกลุ่มที่กลัวเสียอำนาจวางแผนปลุกปั่น ปฏิวัติ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ทราบว่านายกฯ รู้หรือไม่ แต่เป็นฝีมือของพวกที่มี อำนาจที่กลัวจะเสียอำนาจและถูกเช็กบิล เมื่อถามว่าได้หารือกับ พล.อ.ชวลิต อย่างไรบ้าง ร.ต.อ.เฉลิม เปิดเผยว่า ได้วิเคราะห์สถานการณ์แล้วเห็นตรงกันหมดทั้งข่าวปฏิวัติและการตัดสินใจไม่กล้าปฏิวัติ
พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ไม่อยากบอกว่าจะมีรัฐประหารหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาต่างเชื่อกันว่าจะไม่มีการทำรัฐประหารอีกแล้ว แต่ก็เกิดการรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 จนได้ อย่างไรก็ตามส่วนตัวเชื่อจะไม่มีการปฏิวัติเกิดขึ้น เนื่องจากครั้งที่ผ่านมาได้สร้างความเสียหายให้กับบ้านเมืองอย่างมาก หากจะมีรัฐประหารเกิดขึ้น อีกครั้งพูดได้เลยว่าครั้งนี้จะไม่หมูเหมือนที่ผ่านมาแน่นอน
* ปูดบิ๊กป๊อกไม่ยอมเล่นด้วย
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แถลงว่า ได้รับรายงานว่ามีบุคคลกลุ่มหนึ่งเคลื่อนไหวเตรียมพร้อมก่อการปฏิวัติรัฐประหารจริง โดยเมื่อวันที่ 23 ม.ค. ที่ผ่านมา มีการประชุมลับของนายทหารระดับผู้บัญชาการทุกเหล่าทัพ พร้อมด้วยฝ่ายตำรวจ รวมถึงนักการเมือง ซึ่งเป็นรัฐมนตรีจากพรรคใหญ่ มีบทบาทสูงในรัฐบาลเข้าร่วมด้วย 1 คน ที่กองทัพอากาศดอนเมือง มีนายทหารยศพล.อ. นั่ง หัวโต๊ะประชุมเช็กกำลัง และได้สอบถามผู้นำเหล่าทัพทั้งหมดว่าจะให้ความร่วมมือหรือไม่ แต่กองทัพเรือและฝ่ายตำรวจปฏิเสธ รวมทั้งมอบหมายให้กรมทหารราบที่ 21 ใช้กำลังจัดการแกนนำเสื้อแดงในเบื้องต้น แต่ก็ได้รับการปฏิเสธเช่นเดียวกัน
แกนนำ นปช. เปิดเผยว่า แผนการยึดอำนาจครั้งนี้ได้วางตัว พล.อ.คนดังกล่าวเป็นผู้นำ เนื่องจาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ต้องการเกษียณอายุราชการในตำแหน่ง ผบ.ทบ. แต่ขณะเดียวกัน พล.อ.อนุพงษ์ ได้สะสมทุกอย่างเพื่อรองรับบั้นปลายชีวิต
* ถกวันบุก ทบ. ถามใจบิ๊กตู่
นายจตุพร เปิดเผยอีกว่า อีกทั้งยังเป็นที่ชัดเจนว่า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ได้วางตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รอง ผบ.ทบ. ดูได้จากนายทหารตบเท้าเข้าอวยพรครั้งล่าสุด พล.อ.เปรม เลือกทักทายพูดคุยกับ พล.อ. ประยุทธ์ คนเดียว ส่วนที่ปรากฏว่ามีรถหุ้มเกราะนำมาจอดทิ้งไว้ในจุดต่าง ๆ สร้างความแตกตื่นให้กับประชาชนเมื่อช่วงคืนวันที่ 25 ม.ค. โดยกองทัพชี้แจงว่าจะขนส่งไปปฏิบัติภารกิจ เกิดเสียจึงจอดเพื่อรอซ่อมนั้น เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น
ดังนั้นแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงจึงได้นัดหมายประชุมในวันที่ 27 ม.ค. เพื่อกำหนดวันไปชุมนุมหน้ากองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) เพื่อถาม พล.อ.ประยุทธ์ อย่างลูกผู้ชายว่าจะปฏิวัติหรือไม่ คาดหมายว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะตอบคำถามตรงไปตรงมา แต่พวกผมอยากท้าทายให้ปฏิวัติเลยด้วยซ้ำ เพราะว่าจะได้จัดการในคราวเดียวกันให้จบ พวกผมพร้อมพลีชีพแลกประชาธิปไตย ทันทีที่มีการยึดอำนาจ ศาลากลางทุกจังหวัดจะเต็มไปด้วยคนเสื้อแดงและถนนทุกสายจะมุ่งสู่สนามหลวง แกนนำคนเสื้อแดง ระบุ
* ซัดอำมาตย์ผวาคุมเกมไม่อยู่
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีปัจจัยอะไรบ่งชี้ให้ มั่นใจว่าทหารเตรียมการยึดอำนาจ นายจตุพร กล่าวว่า ขณะนี้อำมาตย์จวนตัวกันหมดอย่าง เช่น คนของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี และอดีตนายกฯ แอบไปทุบบ้านที่เขายายเที่ยงตอนกลางคืน ซึ่งจะปล่อยให้เสื้อแดงเคลื่อนไหวต่อไปไม่ได้ เพราะไม่มั่น ใจว่าจะกุมสภาพได้จึงต้องปฏิวัติก่อนที่คน เสื้อแดงจะชุมนุมใหญ่ ทั้งนี้ตามรายงาน ข่าวที่ตนได้รับมาในที่ประชุมเมื่อวันที่ 23ม.ค. มีบุคคลหนึ่งเสนอว่า ปฏิวัติแล้วให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯ ต่อไป แต่เสียงส่วนใหญ่เสนอชื่อนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกฯ โดยแอบอ้างสถาบันเบื้องสูงเพื่อประโยชน์ตัวเองเหมือนกรณี 19 ก.ย. 2549
* พิรุธเคลื่อนย้ายรถถังกลางดึก
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอตั้งข้อสังเกตว่ามีความผิดปกติในการเคลื่อนย้ายรถหุ้มเกราะ จาก จ.อุตรดิตถ์ มาซ่อมที่ จ.ปทุมธานี ตามที่โฆษกกระทรวงกลาโหมกล่าวอ้าง เนื่อง จากโรงซ่อมรถหุ้มเกราะอยู่ที่ จ.นครราชสีมา จึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องเคลื่อนย้ายจาก จ.อุตร ดิตถ์ เข้ามากรุงเทพฯ ก่อนเดินทางต่อไปยัง จ.นครราชสีมา ทั้งนี้หากรถดังกล่าวต้องเข้ารับการซ่อมจริง รถหุ้มเกราะสามารถวิ่งได้อย่างไร นอกจากนี้จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ทหารที่มากับรถหุ้มเกราะต่างพูดสาเหตุการเคลื่อนย้ายไม่ตรงกัน และมีการพูดถึงพันโท ธ. ว่าเป็นคนรับคำสั่งจากนายทหาร คนหนึ่ง
* วอนตุลาการยึดพระราชดำรัส
นายประเกียรติ นาสิมมา ส.ส.สัดส่วน และประธานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กระแสพระราชดำรัสของในหลวงแสดงให้เห็นถึงความเป็นห่วงของพระองค์ท่านในการปฏิบัติหน้าที่ของฝ่ายตุลาการ ซึ่งวันนี้เกิดปัญหาเรื่องสองมาตรฐานมาก ดังนั้นฝ่ายตุลาการควรจะน้อมนำพระราชดำรัสใส่เกล้าไปปฏิบัติ เพราะหากตุลาการไม่อำนวยความยุติธรรมก็จะถือว่าทรยศต่อพระองค์ท่าน กรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นกรณีหนึ่งที่เห็นถึงความไม่เป็นธรรมอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการไปเอาคนมาปฏิวัติ และตั้งคนที่เป็นปฏิปักษ์อย่างคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ขึ้นมาพิจารณา โดยที่ พ.ต.ท. ทักษิณ ไม่สามารถแก้ตัวได้ เรื่องนี้คนที่ประกาศว่ารักทักษิณทั้งประเทศจะยอมรับได้อย่างไร
* ชวนร่ายยาววิธีแก้ซื้อเสียง
ส่วนความคืบหน้าเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงปัญหาความขัดแย้งที่พรรคร่วมรัฐบาลกดดันให้พรรคประชาธิปัตย์แก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับเขตเลือกตั้งว่า เป็นแนวคิดทางหนึ่งของการแก้ไขปัญหาโคตรโกงหรือโกงทั้งโคตร หลังการยึดอำนาจ 19 ก.ย. 2549 ว่าเหตุใดการเมืองไทยจึงพัฒนามาถึงขั้นนี้ ทั้งที่ประชาธิปไตยไทยใช้มา 70 ปี แต่ก็ยังเป็นแบบนี้ สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากธุรกิจการเมืองแบบโคตรโกงหรือโกงทั้งโคตร ซึ่งมาจากที่นักการเมืองใช้เงินซื้อเสียงในการเลือกตั้งมากขึ้น ๆ ตามลำดับ จึงมีการคิดแก้ไขปัญหานี้
ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า แม้จะมีตัวบทกฎหมายแต่ก็เป็นเพียงกฎหมาย ส่วนเรื่องการปฏิบัติก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง จึงมีการคิดเรื่องเขตเลือกตั้งใหญ่แบบเขตใหญ่เรียงเบอร์มาเปรียบเทียบกับเขตเลือกตั้งแบบเขตเดียว เบอร์ เดียวว่าเขตเลือกตั้งแบบใดซื้อเสียงได้ง่าย กว่ากัน สรุปแล้วพบว่าเขตใหญ่ซื้อเสียงได้ยากกว่า
* เขตใหญ่เหมาะกว่าเขตเล็ก
นายชวน กล่าวว่า ในฐานะผู้ปฏิบัติมองว่าการเลือกตั้งเขตเล็กแบบเขตเดียว เบอร์เดียว จะทำให้เกิดการซื้อเสียงได้ง่าย กว่าและรุนแรง มีการยอมซื้อจำนวนมากเพียงเพื่อเอาชนะ ขณะที่แบบเขตใหญ่เรียงเบอร์ยังเบากว่า แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มีการซื้อเสียงเลย เพียงแต่ซื้อเสียงได้น้อยและทำได้ยากกว่า ทั้งหมดคือส่วนหนึ่งของการพยายามแก้ไขการเมืองแบบธุรกิจการเมือง ซึ่งในการประชุม ส.ส. ที่ จ.กระบี่ ก็มีความเห็นหลากหลายและตรงไปตรงมา โดยยึดหลักประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง ส.ส.ส่วนใหญ่เห็นว่าระบบเขตเลือกตั้งแบบเขตใหญ่จะเป็นประโยชน์มากกว่าในสถานการณ์ของประเทศในขณะนี้ ส่วนวันข้างหน้าก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งปัญหา เฉพาะหน้าของประเทศไทย คือ จะทำอย่างไรที่จะป้องกันไม่ให้ธุรกิจการเมืองรุกล้ำเข้ามาได้ม ากกว่านี้อย่างที่เป็นอยู่ อย่างไรก็ตามมี ส.ส. บางคนในพรรคก็คิดว่าน่าจะใช้ระบบเลือกตั้งแบบเขตเล็ก
* ติดใจสัญญาพรรคร่วมตั้ง รบ.
ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่ถ้าไม่แก้ตามที่ พรรคร่วมรัฐบาลต้องการอาจจะมีปัญหากับพรรคร่วมตามมาหรือไม่ นายชวน ยอมรับ ว่า เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่คณะกรรมการบริหารพรรคจะพูดกัน แต่ภายในพรรค ส.ส.ได้แสดงความคิดเห็นหลากหลาย เพราะการมองถึงประโยชน์ส่วนตัวและประโยชน์ส่วนรวมต้องแยกออกจากกัน ทั้งนี้ตนเห็นว่าเขตใหญ่น่าจะแก้ปัญหาได้ เมื่อถามต่อว่า ถ้ามติกรรมการบริหารพรรคออกมาอย่างไรก็ต้องยอมรับ ไม่น่ามีปัญหาความขัดแย้งภายในพรรครุนแรงใช่หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ในพรรคถือว่ามีวินัยดี แต่ในการประชุมที่ จ.กระบี่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค มีภารกิจต้องเดินทางออกไปก่อนแล้ว จะไปตัดสินได้ อย่างไร
และประเด็นนี้ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องของเขตที่เป็นเรื่องต้องตัดสินกัน เพราะมีการตกลงระหว่างการตั้งรัฐบาลว่าเป็นอย่างไร นี่คือส่วนที่มีการพูดกันนอกเหนือจากเหตุผลเขตเล็กเขตใหญ่ ประเด็นคือพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นผู้ตั้งรัฐบาลได้ตกลงกับเพื่อนร่วมรัฐบาลอย่างไร
* เทือกปัดพรรคร่วมกดดัน
ต่อข้อถามว่า มีการมองว่านายชวนเสียท่าที่ให้กรรมการบริหารพรรคตัดสิน เพราะในกรรมการบริหารพรรคมีคนที่สนับสนุนเขตเล็กมากกว่า นายชวน กล่าวปฏิเสธว่า ไม่คิดว่าทางออกที่ดี คือ มอบให้กรรมการบริหารทำงานแทนพรรค ซึ่งกรรมการบริหาร พรรคก็ต้องรับผิดชอบต่อการตัดสินใจ
ขณะที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ครม. กรณีพรรคร่วมรัฐบาลเตรียมยื่นญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญปี 2550 ในสัปดาห์หน้าว่า ไม่ได้มองว่าเป็นการกดดันพรรคประชาธิปัตย์ หากพรรคร่วมรัฐบาลจะเดินหน้าก็ทำไป ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ต้องตกลงในพรรคให้ชัดเจนก่อนจากนั้นจะไปแจ้งให้พรรคร่วมรัฐบาลเท่านั้น เมื่อถามว่าหากที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ได้ข้อสรุปในวันเดียวกันนี้จะแจ้งให้พรรคร่วมทราบทันทีหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ทันได้แจ้ง สื่อมวลชนทั้งหลายก็บอกหมดแล้ว
* มติ กก.บห. ไม่ร่วมลงชื่อญัตติ
ต่อมาเวลา 13.40 น. ที่อาคาร ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช พรรคประชาธิปัตย์ มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อหาข้อสรุปเรื่องการแก้ไขรัฐธรรม นูญ มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ และหัวหน้าพรรคเป็นประธานการประชุม พร้อมด้วยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค และกรรมการบริหารพรรคอีก 14 คนเข้าร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง ขาดไปเพียง 3 คน คือ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ ที่ติดราชการต่างประเทศ นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกฯ และ นางอัญชลี วานิช เทพบุตร รองเลขาธิการนายกฯ ซึ่งที่ประชุมใช้เวลาหารือเพียง 30 นาที เท่านั้น
จากนั้น นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษก พรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ที่ประชุมเห็นว่าการยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของแต่ละพรรคการเมืองที่สามารถเสนอญัตติได้ตามกลไกรัฐสภา ขณะนี้มี ส.ส.ที่เข้าร่วมยื่นญัตติครบ 1 ใน 5 คือ 95 คนแล้ว ดังนั้นคณะกรรมการบริหารพรรคจึงเห็นว่าจะไม่เข้าร่วมยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ไม่ได้หมายความว่าพรรคไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
* ชงที่ประชุม ส.ส. พิจารณาต่อ
ส่วนการพิจารณาว่าจะเห็นด้วยกับญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของสภา ซึ่งกรรมการบริหารพรรคเห็นว่าจะให้ที่ประชุม ส.ส. หารือกันต่อ ส่วนเรื่องฟรีโหวตนั้น ตนมั่นใจว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่มีเอกภาพ
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า มติของกรรมการบริหารพรรคครั้งนี้ ไม่ใช่การตีสองหน้า และมั่นใจว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะเข้าใจว่าพรรคประชาธิปัตย์มีกระบวนการในการตัดสินใจ โดยต้องมีการแสดงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวาง และที่ผ่านมาพรรคร่วมรัฐบาลได้มีแนวการทำงานอย่างชัดเจน คือ มุ่งเน้นแก้ปัญหาประชาชนร่วมกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากการประชุม คณะกรรมการบริหารพรรคเสร็จสิ้น นายอภิสิทธิ์ ได้นำมติของคณะกรรมการบริหารพรรคเข้าแจ้งต่อที่ประชุม ส.ส.ซึ่งประชุมอยู่ที่ห้องประชุมชั้น 3 ตึกเดียวกันทันที
* เติ้งโบ้ยเป็นเรื่องของสภา
ที่พรรคชาติไทยพัฒนา นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ตนเป็นเพียงผู้สังเกตการณ์ขอให้ไปถามนายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ส่วนการเดินสายพบปะแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ของพรรคชาติไทยพัฒนาที่ผ่านมา ตนแค่ไปนั่งร่วมอยู่ด้านหลัง ส่วนโอกาสที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะประสบความสำเร็จหรือไม่คงต้องไปถามพรรคร่วมรัฐบาล
เมื่อถามย้ำว่า ขณะนี้ดูเหมือนพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคกำลังรอท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์อยู่ใช่หรือไม่ นายบรรหาร กล่าว ว่า ไม่ทราบ เท่าที่ทราบเรื่องนี้เป็นเรื่องของสภาผู้แทนราษฎร เมื่อถามต่อว่าหากได้รับเสียงสนับสนุนจากพรรคประชาธิปัตย์จะทำให้เสียงสนับสนุนเพียงพอด้วยใช่หรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า สื่ออย่าถามนำ ถ้าพอมันก็ทำได้ ถ้าไม่พอก็ทำไม่ได้ เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่าหากพรรคประชาธิปัตย์ไม่ร่วมสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญพรรคร่วมรัฐบาลอาจเปลี่ยนขั้วไปร่วมมือกับพรรคเพื่อไทย นายบรรหาร กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ให้ไปถามพรรคร่วมรัฐบาล
* ชุมพลชี้ไม่ทำ รบ. สะเทือน
นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่ากรณีคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ไม่ตอบรับ 5 พรรคร่วมรัฐบาลในการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ขั้นตอนนี้เป็นเพียงการนำเสนอญัตติเข้าสู่สภาเท่านั้น จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยเอาไว้ตอนอภิปรายและลงมติ แต่หลังอภิปรายแล้วโลกมันกลมหมุนไปหมุนมาอาจจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ได้ ดังนั้นยืนยันว่าไม่ได้ รอมติพรรคประชาธิปัตย์ แต่ต้องการเสนอญัตติเข้าสู่สภา เพื่อดึงปัญหานอกสภาทั้งหมดเข้าไปพูดในสภาเท่านั้น
ต้องชมพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นประชาธิปไตยพอสมควร ประชุมพรรคก็โยนให้กรรมการบริหาร ซึ่งกรรมการบริหารก็ยก อย่างไรก็ตามยืนยันไม่มีปัญหาในการร่วมรัฐบาล เพราะคนละประเด็นกัน กติกาในการร่วมรัฐบาลเป็นคนละกติกากันเลย ไม่เกี่ยวข้องซึ่งกันและกัน การแก้ไขรัฐธรรม นูญเป็นเรื่องของสภา ทั้งนี้การร่างญัตติคิดว่าจะเสร็จในวันที่ 27 ม.ค. นี้ และส่งให้ 5 พรรคดูก่อนที่จะนัดหมายว่าจะยื่นกันเมื่อใด นายชุมพล ระบุ
* พผ.วัดใจปชป.ขั้นลงมติ
นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รมว.อุตสาห กรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ให้สัมภาษณ์กรณีมติกรรมการบริหารพรรคประชา ธิปัตย์ ไม่ร่วมลงชื่อในญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาลว่า แค่เสียงพรรคร่วม 5 พรรคก็เพียงพอแล้วสำหรับการยื่นญัตติเสนอแก้รัฐธรรมนูญ และพรรคร่วมต้องเดินหน้าเรื่องนี้อยู่แล้ว ส่วนในขั้นลงมติในสภาผู้แทนราษฎรว่าเห็นด้วยกับญัตติในเรื่องนี้หรือไม่ ก็ต้องไปวัดใจกันว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเอาอย่างไร เมื่อยื่นไปแล้วอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด เรามองมุมดีไว้ก่อนว่าเป็นรัฐบาลร่วมกันก็ต้องเดินร่วมกัน ส่วน กรณีที่การแก้รัฐธรรมนูญอาจส่งผลให้เกิดการยุบสภานั้น นายชาญชัย กล่าวว่า จะยุบก็ยุบเราไม่กลัวอะไร แต่มองว่าเรื่องนี้คงไม่ถึงขั้นต้องยุบสภา
ด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ส.ส.เพื่อไทย ยังยืนยันมติเดิมว่าไม่ร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญ และ ไม่มีการฟรีโหวต เว้นแต่จะมีการปรับโดยนำรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 กลับมาใช้หรือปรับแก้ตามร่างของ คปพร. ที่มีประชาชนเป็นผู้เสนอ
* ตั้งปลัด ก.ท่องเที่ยวฯ คนใหม่
วันเดียวกัน ที่ประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งนายอรรถชัย บุรกรรมโกวิท รอง ผอ.สำนักงบประมาณ สำนักนายกรัฐมนตรี เป็นปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แทนนางสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ทั้งนี้ให้มีผลภายหลังทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง
นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุม ครม. มีมติไม่อุทธรณ์กรณีศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2552 ให้เพิกถอนมติ ครม. เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 2551 ที่ให้ความเห็นชอบร่างคำแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา และแผนที่แนบท้าย ซึ่งสำนักงานอัยการสูงสุดได้มีความเห็นว่าคำพิพากษาของศาลปกครองกลางชอบด้วยเหตุ ผลทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายจึงเห็นควรไม่อุทธรณ์ เนื่องจากคดีนี้จะครบกำหนดอุทธรณ์ในวันที่ 29 ม.ค. นี้ และไม่อาจจะขอขยายเวลาได้ ที่ประชุม ครม. จึงได้มีมติไม่อุทธรณ์คำพิพากษาของศาลปกครองกลางดังกล่าว เพราะถือว่าคำสั่งของศาลปกครองสิ้นสุดแล้ว
* ไฟเขียวซื้อบินรบ 1.63 หมื่นล.
รองโฆษกรัฐบาล แถลงด้วยว่า ที่ประชุม ครม. เห็นชอบหลักการแผนจัดหาและปรับปรุงอากาศยาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 ของกองทัพอากาศตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ โดยให้กองทัพอากาศจัดซื้อเครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์แบบกริพเพ่น 39 ซีดี จำนวน 6 ลำ พร้อมอุปกรณ์การส่งกำลังบำรุง การฝึกอบรม และการปรับปรุงอาคารสถานที่ และการบริหารโครงการ รวมทั้งการรับข้อเสนอพิเศษและความร่วมมือระดับทวิภาคี ตามโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์ ในกรอบวงเงิน 1.63 หมื่นล้านบาท ผูกพันงบประมาณ 5 ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2554-2558 นอกจากนี้ยังอนุมัติให้กองทัพอากาศดำเนินการตามโครง การปรับปรุงขีดความสามารถเครื่องบินขับไล่แบบ 19 ก. ระยะที่ 3 ช่วงที่ 1 จำนวน 6 เครื่อง กรอบวงเงิน 6.9 พันล้านบาท ผูก พันงบประมาณ 3 ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2554-2556
26 มกราคม 2553
เคล็ดลับ
95. ยำปลาหมึกให้อร่อย นำปลาหมึกสดๆ มาหั่นแล้วล้างให้สะอาด จึงนำมาคลุกกับแป้งมันสำปะหลังให้ทั่ว ทิ้งไว้ 5 นาที นำไปล้างออก แล้วจึงนำไปลวกในน้ำเดือด ตักใส่จานปรุงรสตามชอบ.96. ต้มไข่ไม่ให้เปลือกแตก ให้ใส่เข็มหมุดสัก 2-3 ตัว ลงในน้ำที่ใช้ต้มไข่จะทำให้ไข่ไม่แตก.97. ไขกุญแจให้ออกง่าย ให้หาผงดินสอดำใส่เข้าไปในรูกุญแจนั้น ผงดินสอดำจะช่วยให้ไขออกง่าย.98. ต้มปลาให้ก้างอ่อนยุ่ย ให้นำอ้อยมาปอกเปลือกตัดเป็นเสี้ยวๆ วางลงในหม้อที่ต้มปลา และนำปลามาวางทับ เติมน้ำพอประมาณตั้งไฟสัก 40 นาที ปลาจะมีเนื้อแข็ง และก้างจะอ่อนยุ่ย.99. อบเป็ดให้อร่อย ก่อนนำเป็ดเข้าอบให้ใช้ส้มผ่าครึ่งซีก ทาให้ทั่วตัวเป็ด แล้วนำไปอบ เป็ดจะนุ่มน่ากิน.100. ล้างแก้วเจียรนัยให้สะอาด ให้นำเปลือกมันฝรั่งไปใส่ในแก้วเจียรนัยหรือแจกันที่มีคราบสกปรก แช่น้ำทิ้งไว้ 2-3 ชั่วโมง แล้วล้างด้วยน้ำธรรมดาจะสะอาดหมดจด.101. ขจัดรอยจีบกระโปรง ใช้ฟองน้ำชุบน้ำส้มสายชู ทาตรงรอยจีบให้ทั่ว แล้วใช้ผ้าบางๆ ทาบรีดด้วยเตารีดอุ่นๆ รอยจีบกระโปรงหรือรอยเลาะตรงขากางเกงจะเรียบหายไปตามต้องการ.102. วิธีรักษาเครื่องซักผ้า ให้ใช้น้ำอุ่นพอประมาณ ผสมน้ำสมสายชูสักครึงลิตรใส่ลงไปในเครื่องซักผ้า เปิดสวิตซ์ทำงานปกติ น้ำส้มสายชูจะช่วยไล่คราบฝุ่นออกจากตัเครื่อง และป้องกันการอุดตันได้ด้วย.103. ทำน้ำเชื่อมให้ดูน่ารับประทาน ใส่เปลือกไข่ที่ขยี้ให้ละเอียดลงไปสัก 2-3 ฟอง ขณะเคี่ยวน้ำเชื่อม ตั้งทิ้งไว้จนมีฟองสกปรกขึ้นมา ช้อนฟองออกเคี่ยวต่อไปจนฟองสกปรกหมดจึงกรองด้วยผ้าขาวบาง.104. ทำวุ้นให้ใสแวววาว ต้มน้ำวุ้นให้เดือดได้ที่ก่อน แล้วจึงเติมน้ำตาล ปิดไฟทันที และคนให้ละลาย การเคี่ยวน้ำตาลนานๆ จะทำให้ได้วุ้นมีสีขุ่นไม่ใสแวววาว.105. วิธีกำจัดมดในครัว ใช้น้ำส้มสายชูเช็ดตรงทางเดินมด มดจะไม่เดินมาบริเวณที่เราเช็ดด้วยน้ำส้มสายชูไว้.106. ลวกลูกชิ้นปลาที่เก่าและเหม็นคาวให้อร่อย ลูกชิ้นปลาที่แช่ตู้เย็นไว้นานๆแล้วมีกลิ่นเหม็นคาว ให้ล้างด้วยน้ำผสมกับน้ำส้มสายชู จากนั้นจึงลวกลูกชิ้น แล้วค่อยนำไปประกอบอาหาร. 107. หากทำแกงเผ็ดหรือน้ำซุปแล้วมีรสเค็มเกินไป ให้ฝานมันฝรั่งดิบ ลงไปเคี่ยวต่อจนมันฝรั่งสุก หากเป็นประเภทพะโล้ หรืออาหารตุ๋นที่เค็มไป ควรเติมน้ำส้มสายชูและน้ำตาลลงไปอย่างละ 1 ช้อนชาจะช่วยลดความเค็มลงได้.108. ป้องกันแมลงรบกวนข้าวสาร ใช้ใบมะกรูดวางไว้บนข้าวสาร หรืออาจจะใส่ผสมปนเปไว้ในข้าวสารเลยก็ได้ ซึ่งหากข้าวสารมีจำนวนมาก ก็ใส่ใบมะกรูดมากหน่อย รับรองจะไม่มีแมลงมารบกวนอีกต่อไป หากข้าวสารยังใช้ไม่หมดแต่ใบมะกรูดที่วางไว้แห้งหรือหมดกลิ่นไปแล้วก็ให้เปลี่ยนใบมะกรูดเสียใหม่ ไม่งั้นเดี๋ยวเจ้าแมลงได้ใจกลับมารบกวนอีก.
25 มกราคม 2553
เคล็ดลับ 10 ข้อให้คุณดูสดใสขึ้นทันตา
เคล็ดลับ 10 ข้อให้คุณดูสดใสขึ้นทันตา
เคล็ดลับ ความสวยความงาม 10 ข้อที่จะทำให้คุณดูดี ดูสวยงาม มาฝากค่ะ สาว ๆ คนไหนอยากดูดี และสวยงามคลิกอ่าน บทความ เกร็ดความรู้ เคล็ดลับ เรื่องนี้กันเลยค่ะ
อิ่มกำลังดีกับมื้อเช้าแสนวิเศษ เราต่างก็รู้เหมือนๆ กันว่า มื้อเช้าเป็นมื้อสำคัญที่สุด แต่หลายคนต้องรีบเร่งทำเวลาก่อนออกจากบ้าน จึงพลาดมื้อเช้าไปอย่างน่าเสียดาย แม้จะพยายามชดเชยด้วยเครื่องดื่มร้อนๆ หรือน้ำผลไม้สักแก้ว กับขนมขบเคี้ยวจำพวกแป้งทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นคุกกี้ ขนมปังหรือ ปาท่องโก๋ก็ตาม แต่พลังงานที่ได้รับก็ยังไม่เพียงพอให้คุณได้ เต็มที่ กับงานและทุกสิ่งที่ประเดประดังเข้ามาในวันนั้น ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า หากคุณผ่านคืนวานอันเหนื่อยล้า และต้องการเรียกพลังกลับคืนมาโดยเร่งด่วน ต้องถือเป็นกฏเหล็กที่จะไม่งดมื้อเช้าในวันนั้น ทั้งนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นมื้อหนัก อาหารเช้าชุดใหญ่อะไรเลย เพราะอาจรู้สึกว่าท้องไส้ยังไม่พร้อมสำหรับการย่อยอาหารปริมาณมากๆ ขอเพียงแต่พยายามเลือกกินอาหารให้ครบห้าหมู่ อย่างละนิดอย่างละหน่อยแล้วตบท้ายด้วยผลไม้สด และนมหรือโยเกิร์ตสักถ้วย ก็จะช่วยเรียกความกระปรี้กระเปร่ากลับคืนมาได้ สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เป็นทางออกง่ายๆ ที่หลายคนมองข้ามเวลาเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า หรือเกิดความเครียดในตัวมากๆ ให้ลองแก้ง่ายๆด้วยการสูดลมหายใจทางจมูกเข้าปอดลึกๆ กลั้นไว้ในช่องอกประมาณ 15-20 วินาที ก่อนจะปล่อยลมหายใจออกทางปากให้หมด ทำซ้ำเช่นนี้ประมาณ 3 ครั้ง คุณจะพบว่ารู้สึกสดชื่นขึ้น ทั้งนี้เป็นเพราะปกติแล้วคนส่วนใหญ่มักจะหายใจเข้าออกกันเพียงช่วงสั้นๆ ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เต็มที่ วิธีนี้จะทำให้ออกซิเจนเข้าปอดคุณอย่างเต็มที่ทำให้รู้สึกปลอดโปร่ง และเลือดลมในร่างกายไหลเวียนสูบฉีดดีขึ้น ดื่มนมสด นมสดแม้หนึ่งแก้วเล็กๆ มีโปรตีนชนิดที่ช่วยสร้างพลังงานให้คุณได้ถึง 3 กรัม ทำให้ร่างกายปรับตัวได้อย่างสมดุล นอกจากนี้ในนมสดก็ยังเป็นแหล่งแคลเซียมที่สำคัญต่อร่างกายอีกด้วย ในหนึ่งแก้วขนาด 100 กรัม มีแคลเซียมสูงถึง 120 มิลลิกรัม ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและฟันได้ดี แถมยังมีฟอสฟอรัสและวิตามินครบถ้วนทั้ง A,B.C, และ E อีกต่างหาก แวบไปว่ายน้ำ ข้อนี้อาจทำยากสักนิด แต่ถ้าคุณหาจังหวะแวบได้ ให้ลงว่ายน้ำสักประมาณ 15-20 นาที อย่างไม่ต้องหักโหมอะไรนัก จะช่วยให้คุณสดใสเปล่งปลั่งขึ้นอย่างประหลาด ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าเป็นเพราะน้ำในสระว่ายน้ำจะช่วยพยุงตัวไม่ให้คุณรู้สึกใช้กำลังมากเหมือนออกกำลังกายในยิม และความเย็นฉ่ำของน้ำจะทำให้รู้สึกสดชื่นกระฉับกระเฉงขึ้น แต่ถ้าหาเวลาไม่ได้จริงๆ อาจจะเลือกอาบน้ำฝักบัวแทนก็ได้ แต่ผลของการลงแหวกว่ายกลางสายธาราจะดีกว่ามาก กล้วยช่วยได้ อย่ามองข้ามผลไม้พื้นบ้านธรรมดาๆ อย่างกล้วยไปได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นกล้วยหอมอร่อยเลิศเลยด้วยซ้ำ จะเป็นกล้วยพันธุ์ไหนก็ได้สักหนึ่งลูก จะช่วยคุณเรียกพลังกลับมาได้ในเวลาอันสั้น เพราะในกล้วยอุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินที่สำคัญต่อร่างกาย ทั้ง A,B,C และ E รวมทั้งเหล็กแป้ง น้ำตาลธรรมชาติ นอกจากนี้ยยังมีโปแตสเซียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่สำคัญ ช่วยรักษาสมดุลของระดับน้ำและความชุ่มชื้นของเซลล์ผิวหนังกับเนื้อเยื่อต่างๆ ในร่างกายอีกด้วย นวดตัวพร้อมกลิ่นหอมบำบัดอารมณ์ อาจจะปลีกเวลาไปนวดตัวช่วงสั้น ๆ โดยเลือกการนวดน้ำมันอโรมาที่กลิ่นหอมของน้ำมันจากธรรมชาติจะช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย และเรียกความสดใสกลับคืนมาได้ แต่หากหาเวลานวดไม่ได้จริง ๆ อาจจะใช้วิธีจุดเตาขนาดเล็กในห้องที่ให้กลิ่นน้ำมันหอมระเหยเหล่านี้แทน ก็สามารถช่วยได้เช่นกัน น้ำผลไม้สด วิตามินซีในน้ำผลไม้ ซึ่งมีในปริมาณสูงอยู่แล้วโดยธรรมชาติจะช่วยเสริมสร้างพลังงานได้ในทันทีทันควัน เพราะน้ำตาลจากรสหวานของผลไม้ ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้เป็นพลังงานได้เลย โดยไม่ต้องย่อยหรือแปรสภาพเหมือนกับน้ำตาลที่ได้จากแหล่งอื่น นอกจากนี้ ยังมีสารต้านอนูมูลอิสระ ช่วยชะลอความแก่และริ้วรอยต่างๆ ได้ดีอีกด้วย ควรพยายามดื่มน้ำผลไม้อย่างน้อยวันละหนึ่งแก้วเป็นประจำหรือจะเป็นน้ำขิงร้อนๆ ก็จะช่วยสร้างความกระปรี้กระเปร่าอย่างเห็นผลทันทีเช่นกัน ถั่วและผลไม้อบแห้ง นี่ก็เช่นกันที่ไม่ควรมองข้ามเพราะทั้งถั่วและผลไม้อบแห้งทั้งหลายมีประโยชน์มากกว่าขนมขบเคี้ยวจำไวกแป้งนัก เนื่องจากอุดมด้วยธาตุเหล็ก ช่วยเสริมสร้างพลังงานและทำให้ระบบการไหลเวียนของเลือดในร่างกายคล่องตัวขึ้น เป็นผลให้ผิวพรรณของคุณดูสดชื่นเปล่งปลั่งกว่าที่เคยเป็น บางคนถึงกับเชื่อว่า การกินอาหารจำพวกถั่วมาก ๆ จะช่วยลดขนาดของไฝ ขี้แมลงวัน หรือตุ่มเล็กตุ่มน้อยตามผิวหนังด้วยซ้ำไป แต่ในสายตาของแพทย์แล้ว ไม่ควรเลือกกินอาหารประเภทใดประเภทหนึ่งซ้ำกันนาน ๆ หรือในปริมาณที่มากเกินปกติ เพราะการกินที่ถูกต้องคือต้องให้คละหมู่หลากหลายประเภทอาหารเข้าไว้ ชื่นใจกับดอกไม้สวย วิธีนี้ง่ายสุด เพียงแค่เดินหาซื้อหรือสั่งดอกไม้สวยหอมๆ สักช่อมาให้รางวัลกับตัวเอง โดยไม่ต้องรอโอกาสพิเศษที่ไหนหรือจากใครทั้งนั้น คุณก็จะได้รับความสดชื่น และรู้สึกเปี่ยมพลังขึ้นในทันทีที่สัผัสกลิ่นหอม และได้ชื่นชมความงามของดอกไม้ช่อสวยหรือถ้าไม่ต้องการการสิ้นเปลืองจะเลือกเดินชมต้นไม้ดอกไม้ตามสวนสาธารณะะที่ได้ชื่อว่าเป็นปอดของกรุงเทพฯ อย่างเช่น สวนเบญจสิริ ย่านสุขุมวิท ก็ได้เช่นกัน หรือไม่ก็อาจจะซื้อต้นไม้กระถางเล็กๆ วางประดับบนโต๊ะทำงานสีเขียวอันสดชื่นของมันช่วยสร้างพลังให้กับคุณได้ในทุกครั้งที่มองเห็น จิบชาสมุนไพร การได้จิบเครื่องดื่มร้อนๆ รสชาติถูกใจ เช่น ชาสมุนไพร จะช่วยผ่อนคลายและเรียกพลังกลับคืนมาให้คุณได้ นอกจากนี้ชาบางชนิด เช่น ชากลิ่นสะระแหน่ ยังช่วยคลายเครียดและขับลมในกระเพาะอีกด้วย ซึ่งหากไม่ต้องการจิบชา อาจจะแค่หาใบสะระแหน่มาขยี้สูดดมกลิ่นของมันก็ช่วยคลายเครียดได้เช่นกัน เพียงเท่านี้คุณก็สามารถสร้างลุคใหม่ที่ทั้งสดใสและมีสุขภาพดี พร้อมที่จะออกไปเริงร่ารับลมร้อนโดยไม่ต้องอายใคร
เคล็ดลับ ความสวยความงาม 10 ข้อที่จะทำให้คุณดูดี ดูสวยงาม มาฝากค่ะ สาว ๆ คนไหนอยากดูดี และสวยงามคลิกอ่าน บทความ เกร็ดความรู้ เคล็ดลับ เรื่องนี้กันเลยค่ะ
อิ่มกำลังดีกับมื้อเช้าแสนวิเศษ เราต่างก็รู้เหมือนๆ กันว่า มื้อเช้าเป็นมื้อสำคัญที่สุด แต่หลายคนต้องรีบเร่งทำเวลาก่อนออกจากบ้าน จึงพลาดมื้อเช้าไปอย่างน่าเสียดาย แม้จะพยายามชดเชยด้วยเครื่องดื่มร้อนๆ หรือน้ำผลไม้สักแก้ว กับขนมขบเคี้ยวจำพวกแป้งทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นคุกกี้ ขนมปังหรือ ปาท่องโก๋ก็ตาม แต่พลังงานที่ได้รับก็ยังไม่เพียงพอให้คุณได้ เต็มที่ กับงานและทุกสิ่งที่ประเดประดังเข้ามาในวันนั้น ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า หากคุณผ่านคืนวานอันเหนื่อยล้า และต้องการเรียกพลังกลับคืนมาโดยเร่งด่วน ต้องถือเป็นกฏเหล็กที่จะไม่งดมื้อเช้าในวันนั้น ทั้งนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นมื้อหนัก อาหารเช้าชุดใหญ่อะไรเลย เพราะอาจรู้สึกว่าท้องไส้ยังไม่พร้อมสำหรับการย่อยอาหารปริมาณมากๆ ขอเพียงแต่พยายามเลือกกินอาหารให้ครบห้าหมู่ อย่างละนิดอย่างละหน่อยแล้วตบท้ายด้วยผลไม้สด และนมหรือโยเกิร์ตสักถ้วย ก็จะช่วยเรียกความกระปรี้กระเปร่ากลับคืนมาได้ สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เป็นทางออกง่ายๆ ที่หลายคนมองข้ามเวลาเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า หรือเกิดความเครียดในตัวมากๆ ให้ลองแก้ง่ายๆด้วยการสูดลมหายใจทางจมูกเข้าปอดลึกๆ กลั้นไว้ในช่องอกประมาณ 15-20 วินาที ก่อนจะปล่อยลมหายใจออกทางปากให้หมด ทำซ้ำเช่นนี้ประมาณ 3 ครั้ง คุณจะพบว่ารู้สึกสดชื่นขึ้น ทั้งนี้เป็นเพราะปกติแล้วคนส่วนใหญ่มักจะหายใจเข้าออกกันเพียงช่วงสั้นๆ ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เต็มที่ วิธีนี้จะทำให้ออกซิเจนเข้าปอดคุณอย่างเต็มที่ทำให้รู้สึกปลอดโปร่ง และเลือดลมในร่างกายไหลเวียนสูบฉีดดีขึ้น ดื่มนมสด นมสดแม้หนึ่งแก้วเล็กๆ มีโปรตีนชนิดที่ช่วยสร้างพลังงานให้คุณได้ถึง 3 กรัม ทำให้ร่างกายปรับตัวได้อย่างสมดุล นอกจากนี้ในนมสดก็ยังเป็นแหล่งแคลเซียมที่สำคัญต่อร่างกายอีกด้วย ในหนึ่งแก้วขนาด 100 กรัม มีแคลเซียมสูงถึง 120 มิลลิกรัม ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและฟันได้ดี แถมยังมีฟอสฟอรัสและวิตามินครบถ้วนทั้ง A,B.C, และ E อีกต่างหาก แวบไปว่ายน้ำ ข้อนี้อาจทำยากสักนิด แต่ถ้าคุณหาจังหวะแวบได้ ให้ลงว่ายน้ำสักประมาณ 15-20 นาที อย่างไม่ต้องหักโหมอะไรนัก จะช่วยให้คุณสดใสเปล่งปลั่งขึ้นอย่างประหลาด ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าเป็นเพราะน้ำในสระว่ายน้ำจะช่วยพยุงตัวไม่ให้คุณรู้สึกใช้กำลังมากเหมือนออกกำลังกายในยิม และความเย็นฉ่ำของน้ำจะทำให้รู้สึกสดชื่นกระฉับกระเฉงขึ้น แต่ถ้าหาเวลาไม่ได้จริงๆ อาจจะเลือกอาบน้ำฝักบัวแทนก็ได้ แต่ผลของการลงแหวกว่ายกลางสายธาราจะดีกว่ามาก กล้วยช่วยได้ อย่ามองข้ามผลไม้พื้นบ้านธรรมดาๆ อย่างกล้วยไปได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นกล้วยหอมอร่อยเลิศเลยด้วยซ้ำ จะเป็นกล้วยพันธุ์ไหนก็ได้สักหนึ่งลูก จะช่วยคุณเรียกพลังกลับมาได้ในเวลาอันสั้น เพราะในกล้วยอุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินที่สำคัญต่อร่างกาย ทั้ง A,B,C และ E รวมทั้งเหล็กแป้ง น้ำตาลธรรมชาติ นอกจากนี้ยยังมีโปแตสเซียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่สำคัญ ช่วยรักษาสมดุลของระดับน้ำและความชุ่มชื้นของเซลล์ผิวหนังกับเนื้อเยื่อต่างๆ ในร่างกายอีกด้วย นวดตัวพร้อมกลิ่นหอมบำบัดอารมณ์ อาจจะปลีกเวลาไปนวดตัวช่วงสั้น ๆ โดยเลือกการนวดน้ำมันอโรมาที่กลิ่นหอมของน้ำมันจากธรรมชาติจะช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย และเรียกความสดใสกลับคืนมาได้ แต่หากหาเวลานวดไม่ได้จริง ๆ อาจจะใช้วิธีจุดเตาขนาดเล็กในห้องที่ให้กลิ่นน้ำมันหอมระเหยเหล่านี้แทน ก็สามารถช่วยได้เช่นกัน น้ำผลไม้สด วิตามินซีในน้ำผลไม้ ซึ่งมีในปริมาณสูงอยู่แล้วโดยธรรมชาติจะช่วยเสริมสร้างพลังงานได้ในทันทีทันควัน เพราะน้ำตาลจากรสหวานของผลไม้ ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้เป็นพลังงานได้เลย โดยไม่ต้องย่อยหรือแปรสภาพเหมือนกับน้ำตาลที่ได้จากแหล่งอื่น นอกจากนี้ ยังมีสารต้านอนูมูลอิสระ ช่วยชะลอความแก่และริ้วรอยต่างๆ ได้ดีอีกด้วย ควรพยายามดื่มน้ำผลไม้อย่างน้อยวันละหนึ่งแก้วเป็นประจำหรือจะเป็นน้ำขิงร้อนๆ ก็จะช่วยสร้างความกระปรี้กระเปร่าอย่างเห็นผลทันทีเช่นกัน ถั่วและผลไม้อบแห้ง นี่ก็เช่นกันที่ไม่ควรมองข้ามเพราะทั้งถั่วและผลไม้อบแห้งทั้งหลายมีประโยชน์มากกว่าขนมขบเคี้ยวจำไวกแป้งนัก เนื่องจากอุดมด้วยธาตุเหล็ก ช่วยเสริมสร้างพลังงานและทำให้ระบบการไหลเวียนของเลือดในร่างกายคล่องตัวขึ้น เป็นผลให้ผิวพรรณของคุณดูสดชื่นเปล่งปลั่งกว่าที่เคยเป็น บางคนถึงกับเชื่อว่า การกินอาหารจำพวกถั่วมาก ๆ จะช่วยลดขนาดของไฝ ขี้แมลงวัน หรือตุ่มเล็กตุ่มน้อยตามผิวหนังด้วยซ้ำไป แต่ในสายตาของแพทย์แล้ว ไม่ควรเลือกกินอาหารประเภทใดประเภทหนึ่งซ้ำกันนาน ๆ หรือในปริมาณที่มากเกินปกติ เพราะการกินที่ถูกต้องคือต้องให้คละหมู่หลากหลายประเภทอาหารเข้าไว้ ชื่นใจกับดอกไม้สวย วิธีนี้ง่ายสุด เพียงแค่เดินหาซื้อหรือสั่งดอกไม้สวยหอมๆ สักช่อมาให้รางวัลกับตัวเอง โดยไม่ต้องรอโอกาสพิเศษที่ไหนหรือจากใครทั้งนั้น คุณก็จะได้รับความสดชื่น และรู้สึกเปี่ยมพลังขึ้นในทันทีที่สัผัสกลิ่นหอม และได้ชื่นชมความงามของดอกไม้ช่อสวยหรือถ้าไม่ต้องการการสิ้นเปลืองจะเลือกเดินชมต้นไม้ดอกไม้ตามสวนสาธารณะะที่ได้ชื่อว่าเป็นปอดของกรุงเทพฯ อย่างเช่น สวนเบญจสิริ ย่านสุขุมวิท ก็ได้เช่นกัน หรือไม่ก็อาจจะซื้อต้นไม้กระถางเล็กๆ วางประดับบนโต๊ะทำงานสีเขียวอันสดชื่นของมันช่วยสร้างพลังให้กับคุณได้ในทุกครั้งที่มองเห็น จิบชาสมุนไพร การได้จิบเครื่องดื่มร้อนๆ รสชาติถูกใจ เช่น ชาสมุนไพร จะช่วยผ่อนคลายและเรียกพลังกลับคืนมาให้คุณได้ นอกจากนี้ชาบางชนิด เช่น ชากลิ่นสะระแหน่ ยังช่วยคลายเครียดและขับลมในกระเพาะอีกด้วย ซึ่งหากไม่ต้องการจิบชา อาจจะแค่หาใบสะระแหน่มาขยี้สูดดมกลิ่นของมันก็ช่วยคลายเครียดได้เช่นกัน เพียงเท่านี้คุณก็สามารถสร้างลุคใหม่ที่ทั้งสดใสและมีสุขภาพดี พร้อมที่จะออกไปเริงร่ารับลมร้อนโดยไม่ต้องอายใคร
น้ำหอม
น้ำหอม กลายเป็นองค์ประกอบหลักในการแต่งตัวและช่วยสร้างบุคลิกให้กับเราได้ไม่มากก็น้อย เสน่ห์ของหลายๆ คนไม่เพียงแต่จะอยู่ที่บุคลิกและความเฉพาะตัวของคนคนนั้นแล้ว ความหอมของกลิ่นกายก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นการทำความรู้จักกับน้ำหอมในแบบที่แตกต่างกันนั้น ก็มีผลกับการใช้น้ำหอมเพื่อให้เกิดความหอมต่อร่างกายของเรา ไม่เพียงแต่เคล็ดลับในการเลือก น้ำหอมจะนับเป็นส่วนสำคัญ การรู้จักใช้น้ำหอมให้ถูกวิธี ดูจะยิ่งช่วยให้กลิ่นหอมของน้ำหอมที่เราเลือกใช้นั้นติดอยู่ได้ทนนานอย่างที่ควรจะเป็น
รู้จักเลือกน้ำหอม การเลือกใช้น้ำหอมอย่างเหมาะสม เราควรเลือกกลิ่นหอมที่เข้ากับบุคลิกของตัวเองนับว่าดีที่สุด และนอกจากนั้น การที่เลือกลักษณะของกลิ่นหอมยังจำเป็นที่จะต้องรู้จักประเภทของน้ำหอมที่แบ่งตามความเข้มข้นของน้ำหอมด้วย น้ำหอมนั้นมีส่วนผสมหลัก ได้แก่ น้ำมันหอมที่ถูกทำให้เจือจางลงด้วยแอลกอฮอล์ ( แอลกอฮอล์ทำหน้าที่ช่วยกระจายความหอมไปในการระเหยนั่นเอง ) ในระดับความเข้มข้นของความหอมที่แตกต่างกันไป น้ำหอมจึงถูกแบ่งออกเป็น 3 ประเภทด้วยระดับความเข้มข้นของกลิ่นหอมได้ออกเป็นดังนี้ • โคโลญจน์ หรือ Eau de Cologne เป็นน้ำหอมที่มีส่วนผสมของน้ำมันหอมในปริมาณ 3-5%
• ทอยเล็ตต์ หรือ Eau de Toilette เป็นน้ำหอมที่มีส่วนผสมของน้ำมันหอมในปริมาณ 4-8% • เพอร์ฟูม หรือ Eau de Parfum เป็นน้ำหอมที่มีส่วนผสมของน้ำมันหอมในปริมาณ 15-18% ซึ่งจะมีกลิ่นติดทนนานที่สุด ลักษณะของขวดหรือภาชนะบรรจุน้ำมันหอมนั้น ยังมีผลต่อความคงทนในการเก็บความหอมให้ยาวนาน ในขณะที่ขวดแบบเปิดฝาจะเก็บรักษาน้ำหอมไว้ได้นาน 9 เดือน ขวบแบบสเปรย์ที่ฝาปิดแน่นหนากว่านั้นเก็บรักษาน้ำหอมไว้ได้นานนับปี เป็นต้น
เคล็ดลับในการเลือกซื้อน้ำหอมอยู่ที่การทดลองกลิ่นหอมของน้ำหอมแต่ละกลิ่น อย่าลืมว่าการเลือกน้ำหอมที่ดีที่สุดอยู่ที่กลิ่นที่เข้ากับบุคลิกของผู้ใส่ และเนื่องจากกลิ่นหอมมีโอกาสเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับองค์ประกอบรอบๆ ตัวหลายอย่างด้วยกัน ก่อนไปเลือกซื้อน้ำหอม ถ้าเป็นไปได้ไม่ควรรับประทานอาหารรสจัด หรือออกกำลังกายที่ทำให้เหนื่อยมากจนเกินไป ซึ่งการกระทำเหล่านั้นจะส่งผลต่อการรับรู้กลิ่น และทำให้การรับรู้กลิ่นหอมจากน้ำมันหอมนั้นผิดเพี้ยนไป และนอกจากนี้ เรายังไม่ควรไปเลือกซื้อน้ำหอมในเวลาที่เพิ่งจะฟื้นจากอาการเจ็บป่วยไม่สบาย หรือเพิ่งจะสูบบุหรี่มา เพราะการกระทำเช่นนี้อาจจะมีผลต่อการรับรู้กลิ่นน้ำหอม ทำให้กลิ่นน้ำหอมที่เราสัมผัสมีโอกาสผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริงด้วยเช่นกัน และแน่นอนว่าบริเวณที่เหมาะสำหรับทดลองน้ำหอม คือบริเวณข้อมือซึ่งไม่เพียงแต่จะสะดวกแล้ว ยังนับเป็นจุดชีพจรที่ทำให้เราได้กลิ่นหอมของน้ำหอมอย่างแท้จริงอีกด้วย บริเวณจุดชีพจรเต้นนั้นเป็นบริเวณของร่างกายที่ มีอุณหภูมิสูง ซึ่งช่วยให้กลิ่นหอมของน้ำหอมระเหย อธิบายได้ง่ายๆ ว่าทำให้เกิดกลิ่นหอมได้ดีนั่นเอง อีกอย่างที่ควรทำคือทดลองน้ำหอมต่างกลิ่นกันคนละจุดด้วยการใช้ข้อมือคนละข้างกัน และไล่บริเวณแขนลงไป และควรทิ้งระยะเวลาเอาไว้สัก 20 นาทีหรือถึง 1 ชั่วโมง แล้วจากนั้นค่อยตัดสินใจเลือกซื้ออีกครั้งหนึ่งจะดีกว่า
ข้อควรระวังในการใช้น้ำหอม น่าจะอยู่ที่เสื้อผ้าที่เราสวมใส่ รวมทั้งเครื่องประดับทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นสร้อยคอ เข็มกลัด เข็มขัด เป็นต้น เนื่องจากแอลกอฮอล์และเคมีบางอย่างที่เป็นองค์ประกอบของน้ำหอม ( อย่างเช่น น้ำมัน เป็นต้น ) จะมีผลต่อวัตถุดิบบางชนิด ที่จริงแล้วลักษณะในการใส่น้ำหอมเองยังมีผลต่อวัตถุดิบบางชนิด อาทิ น้ำมันที่มีผลกับผ้าซาติน หรือแม้แต่ผ้าฝ้ายแบบฟอก การฉีดน้ำหอมใกล้กับเสื้อผ้ามากเกินไป ทำให้แอลกอฮอล์ปริมาณเข้มข้น ติดอยู่กับเสื้อผ้ามาก ดังนั้น การฉีดน้ำหอมควรทำห่างจากตัวอย่างน้อย 30 เซนติเมตร เพื่อไม่ให้น้ำหอมทิ้งจุดด่างหรือรอยเปียกของน้ำมันเอาไว้บนเสื้อผ้า ทางที่ดีที่สุดอย่าฉีดโดยตรงลงบนเสื้อผ้าจะดีกว่า ส่วนเครื่องประดับที่มักจะเกิดปฏิกิริยากับแอลกอฮอล์ที่อยู่ในน้ำหอมนั้น มักจะเป็นโลหะผสมพวกโรเดียมไม่เพียงเท่านั้นเครื่องเพชรพลอย อัญมณีหรือแม้แต่ไข่มุกก็ตามนั้นมีส่วนหมองคล้ำจากการได้รับละอองสเปรย์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์อีกด้วย
ส่วนที่จะทิ้ง “ รอยตกค้าง ” อันไม่ปรารถนาเอาไว้ให้กับเครื่องแต่งกายของเรา คือสีที่เป็นอีกส่วนผสมที่ประกอบอยู่ในน้ำหอมนั่นเอง ดังนั้น จึงไม่ควรฉีดหรือแต้มน้ำหอมลงบนเสื้อผ้าแต่แต้มลงบนส่วนของร่างกาย โดยระวังเครื่องประดับต่างๆ ด้วย แน่นอนว่ากลิ่นหอมของน้ำหอม สร้างเสน่ห์ชวนหลงใหลให้กับเราได้ แต่ในทางกลับกันบางครั้งมันก็อาจทำให้เกิดเป็นกลิ่นฉุนได้หากแตะหรือฉีดในปริมาณที่มากเกินพอดี
เคล็ดลับในการแต้มน้ำหอมสำหรับทุกสถานการณ์ • ให้ป้ายหรือฉีดน้ำหอมในบริเวณที่เป็นจุดชีพจร โดยมากจะเป็นบริเวณข้อมือหรือลำคอ และบางครั้งบริเวณข้อพับที่แขนหรือขาพับก็เป็นที่นิยม ในขณะที่การแตะน้ำหอมบริเวณหลังใบหูนั้นความหอมของน้ำหอมจะไม่ติดอยู่ทนนาน เนื่องจากแอลกอฮอล์ระเหยได้รวดเร็วนั่นเอง • การถูข้อมือที่แต้มน้ำหอม 2 ข้างเข้าด้วยกัน ไม่ได้ช่วยให้ความหอมนั้นทั่วถึง แต่ที่จริงแล้วจะทำให้น้ำหอมมีกลิ่นหอมอ่อนลง • การฉีดสเปรย์น้ำหอมในอากาศแล้วใช้วิธีเดินผ่านนั้น จะช่วยให้กลิ่นหอมกระจายติดตัวเราได้ทั่วดี • พยายามอย่าใช้โลชั่นที่มีกลิ่นหอมก่อนหน้าที่จะใช้น้ำหอมเนื่องจากกลิ่นจะตีกัน • ใช้น้ำหอมมากหน่อยหากคุณเป็นคนผิวแห้ง เนื่องจากผิวมันมีน้ำมันช่วยคงกลิ่นให้ติดอยู่ยาวนาน • ในขณะเดียวกันหากใส่น้ำหอมแล้วต้องอยู่ในที่อากาศเย็นให้เลือกน้ำหอมที่มีกลิ่นแรงกว่าปกติ เนื่องจากความเย็นหรืออุณหภูมิต่ำจะลดกลิ่นหอมของน้ำหอมให้ลดน้อยลงกว่าที่เป็น การฉีดน้ำหอมทันทีหลังจากที่อาบน้ำเสร็จใหม่ๆ จะช่วยทำให้กลิ่นหอมติดทนนานกว่าปกติ
รู้จักเลือกน้ำหอม การเลือกใช้น้ำหอมอย่างเหมาะสม เราควรเลือกกลิ่นหอมที่เข้ากับบุคลิกของตัวเองนับว่าดีที่สุด และนอกจากนั้น การที่เลือกลักษณะของกลิ่นหอมยังจำเป็นที่จะต้องรู้จักประเภทของน้ำหอมที่แบ่งตามความเข้มข้นของน้ำหอมด้วย น้ำหอมนั้นมีส่วนผสมหลัก ได้แก่ น้ำมันหอมที่ถูกทำให้เจือจางลงด้วยแอลกอฮอล์ ( แอลกอฮอล์ทำหน้าที่ช่วยกระจายความหอมไปในการระเหยนั่นเอง ) ในระดับความเข้มข้นของความหอมที่แตกต่างกันไป น้ำหอมจึงถูกแบ่งออกเป็น 3 ประเภทด้วยระดับความเข้มข้นของกลิ่นหอมได้ออกเป็นดังนี้ • โคโลญจน์ หรือ Eau de Cologne เป็นน้ำหอมที่มีส่วนผสมของน้ำมันหอมในปริมาณ 3-5%
• ทอยเล็ตต์ หรือ Eau de Toilette เป็นน้ำหอมที่มีส่วนผสมของน้ำมันหอมในปริมาณ 4-8% • เพอร์ฟูม หรือ Eau de Parfum เป็นน้ำหอมที่มีส่วนผสมของน้ำมันหอมในปริมาณ 15-18% ซึ่งจะมีกลิ่นติดทนนานที่สุด ลักษณะของขวดหรือภาชนะบรรจุน้ำมันหอมนั้น ยังมีผลต่อความคงทนในการเก็บความหอมให้ยาวนาน ในขณะที่ขวดแบบเปิดฝาจะเก็บรักษาน้ำหอมไว้ได้นาน 9 เดือน ขวบแบบสเปรย์ที่ฝาปิดแน่นหนากว่านั้นเก็บรักษาน้ำหอมไว้ได้นานนับปี เป็นต้น
เคล็ดลับในการเลือกซื้อน้ำหอมอยู่ที่การทดลองกลิ่นหอมของน้ำหอมแต่ละกลิ่น อย่าลืมว่าการเลือกน้ำหอมที่ดีที่สุดอยู่ที่กลิ่นที่เข้ากับบุคลิกของผู้ใส่ และเนื่องจากกลิ่นหอมมีโอกาสเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับองค์ประกอบรอบๆ ตัวหลายอย่างด้วยกัน ก่อนไปเลือกซื้อน้ำหอม ถ้าเป็นไปได้ไม่ควรรับประทานอาหารรสจัด หรือออกกำลังกายที่ทำให้เหนื่อยมากจนเกินไป ซึ่งการกระทำเหล่านั้นจะส่งผลต่อการรับรู้กลิ่น และทำให้การรับรู้กลิ่นหอมจากน้ำมันหอมนั้นผิดเพี้ยนไป และนอกจากนี้ เรายังไม่ควรไปเลือกซื้อน้ำหอมในเวลาที่เพิ่งจะฟื้นจากอาการเจ็บป่วยไม่สบาย หรือเพิ่งจะสูบบุหรี่มา เพราะการกระทำเช่นนี้อาจจะมีผลต่อการรับรู้กลิ่นน้ำหอม ทำให้กลิ่นน้ำหอมที่เราสัมผัสมีโอกาสผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริงด้วยเช่นกัน และแน่นอนว่าบริเวณที่เหมาะสำหรับทดลองน้ำหอม คือบริเวณข้อมือซึ่งไม่เพียงแต่จะสะดวกแล้ว ยังนับเป็นจุดชีพจรที่ทำให้เราได้กลิ่นหอมของน้ำหอมอย่างแท้จริงอีกด้วย บริเวณจุดชีพจรเต้นนั้นเป็นบริเวณของร่างกายที่ มีอุณหภูมิสูง ซึ่งช่วยให้กลิ่นหอมของน้ำหอมระเหย อธิบายได้ง่ายๆ ว่าทำให้เกิดกลิ่นหอมได้ดีนั่นเอง อีกอย่างที่ควรทำคือทดลองน้ำหอมต่างกลิ่นกันคนละจุดด้วยการใช้ข้อมือคนละข้างกัน และไล่บริเวณแขนลงไป และควรทิ้งระยะเวลาเอาไว้สัก 20 นาทีหรือถึง 1 ชั่วโมง แล้วจากนั้นค่อยตัดสินใจเลือกซื้ออีกครั้งหนึ่งจะดีกว่า
ข้อควรระวังในการใช้น้ำหอม น่าจะอยู่ที่เสื้อผ้าที่เราสวมใส่ รวมทั้งเครื่องประดับทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นสร้อยคอ เข็มกลัด เข็มขัด เป็นต้น เนื่องจากแอลกอฮอล์และเคมีบางอย่างที่เป็นองค์ประกอบของน้ำหอม ( อย่างเช่น น้ำมัน เป็นต้น ) จะมีผลต่อวัตถุดิบบางชนิด ที่จริงแล้วลักษณะในการใส่น้ำหอมเองยังมีผลต่อวัตถุดิบบางชนิด อาทิ น้ำมันที่มีผลกับผ้าซาติน หรือแม้แต่ผ้าฝ้ายแบบฟอก การฉีดน้ำหอมใกล้กับเสื้อผ้ามากเกินไป ทำให้แอลกอฮอล์ปริมาณเข้มข้น ติดอยู่กับเสื้อผ้ามาก ดังนั้น การฉีดน้ำหอมควรทำห่างจากตัวอย่างน้อย 30 เซนติเมตร เพื่อไม่ให้น้ำหอมทิ้งจุดด่างหรือรอยเปียกของน้ำมันเอาไว้บนเสื้อผ้า ทางที่ดีที่สุดอย่าฉีดโดยตรงลงบนเสื้อผ้าจะดีกว่า ส่วนเครื่องประดับที่มักจะเกิดปฏิกิริยากับแอลกอฮอล์ที่อยู่ในน้ำหอมนั้น มักจะเป็นโลหะผสมพวกโรเดียมไม่เพียงเท่านั้นเครื่องเพชรพลอย อัญมณีหรือแม้แต่ไข่มุกก็ตามนั้นมีส่วนหมองคล้ำจากการได้รับละอองสเปรย์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์อีกด้วย
ส่วนที่จะทิ้ง “ รอยตกค้าง ” อันไม่ปรารถนาเอาไว้ให้กับเครื่องแต่งกายของเรา คือสีที่เป็นอีกส่วนผสมที่ประกอบอยู่ในน้ำหอมนั่นเอง ดังนั้น จึงไม่ควรฉีดหรือแต้มน้ำหอมลงบนเสื้อผ้าแต่แต้มลงบนส่วนของร่างกาย โดยระวังเครื่องประดับต่างๆ ด้วย แน่นอนว่ากลิ่นหอมของน้ำหอม สร้างเสน่ห์ชวนหลงใหลให้กับเราได้ แต่ในทางกลับกันบางครั้งมันก็อาจทำให้เกิดเป็นกลิ่นฉุนได้หากแตะหรือฉีดในปริมาณที่มากเกินพอดี
เคล็ดลับในการแต้มน้ำหอมสำหรับทุกสถานการณ์ • ให้ป้ายหรือฉีดน้ำหอมในบริเวณที่เป็นจุดชีพจร โดยมากจะเป็นบริเวณข้อมือหรือลำคอ และบางครั้งบริเวณข้อพับที่แขนหรือขาพับก็เป็นที่นิยม ในขณะที่การแตะน้ำหอมบริเวณหลังใบหูนั้นความหอมของน้ำหอมจะไม่ติดอยู่ทนนาน เนื่องจากแอลกอฮอล์ระเหยได้รวดเร็วนั่นเอง • การถูข้อมือที่แต้มน้ำหอม 2 ข้างเข้าด้วยกัน ไม่ได้ช่วยให้ความหอมนั้นทั่วถึง แต่ที่จริงแล้วจะทำให้น้ำหอมมีกลิ่นหอมอ่อนลง • การฉีดสเปรย์น้ำหอมในอากาศแล้วใช้วิธีเดินผ่านนั้น จะช่วยให้กลิ่นหอมกระจายติดตัวเราได้ทั่วดี • พยายามอย่าใช้โลชั่นที่มีกลิ่นหอมก่อนหน้าที่จะใช้น้ำหอมเนื่องจากกลิ่นจะตีกัน • ใช้น้ำหอมมากหน่อยหากคุณเป็นคนผิวแห้ง เนื่องจากผิวมันมีน้ำมันช่วยคงกลิ่นให้ติดอยู่ยาวนาน • ในขณะเดียวกันหากใส่น้ำหอมแล้วต้องอยู่ในที่อากาศเย็นให้เลือกน้ำหอมที่มีกลิ่นแรงกว่าปกติ เนื่องจากความเย็นหรืออุณหภูมิต่ำจะลดกลิ่นหอมของน้ำหอมให้ลดน้อยลงกว่าที่เป็น การฉีดน้ำหอมทันทีหลังจากที่อาบน้ำเสร็จใหม่ๆ จะช่วยทำให้กลิ่นหอมติดทนนานกว่าปกติ
22 มกราคม 2553
21 มกราคม 2553
โรคชิคุนกุนยา
โรคชิคุนกุนยาคืออะไร
google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);
โรคชิคุนกุนยาเป็นโรคติดเชื้อไวรัสติดต่อโดยยุงลาย ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูงและมีอาการปวดข้อ แต่มักจะไม่เสียชีวิต แต่อาการปวดข้ออาจจะต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะหาย มีอาการคล้ายไข้ เดงกี แต่ต่างกันที่ไม่มีการรั่วของพลาสมาออกนอกเส้นเลือด จึงไม่พบผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงมากจนถึงมีการช็อก
ประวัติของโรคชิคุนกุนยา
ตัวเชื้อไวรัส
การติดต่อของเชื้อโรค
พบการระบาดโรคนี้ครั้งแรกในทวีปอัฟริกาที่ราบ Makonde Plateau ของประเทศ Tanzania. ซึ่งอยู่ระหว่างประเทศ Tanzania และ Mozambique และมีการระบาดที่ประเทศอินเดีย
เชื้อที่เป็นสาเหตุของโรค
เกิดจากเชื้อไวรัสชิคุนกุนยา (Chikungunya virus) ซึ่งเป็น RNA Virus จัดอยู่ใน genus alphavirus และ family Togaviridae เชื้อนี้เป็นชนิด single stranded RNA โดนทำลายโดยความร้อนที่อุณหภูมิ 58 องศา
พาหะนำโรค Vector
มียุงลาย Aedes aegypt เป็นพาหะนำโรคในเขตเมือง ส่วนชนิด Ae. albopictus เป็นพาหะนำโรคในเขตชนบท ยุงนี้จะวางไข่ในน้ำที่อยู่ใน้าง เช่นแจกัน นำระบายเครื่องปรับอากาศ ตุมน้ำ ถังน้ำ หรือแอ่งน้ำรอบบ้าน เช่น กระป๋อง กะลา ยางเก่า
วิธีการติดต่อ
โรคชิคุณกุนย่าเกิดจากไวรัสติดต่อถึงคนโดยการกัดของยุงลายที่มีเชื้อโรค ติดต่อกันได้โดยมียุงลาย Aedes aegypti เป็นพาหะนำโรคที่สำคัญ เมื่อยุงลายตัวเมียกัด และดูดเลือดผู้ป่วยที่อยู่ในระยะไข้สูง ซึ่งเป็นระยะที่มีไวรัสอยู่ในกระแสเลือด เชื้อไวรัสจะเข้าสู่กระเพาะยุง และเพิ่ม จำนวนมากขึ้น แล้วเดินทางเข้าสู่ต่อมน้ำลาย เมื่อยุงที่มีเชื้อไวรัสชิคุนกุนยาไปกัดคนอื่นก็จะปล่อยเชื้อไปยังคนที่ถูกกัด ทำให้คนนั้นเกิดอาการของโรคได้
ระยะฟักตัว
โดยทั่วไปประมาณ 1-12 วัน แต่ที่พบบ่อยประมาณ 2-3 วัน ระยะติดต่อ ระยะไข้สูงประมาณวันที่ 2 – 4 เป็นระยะที่มีไวรัสอยู่ในกระแสเลือดมาก
อาการและอาการแสดง
google_protectAndRun("ads_core.google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);
ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูงอย่างฉับพลัน มีผื่นแดงขึ้นตามร่างกายและอาจมีอาการคัน ร่วมด้วย พบตาแดง (conjunctival injection) แต่ไม่ค่อยพบจุดเลือดออกในตาขาว ในผู้ใหญ่อาการที่เด่นชัดคืออาการปวดข้อ ซึ่งอาจพบข้ออักเสบได้ ส่วนใหญ่จะเป็นที่ข้อเล็กๆ เช่น ข้อมือ ข้อเท้า อาการปวดข้อจะพบได้หลายๆ ข้อเปลี่ยนตำแหน่งไปเรื่อยๆ (migratory polyarthritis)อ่านที่นี่
การระบาดของโรคนี้
โรคชิคุนกุนยามักจะระบาดหลังฤดูมรสุมเนื่องจากจะมีพาหะชุกชุม มักจะระบาดในประเทศเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีคน ลิง กระรอก นกเป็นแหล่งแพร่โรค reservoir เกิดการระบาดครั้งใหญ่ที่ประเทศอินเดียทำให้เกิดความพิการกับผู้คนจำนวนมาก
ข้อแตกต่างระหว่างไข้เลือดออกและโรคชิคุณกันย่า
จะมีไข้สูงเหมือนกันแต่ไข้ชิคุณกันย่าจะใช้เวลาน้อยกว่า และมีอัตราการเสียชีวิตต่ำกว่า อ่านที่นี่ การรักษา ไม่มีการรักษาที่จำเพาะเจาะจง (specific treatment)
การป้องกันโรค
เนื่องจากยังไม่มียาหรือวัคซีนเฉพาะ ดังนั้นการป้องกันจะเป็นวิธีการที่ดีที่สุด โดยการหลีกเลี่ยงมิให้ยุงลายกัด อ่านที่นี่
การรักษา
เป็นการรักษาแบบประคับประคอง (supportive treatment) เช่นให้ยาลดอาการไข้ ปวดข้อ และการพักผ่อน 3
google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);
โรคชิคุนกุนยาเป็นโรคติดเชื้อไวรัสติดต่อโดยยุงลาย ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูงและมีอาการปวดข้อ แต่มักจะไม่เสียชีวิต แต่อาการปวดข้ออาจจะต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะหาย มีอาการคล้ายไข้ เดงกี แต่ต่างกันที่ไม่มีการรั่วของพลาสมาออกนอกเส้นเลือด จึงไม่พบผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงมากจนถึงมีการช็อก
ประวัติของโรคชิคุนกุนยา
ตัวเชื้อไวรัส
การติดต่อของเชื้อโรค
พบการระบาดโรคนี้ครั้งแรกในทวีปอัฟริกาที่ราบ Makonde Plateau ของประเทศ Tanzania. ซึ่งอยู่ระหว่างประเทศ Tanzania และ Mozambique และมีการระบาดที่ประเทศอินเดีย
เชื้อที่เป็นสาเหตุของโรค
เกิดจากเชื้อไวรัสชิคุนกุนยา (Chikungunya virus) ซึ่งเป็น RNA Virus จัดอยู่ใน genus alphavirus และ family Togaviridae เชื้อนี้เป็นชนิด single stranded RNA โดนทำลายโดยความร้อนที่อุณหภูมิ 58 องศา
พาหะนำโรค Vector
มียุงลาย Aedes aegypt เป็นพาหะนำโรคในเขตเมือง ส่วนชนิด Ae. albopictus เป็นพาหะนำโรคในเขตชนบท ยุงนี้จะวางไข่ในน้ำที่อยู่ใน้าง เช่นแจกัน นำระบายเครื่องปรับอากาศ ตุมน้ำ ถังน้ำ หรือแอ่งน้ำรอบบ้าน เช่น กระป๋อง กะลา ยางเก่า
วิธีการติดต่อ
โรคชิคุณกุนย่าเกิดจากไวรัสติดต่อถึงคนโดยการกัดของยุงลายที่มีเชื้อโรค ติดต่อกันได้โดยมียุงลาย Aedes aegypti เป็นพาหะนำโรคที่สำคัญ เมื่อยุงลายตัวเมียกัด และดูดเลือดผู้ป่วยที่อยู่ในระยะไข้สูง ซึ่งเป็นระยะที่มีไวรัสอยู่ในกระแสเลือด เชื้อไวรัสจะเข้าสู่กระเพาะยุง และเพิ่ม จำนวนมากขึ้น แล้วเดินทางเข้าสู่ต่อมน้ำลาย เมื่อยุงที่มีเชื้อไวรัสชิคุนกุนยาไปกัดคนอื่นก็จะปล่อยเชื้อไปยังคนที่ถูกกัด ทำให้คนนั้นเกิดอาการของโรคได้
ระยะฟักตัว
โดยทั่วไปประมาณ 1-12 วัน แต่ที่พบบ่อยประมาณ 2-3 วัน ระยะติดต่อ ระยะไข้สูงประมาณวันที่ 2 – 4 เป็นระยะที่มีไวรัสอยู่ในกระแสเลือดมาก
อาการและอาการแสดง
google_protectAndRun("ads_core.google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);
ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูงอย่างฉับพลัน มีผื่นแดงขึ้นตามร่างกายและอาจมีอาการคัน ร่วมด้วย พบตาแดง (conjunctival injection) แต่ไม่ค่อยพบจุดเลือดออกในตาขาว ในผู้ใหญ่อาการที่เด่นชัดคืออาการปวดข้อ ซึ่งอาจพบข้ออักเสบได้ ส่วนใหญ่จะเป็นที่ข้อเล็กๆ เช่น ข้อมือ ข้อเท้า อาการปวดข้อจะพบได้หลายๆ ข้อเปลี่ยนตำแหน่งไปเรื่อยๆ (migratory polyarthritis)อ่านที่นี่
การระบาดของโรคนี้
โรคชิคุนกุนยามักจะระบาดหลังฤดูมรสุมเนื่องจากจะมีพาหะชุกชุม มักจะระบาดในประเทศเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีคน ลิง กระรอก นกเป็นแหล่งแพร่โรค reservoir เกิดการระบาดครั้งใหญ่ที่ประเทศอินเดียทำให้เกิดความพิการกับผู้คนจำนวนมาก
ข้อแตกต่างระหว่างไข้เลือดออกและโรคชิคุณกันย่า
จะมีไข้สูงเหมือนกันแต่ไข้ชิคุณกันย่าจะใช้เวลาน้อยกว่า และมีอัตราการเสียชีวิตต่ำกว่า อ่านที่นี่ การรักษา ไม่มีการรักษาที่จำเพาะเจาะจง (specific treatment)
การป้องกันโรค
เนื่องจากยังไม่มียาหรือวัคซีนเฉพาะ ดังนั้นการป้องกันจะเป็นวิธีการที่ดีที่สุด โดยการหลีกเลี่ยงมิให้ยุงลายกัด อ่านที่นี่
การรักษา
เป็นการรักษาแบบประคับประคอง (supportive treatment) เช่นให้ยาลดอาการไข้ ปวดข้อ และการพักผ่อน 3
ปัจจัยเสี่ยง
ปัจจัยเสี่ยงที่ควบคุมได้ได้แก่
น้ำหนัก คนอ้วนพบความดันโลหิตสูงมากกว่าคนผอม โดยเฉพาะคนที่มีดัชนีมวลกายมากกว่า 30 เมื่อลดน้ำหนักความดันจะลดลง
เกลือ ทานเค็มมีแนวโน้มที่จะมีความดันโลหิตสูง
การขาดการออกกำลังกาย
ความเครียด
ความดันโลหิตสูง
การสูบบุหรี่
ไขมันในเลือดสูง
เบาหวาน
น้ำหนัก คนอ้วนพบความดันโลหิตสูงมากกว่าคนผอม โดยเฉพาะคนที่มีดัชนีมวลกายมากกว่า 30 เมื่อลดน้ำหนักความดันจะลดลง
เกลือ ทานเค็มมีแนวโน้มที่จะมีความดันโลหิตสูง
การขาดการออกกำลังกาย
ความเครียด
ความดันโลหิตสูง
การสูบบุหรี่
ไขมันในเลือดสูง
เบาหวาน
ความดัน
การรักษาความดันโลหิตสูงโดยไม่ต้องใช้ยา
ไม่ว่าคุณจะมีเชื้อชาติอะไร เพศ อายุเท่าใด คุณสามารถป้องกันความดันโลหิตสูงหรือการรักษาความดันโลหิตสูงโดยที่ไม่ต้องใช้ยาโดยวิธีการดังต่อไปนี้ที่เรียกว่า การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมหรือการรักษาความดันโลหิตสูงโดยไม่ต้องใช้ยา
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
คำแนะนำ
ความดันที่ลด
น้ำหนัก
รักษาน้ำหนักให้ดัชนีมวลกายไม่เกิน 23
5-20 มม.ปรอท/ นน 10 กกที่ลด
รับประทานอาหารตามหลักของ DASH
รับประทานผัก ผลไม้ให้มาก ลดอาหารที่มัน และไขมันอิ่มตัว
8-14 มม.ปรอท
งดเค็ม
ปริมาณโซเดียมน้อยกว่า 100 mEg/L(เกลือน้อยกว่า 6 กรัม/วัน)
2-8 มม.ปรอท
การออกกำลังกาย
ออกกำลังกายวันละ 30นาทีอย่างน้อย 3 วัน/สัปดาห์
4-9 มม.ปรอท
ลดการดื่มสุรา
ชายน้อยกว่า 2 หน่วย หญิงน้อยกว่า 1 หน่วย
2-4
ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกต หากคุณอ้วนให้รีบลดน้ำหนัก
google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);
เกลือ 1/4 ช้อนชาเท่ากับโซเดียม 500 มิลิกรัม
เกลือ 1/2 ช้อนชาเท่ากับโซเดียม 1000 มิลิกรัม
เกลือ 2/3 ช้อนชาเท่ากับโซเดียม 1500 มิลิกรัม
เกลือ 1 ช้อนชาเท่ากับโซเดียม 2400 มิลิกรัม
ให้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
เลือกอาหารมี่มีเกลือต่ำ
ให้ลดปริมาณแอลกอฮอล์ให้อยู่ในเกณฑ์เหมาะสม
งดบุหรี่ เป็นวิธีการที่ได้ผลดีในการป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด
จัดการเรื่องความเครียด
รับประทานอาหารที่มีคุณภาพโดยการลดอาหารเค็ม ลดอาหารมันเพิ่มผักผลไม้
รึกษาแพทย์เกี่ยวกับยาที่ใช้อยู่เพราะมียาบางตัวทำให้เกิดความดันโลหิตสูง
การจะใช้ยาคุมกำเนิดต้องปรึกษาแพทย์
หลักการดังกล่าวสามารถนำไปใช้กับผู้ป่วยที่เป็นความดันโลหิตสูงได้ ที่สำคัญคือต้องงดบุหรี่
ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
เมื่อน้ำหนักเพิ่มความดันก็จะเพิ่ม คนอ้วนจะมีโอกาสเป็นความดันโลหิตสูงมากกว่าคนปกติ 2-6 เท่า วิธีการลดน้ำหนักที่ดีควรจะลดไม่เกินสัปดาห์ละ 1/2 กิโลกรัมโดยการเลือกรับประทานอาหารที่มีพลังงานน้อยร่วมกับการออกกำลังกาย วิธีการลดน้ำหนักมีดังนี้
เลือกอาหารที่มีไขมันต่ำ อาหารไขมันต่ำ จะให้พลังงานน้อย อาหารที่ให้พลังงานมากควรหลีกเลี่ยงได้แก่ เนย น้ำสลัด เนื้อติดมัน เนื้อติดหนัง นมสด ของทอด เช่นปลาท่องโก๋ กล้วยแขก ไก่ทอด เค้ก คุกกี้ ให้เลือกอาหารที่มีพลังงานน้อยเช่น ใช้อบหรือเผาแทนการทอด เลือกไก่ไม่ติดหนัง ปลา ดื่มนมพร่องมันเนยแทนนมสด รับประทานผักให้มาก
เลือกอาหารที่มีแป้งและใยให้มาก
ใช้จานใบเล็กและห้ามตักครั้งที่สอง ควรจดรายการอาหารที่รับประทานทุกครั้ง ไม่ควรรับประทานอาหารว่างขณะดูทีวี ไม่ควรงดอาหารมื้อหนึ่งแล้วชดเชยมื้อต่อไป
ให้เพิ่มออกกำลังกายเพิ่ม การออกกำลังกายหรือการทำงานบ้านจะช่วยให้ร่างกายเผาผลาญพลังงาน ทำให้น้ำหนักลดตารางข้างล่างจะแสดงพลังงานที่ใช้ในการออกกำลังกาย
google_protectAndRun("ads_core.google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);
พลังงานที่เผาผลาญ
กิจกรรม
พลังงานที่ใช้ใน 1 ชม.
ผู้ชาย
ผู้หญิง
ออกกำลังกายแบบเบา
300
240
ทำความสะอาดบ้าน
เล่นเบสบอล
ตีกอล์ฟ
ออกกำลังกายปานกลาง
460
370
เดินเร็วๆ
ทำสวน
ขี่จักรยาน
เต้นรำ
เล่นบาสเกตบอล
ออกกำลังกายมาก
730
580
วิ่งจ๊อกกิ้ง
เล่นฟุตบอล
ว่ายน้ำ
ให้ร่างกายได้ใช้พลังงานให้มาก การออกกำลังกายนอกจากทำให้น้ำหนักลดแล้วยังลดไขมัน cholesterolในเลือด และเพิ่ม HDL นอกจากการออกกำลังกายแล้ว ท่านผู้อ่านยังสามารถทำให้ร่างกายมีการออกกำลังอยู่ตลอดเวลา เช่นใช้บันไดแทนลิฟท จอดรถก่อนถึงที่ทำงานแล้วเดินต่อ ขี่จักรยานแทนการนั่งรถ ตัดหญ้า ทำสวน ไปเต้นรำเป็นต้น ผู้ป่วยสามารถออกกำลังได้เลยโดยที่ไม่ต้องปรึกษาแพทย ์นอกจากท่านจะมีอาการดังต่อไปน ี้ขณะออกกำลังกาย แน่นหน้าอก จะเป็นลมขณะออกกำลังกาย หายใจเหนื่อยเมื่อเริ่มออกกำลังกาย หรืออายุกลางคนโดยที่ไม่ได้ออกกำลังกาย การออกกำลังกายควรออกแบบ aerobic คือออกำลังกายแล้วร่างกายใช้ออกซิเจนเพื่อให้พลังงาน ควรออกกำลังกายครั้งละ 30 นาที สัปดาห์ละ2-5 ครั้งยิ่งออกกำลังกายมากจะช่วยลดความดันโลหิตลงได้มาก มีรายงานว่าสามารถลดระดับความดันโลหิตลงได้ 5-15 มิลิเมตรปรอท ตารางแสดงแนวทางการออกกำลังกาย
อัตราเต้นของหัวใจเป้าหมายตามเกณฑ์อายุ
เลือกอาหารที่มีเกลือต่ำ การลดอาหารเค็มจะช่วยป้องกันและลดความดันโลหิต
ได้ โดยทั่วไปห้ามกินเกลือเกิน 6 กรัมหรือ 1 ช้อนชา(เท่ากับ โซเดียม 2400 มิลิกรัม) แต่แนะนำให้รับประทานเกลือ 1500 มิลิกรับเทียมเท่าปริมาณเกลือ 4 กรัมหรือ2/3 ช้อนชาท่านผู้อ่านไม่ควรปรุงรสอาหารก่อนชิมอาหาร หากปรุงรสอาหารเองต้องเติมเกลือให้น้อยที่สุด ตัวอย่างอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
หากท่านซื้ออาหารกระป๋องท่านต้องอ่านสลากอาหารเพื่อดูปริมาณสารอาหารเลือกที่มีเกลือต่ำ
รับประทานอาหารสด เช่น เนื้อสัตว์ ผัก หรือผลไม้ แทนการรับประทานอาหารที่ผ่านขบวนการถนอมอาหาร
ไม่เติมเกลือหรือน้ำปลาเพิ่มในอาหารที่ปรุงเสร็จ
หลีกเลี่ยงอาหารเค็ม เช่น หมูเค็ม เบคอน ไส้กรอก ผักดอง มัสตาร์ด และเนยแข็ง
อาหารตากแห้ง เช่น ปลาเค็ม เนื้อเค็ม หอยเค็ม กุ้งแห้ง ปลาแห้ง
เนื้อสัตว์ปรุงรส ได้แก่ หมูหยอง หมูแผ่น กุนเชียง
อาหารกึ่งสำเร็จรูป เช่น บะหมี่สำเร็จรูป โจ๊กซอง ซุปซอง
อาหารสำเร็จรูปบรรจุถุง เช่น ข้าวเกรียบ ข้าวตังปรุงรส มันฝรั่ง
เครื่องปรุงรสที่มีเกลือมาก เช่น ซุปก้อน ผงชูรส ผงฟู
อาหารหมักดองเค็ม เช่น กะปิ เต้าหู้ยี้ ปลาร้า ไตปลา ไข่เค็ม ผักดอง ผลไม้ดอง แหนม ไส้กรอกอิสาน
จำดัดการดื่มแอลกอฮอล จากการศึกษาพบว่าปริมาณสุราที่ดื่มจะมีส่วนสัมพันธุ์กับระดับความดันโลหิต สำหรับผู้ที่ดื่มสุราปริมาณปานกลาง ระดับความดันโลหิตจะลดลงในช่วง 1-2 สัปดาห์ หลังจากนั้นจะกลับสู่ปกติ สำหรับผู้ที่ดื่มสุราอย่างมาก (ประมาณห้าเท่าของที่แนะนำ) จะพบว่าระดับความดันโลหิตจะสูงหลังจากหยุดสุรา ดังนั้นจะพบว่าหลังจากดื่มสุรามากในวันหยุดจะมีความดันสูงในวันทำงาน การลดสุราจะทำให้ระดับความดันโลหิตลดลง
ผู้ชายให้ดื่มไม่เกิน 2 drink(20–30 g ethanol per day) ผู้หญิงไม่เกิน 1 drink(10–20 gethanol per day) 1 drink เท่ากับ
วิสกี้ 45 มล.
ไวน์ไม่เกิน 150 มล..
เบียร์ไม่เกิน300 มล.
ไม่ว่าคุณจะมีเชื้อชาติอะไร เพศ อายุเท่าใด คุณสามารถป้องกันความดันโลหิตสูงหรือการรักษาความดันโลหิตสูงโดยที่ไม่ต้องใช้ยาโดยวิธีการดังต่อไปนี้ที่เรียกว่า การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมหรือการรักษาความดันโลหิตสูงโดยไม่ต้องใช้ยา
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
คำแนะนำ
ความดันที่ลด
น้ำหนัก
รักษาน้ำหนักให้ดัชนีมวลกายไม่เกิน 23
5-20 มม.ปรอท/ นน 10 กกที่ลด
รับประทานอาหารตามหลักของ DASH
รับประทานผัก ผลไม้ให้มาก ลดอาหารที่มัน และไขมันอิ่มตัว
8-14 มม.ปรอท
งดเค็ม
ปริมาณโซเดียมน้อยกว่า 100 mEg/L(เกลือน้อยกว่า 6 กรัม/วัน)
2-8 มม.ปรอท
การออกกำลังกาย
ออกกำลังกายวันละ 30นาทีอย่างน้อย 3 วัน/สัปดาห์
4-9 มม.ปรอท
ลดการดื่มสุรา
ชายน้อยกว่า 2 หน่วย หญิงน้อยกว่า 1 หน่วย
2-4
ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกต หากคุณอ้วนให้รีบลดน้ำหนัก
google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);
เกลือ 1/4 ช้อนชาเท่ากับโซเดียม 500 มิลิกรัม
เกลือ 1/2 ช้อนชาเท่ากับโซเดียม 1000 มิลิกรัม
เกลือ 2/3 ช้อนชาเท่ากับโซเดียม 1500 มิลิกรัม
เกลือ 1 ช้อนชาเท่ากับโซเดียม 2400 มิลิกรัม
ให้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
เลือกอาหารมี่มีเกลือต่ำ
ให้ลดปริมาณแอลกอฮอล์ให้อยู่ในเกณฑ์เหมาะสม
งดบุหรี่ เป็นวิธีการที่ได้ผลดีในการป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด
จัดการเรื่องความเครียด
รับประทานอาหารที่มีคุณภาพโดยการลดอาหารเค็ม ลดอาหารมันเพิ่มผักผลไม้
รึกษาแพทย์เกี่ยวกับยาที่ใช้อยู่เพราะมียาบางตัวทำให้เกิดความดันโลหิตสูง
การจะใช้ยาคุมกำเนิดต้องปรึกษาแพทย์
หลักการดังกล่าวสามารถนำไปใช้กับผู้ป่วยที่เป็นความดันโลหิตสูงได้ ที่สำคัญคือต้องงดบุหรี่
ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
เมื่อน้ำหนักเพิ่มความดันก็จะเพิ่ม คนอ้วนจะมีโอกาสเป็นความดันโลหิตสูงมากกว่าคนปกติ 2-6 เท่า วิธีการลดน้ำหนักที่ดีควรจะลดไม่เกินสัปดาห์ละ 1/2 กิโลกรัมโดยการเลือกรับประทานอาหารที่มีพลังงานน้อยร่วมกับการออกกำลังกาย วิธีการลดน้ำหนักมีดังนี้
เลือกอาหารที่มีไขมันต่ำ อาหารไขมันต่ำ จะให้พลังงานน้อย อาหารที่ให้พลังงานมากควรหลีกเลี่ยงได้แก่ เนย น้ำสลัด เนื้อติดมัน เนื้อติดหนัง นมสด ของทอด เช่นปลาท่องโก๋ กล้วยแขก ไก่ทอด เค้ก คุกกี้ ให้เลือกอาหารที่มีพลังงานน้อยเช่น ใช้อบหรือเผาแทนการทอด เลือกไก่ไม่ติดหนัง ปลา ดื่มนมพร่องมันเนยแทนนมสด รับประทานผักให้มาก
เลือกอาหารที่มีแป้งและใยให้มาก
ใช้จานใบเล็กและห้ามตักครั้งที่สอง ควรจดรายการอาหารที่รับประทานทุกครั้ง ไม่ควรรับประทานอาหารว่างขณะดูทีวี ไม่ควรงดอาหารมื้อหนึ่งแล้วชดเชยมื้อต่อไป
ให้เพิ่มออกกำลังกายเพิ่ม การออกกำลังกายหรือการทำงานบ้านจะช่วยให้ร่างกายเผาผลาญพลังงาน ทำให้น้ำหนักลดตารางข้างล่างจะแสดงพลังงานที่ใช้ในการออกกำลังกาย
google_protectAndRun("ads_core.google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);
พลังงานที่เผาผลาญ
กิจกรรม
พลังงานที่ใช้ใน 1 ชม.
ผู้ชาย
ผู้หญิง
ออกกำลังกายแบบเบา
300
240
ทำความสะอาดบ้าน
เล่นเบสบอล
ตีกอล์ฟ
ออกกำลังกายปานกลาง
460
370
เดินเร็วๆ
ทำสวน
ขี่จักรยาน
เต้นรำ
เล่นบาสเกตบอล
ออกกำลังกายมาก
730
580
วิ่งจ๊อกกิ้ง
เล่นฟุตบอล
ว่ายน้ำ
ให้ร่างกายได้ใช้พลังงานให้มาก การออกกำลังกายนอกจากทำให้น้ำหนักลดแล้วยังลดไขมัน cholesterolในเลือด และเพิ่ม HDL นอกจากการออกกำลังกายแล้ว ท่านผู้อ่านยังสามารถทำให้ร่างกายมีการออกกำลังอยู่ตลอดเวลา เช่นใช้บันไดแทนลิฟท จอดรถก่อนถึงที่ทำงานแล้วเดินต่อ ขี่จักรยานแทนการนั่งรถ ตัดหญ้า ทำสวน ไปเต้นรำเป็นต้น ผู้ป่วยสามารถออกกำลังได้เลยโดยที่ไม่ต้องปรึกษาแพทย ์นอกจากท่านจะมีอาการดังต่อไปน ี้ขณะออกกำลังกาย แน่นหน้าอก จะเป็นลมขณะออกกำลังกาย หายใจเหนื่อยเมื่อเริ่มออกกำลังกาย หรืออายุกลางคนโดยที่ไม่ได้ออกกำลังกาย การออกกำลังกายควรออกแบบ aerobic คือออกำลังกายแล้วร่างกายใช้ออกซิเจนเพื่อให้พลังงาน ควรออกกำลังกายครั้งละ 30 นาที สัปดาห์ละ2-5 ครั้งยิ่งออกกำลังกายมากจะช่วยลดความดันโลหิตลงได้มาก มีรายงานว่าสามารถลดระดับความดันโลหิตลงได้ 5-15 มิลิเมตรปรอท ตารางแสดงแนวทางการออกกำลังกาย
อัตราเต้นของหัวใจเป้าหมายตามเกณฑ์อายุ
เลือกอาหารที่มีเกลือต่ำ การลดอาหารเค็มจะช่วยป้องกันและลดความดันโลหิต
ได้ โดยทั่วไปห้ามกินเกลือเกิน 6 กรัมหรือ 1 ช้อนชา(เท่ากับ โซเดียม 2400 มิลิกรัม) แต่แนะนำให้รับประทานเกลือ 1500 มิลิกรับเทียมเท่าปริมาณเกลือ 4 กรัมหรือ2/3 ช้อนชาท่านผู้อ่านไม่ควรปรุงรสอาหารก่อนชิมอาหาร หากปรุงรสอาหารเองต้องเติมเกลือให้น้อยที่สุด ตัวอย่างอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
หากท่านซื้ออาหารกระป๋องท่านต้องอ่านสลากอาหารเพื่อดูปริมาณสารอาหารเลือกที่มีเกลือต่ำ
รับประทานอาหารสด เช่น เนื้อสัตว์ ผัก หรือผลไม้ แทนการรับประทานอาหารที่ผ่านขบวนการถนอมอาหาร
ไม่เติมเกลือหรือน้ำปลาเพิ่มในอาหารที่ปรุงเสร็จ
หลีกเลี่ยงอาหารเค็ม เช่น หมูเค็ม เบคอน ไส้กรอก ผักดอง มัสตาร์ด และเนยแข็ง
อาหารตากแห้ง เช่น ปลาเค็ม เนื้อเค็ม หอยเค็ม กุ้งแห้ง ปลาแห้ง
เนื้อสัตว์ปรุงรส ได้แก่ หมูหยอง หมูแผ่น กุนเชียง
อาหารกึ่งสำเร็จรูป เช่น บะหมี่สำเร็จรูป โจ๊กซอง ซุปซอง
อาหารสำเร็จรูปบรรจุถุง เช่น ข้าวเกรียบ ข้าวตังปรุงรส มันฝรั่ง
เครื่องปรุงรสที่มีเกลือมาก เช่น ซุปก้อน ผงชูรส ผงฟู
อาหารหมักดองเค็ม เช่น กะปิ เต้าหู้ยี้ ปลาร้า ไตปลา ไข่เค็ม ผักดอง ผลไม้ดอง แหนม ไส้กรอกอิสาน
จำดัดการดื่มแอลกอฮอล จากการศึกษาพบว่าปริมาณสุราที่ดื่มจะมีส่วนสัมพันธุ์กับระดับความดันโลหิต สำหรับผู้ที่ดื่มสุราปริมาณปานกลาง ระดับความดันโลหิตจะลดลงในช่วง 1-2 สัปดาห์ หลังจากนั้นจะกลับสู่ปกติ สำหรับผู้ที่ดื่มสุราอย่างมาก (ประมาณห้าเท่าของที่แนะนำ) จะพบว่าระดับความดันโลหิตจะสูงหลังจากหยุดสุรา ดังนั้นจะพบว่าหลังจากดื่มสุรามากในวันหยุดจะมีความดันสูงในวันทำงาน การลดสุราจะทำให้ระดับความดันโลหิตลดลง
ผู้ชายให้ดื่มไม่เกิน 2 drink(20–30 g ethanol per day) ผู้หญิงไม่เกิน 1 drink(10–20 gethanol per day) 1 drink เท่ากับ
วิสกี้ 45 มล.
ไวน์ไม่เกิน 150 มล..
เบียร์ไม่เกิน300 มล.
20 มกราคม 2553
อันดับที่ 1 King Cobra - งูจงอาง
อันดับที่ 1 King Cobra - งูจงอาง งูจงอาง หรือชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Ophiophagus hannah เป็นงูพิษที่มีลำตัวยาวที่สุดในโลก ด้วยขนาดโตสุดที่ 5.6 เมตร งูจงอางนั้น เรารู้กันว่าอาหารโปรดของมันก็คือ งู !!! นั่นหมายความว่า มันกินสัตว์ตระกูลเดียวกัน และเพียงแค่โดนมันกัดเพียงครั้งเดียว ก็ทำให้คนตายได้อย่างง่ายๆ และพิษของมันนั้น สามารถฆ่าช้างที่โตเต็มวัยได้เพียงแค่ 3 ชั่วโมง ที่สำคัญ มันพบได้ทั่วไป ในทวีปเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ และในประเทศไทย
อันดับที่ 6 The Brazilian wandering spider
อันดับที่ 6 The Brazilian wandering spider - แมงมุมบราซิล แมงมุมบราซิลหรือแมงมุมกล้วย ได้รับการบันดึกลงในกินเนสเวิลด์เรคคอรด์ว่า เป็นแม่งมุมที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก พิษของมันมีพิษทำลายประสาท พวกมันจะอันตรายอย่างมาก เพราะโดยนิสัยของมันแล้วมันชอบแอบอยู่ตามรองเท้า ตู้เสื้อผ้า แม้กระทั่งในรถยนต์ พิษของมันถ้าโดนกัดนอกจากจะทำให้เจ็บปวดอย่างมากแล้ว มันจะทำให้อวัยวะเพศของเราควบคุมไม่ได้ และ ถ้ารอดตายจากการโดนมันกัด มันก็จะทำให้เราเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
อันดับที่ 8 Poison Dart Frog - กบลูกดอก
อันดับที่ 8 Poison Dart Frog - กบลูกดอก กบลูกดอกสีน้ำเงินนั้นเป็นสัตว์ที่อยู่ในป่าฝนในทวีปอเมริกากลาง และ ใต้ เป็นกบที่มีสีสันสวยงามแต่พิษของมันร้ายแรงมาก พิษของกบลูกดอก 1 ตัว สามารถฆ่าคนได้ถึง 10 คนและหนูถึง 20000 ตัว พิษของมันเพียง 5 ไมโครกรัม ( เท่ากับปลายเข็ม) ก็สามารถฆ่าคนและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีขนาดใหญ่ๆ ได้ พิษของมันถูกนำมาใช้ในลูกดอกอาบยาพิษของอินเดียแดง มันจึงถูกเรียกว่ากบลูกดอก
สัตว์มีพิษ
อันดับ 9 Puffer Fish - ปลาปักเป้า ปลาปักเปา คือสัตว์มีพิษที่มีคนนิยมบริโภคมาก โดยเฉพาะในแถบประเทศญี่ปุ่น (ปลาปักเปาภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า "ฟูกุ" ) และเกาหลี (ในส่วนของภาษาเกาหลีจะเรียกว่า "บ๊อค ฮัง")โดยเนื้อปลาปักเป้านั้นจริงๆแล้ว ไม่ได้มีพิษ แต่ส่วนที่มีพิษก็คือพวกผิวหนังและเครื่องในของปลาปักเป้านั่นเอา แต่พิษเหล่านี้มักจะซึมเข้าไปในเนื้อตอนแล่ พ่อครัวที่จะแล่ปลาปักเป้าต้องมีใบอนุญาติกันเลย ถ้าหากกินพิษของปลาปักเป้าไป อาจจะทำให้เสียชีวิตได้ในทันที
19 มกราคม 2553
14 มกราคม 2553
ความร้รอบโลกกกกกกกกกกก
สัตว์ที่ใหญ่และมีน้ำหนักมากที่สุดในโลก (ปลาวาฬสีน้ำเงิน (Blue Whale))สัตว์ที่ตัวสูงที่สุด (ยีราฟ เป็นสัตว์ที่พบในบริเวณอัฟริกา ทางแถบใต้ของทะเลทรายสะฮะรา สูงถึง 23 ฟุต)สัตว์ที่มีราคาแพงที่สุด (หมีแพนด้า เมื่อปี 2523 การซื้อขายกันในราคาถึง 30 ล้านเหรียญสหรัฐ)สัตว์ที่มีอายุยืนที่สุด (เต่า ซึ่งมีอายุ 152 ปี)สัตว์ที่มีตาโตที่สุด (ปลาหมึกยักษ์ ( giant squid ) ตามีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเกินกว่า 15 นิ้ว)สัตว์ที่มีระยะเวลาตั้งท้องนานที่สุด (ซาลามานเดอร์ ถ้าอยู่บนภูเขาแอลป์ จะใช้เวลาตั้งท้อง 38 เดือน แต่ถ้าอยู่ในที่ราบธรรมดา จะใช้เวลาตั้งท้องประมาณ 24-26 เดือน)สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมที่อาศัยอยู่ที่ลึกที่สุด (ปลาวาฬ ดำลงไปลึกถึง 620 ฟาธอม ประมาณ 1,134 เมตร)สัตว์บกที่มีขนาดใหญ่ที่สุด (ช้างอัฟริกา โดยเฉลี่ยช้างมีน้ำหนักประมาณ 5.7 ตัน)สัตว์บกที่วิ่งเร็วที่สุด (ชีต้า สามารถวิ่งได้เร็วประมาณ 60 ไมล์ต่อชั่วโมง พบแถวอัฟริกาตะวันออกอิหร่าน อัฟกานิสถาน)นกที่ตัวใหญ่ที่สุด (นกกระจอกเทศ สูงประมาณ 9 ฟุต น้ำหนักราว ๆ 156.5 กิโลกรัม)นกอะไรบินเร็วที่สุด (นกอินทรีย์ (Golden Eagle) บินได้ชั่วโมงละ 15 ไมล์)นกอะไรตาไวที่สุด (แร้ง)นกที่ว่ายน้ำได้เร็วที่สุด (นกแพนกวิน สามารถว่ายน้ำได้ประมาณ 17 ไมล์ต่อชั่วโมง)สัตว์เลื้อยคลานที่ตัวใหญ่ที่สุด (จระเข้ พบแถวเอเซีย ออสเตรเลีย นิวกีนี และมาเลเซีย มีน้ำหนักประมาณ 900-1150 ปอนด์)งูที่ตัวยาวที่สุด (งูฉลาม มีความยาวเกินกว่า 20 ฟุต พบในอินโดนีเซีย , ฟิลิปปินส์)ปลาทะเลที่ใหญ่ที่สุด (ปลาวาฬ)ปลาอะไรที่ดุร้ายที่สุด (ปลาปิรันยา อยู่ในลุ่มแม่น้ำอเมซอน ปลาเพียงฝูงเล็ก ๆ จะรุมกินคนหมดอย่างรวดเร็ว) ปลาน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุด (ปลาบึกโตเต็มที่จะมีความยาวโดยเฉลี่ยประมาณ 2.43 เมตร น้ำหนักประมาณ 163 กิโลกรัม)ปลาที่ว่ายน้ำได้เร็วที่สุด (ปลาฉนาก (sail fish ) สามารถว่ายน้ำได้เร็วประมาณ 35 ไมล์ต่อชั่วโมง)ปลาที่มีปริมาณมากที่สุด (ปลาซาร์ดีน)ปลาที่มีพลังงานไฟฟ้ามากที่สุด (ปลาไหลไฟฟ้าสามารถให้แรงเคลื่อนไฟฟ้า 400 โวลต์ ที่กระแส ไฟฟ้า 1 แอมเปร์)ต้นไม้ที่สูงที่สุด (เรดวู๊ด (ซีวอยอะ) พบบริเวณใกล้ฝั่งแคลิฟอร์เนีย ต้นที่สูงที่สุดพบที่แคลิฟอร์เนีย สูง 367.8 ฟุต)ไม้ที่หนักที่สุด (black ironwood หรือ South African iron wood ความถ่วงจำเพาะเท่ากับ 1.49 น้ำหนัก 1490 กิโลกรัมต่อ 1 ลูกบาศก์เมตร)สวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดของโลกคือ (Wood Buffalo National Park ในเมืองอัลเบอร์ตา ประเทศ แคนาดา มีเนื้อที่คือ45,480 ตารางกิโลเมตร)พิพิธภัณฑ์สัตว์ทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลกคือ (จอห์นจีเซตต์ อะควเรียม อิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา)แผ่นดินไหวที่มีคนตายมากที่สุด (แผ่นดินไหวเมืองเชนลี ซานสีและโฮนาน ประเทศจีนเมื่อวันที่ 2 ก.พ. ค.ศ. 1556 มีคนตาย ประมาณ 830,000 คน)การระเบิดภูเขาไฟที่มีพุ่งลาวาไปในบริเวณกว้างที่สุด (ภูเขาไฟที่เมืองแทมโบลา ประเทศอินโดนีเซีย ระเบิดเมื่อ 5-7 เม.ย. 1815 มีพื้นที่ถึง 151.7 ตารางกิโลเมตร)จากการระเบิดของภูเขาไฟที่มีการเสียหายครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดคือ (ภูเขาไฟกรากะตัว อยู่ระหว่างสุมาตรากับชวา ในอินโดนีเซีย ภูเขาไฟระเบิดพ่นลาวาท่วมหมู่บ้าน 163 หมู่บ้าน คนตายราว ๆ 36,380 คน หินกระเด็นไปเป็นระยะทาง 34 ไมล์)ภูเขาไฟที่ดับแล้วตั้งอยู่สูงที่สุด (ภูเขาไฟไกลแดนลูเลนลาโก อยู่ชายแดนระหว่างซิลี กับอาร์เจนตินา 22,057 ฟุต)ภูเขาไฟที่ดับแล้วตั้งอยู่สูงที่สุด (ภูเขาไฟโวลแคนแอนโตฟอลลา ในอาร์เจนตินา สูง 21,162 ฟุต)น้ำพุร้อนที่สูงที่สุดในโลก (น้ำพุร้อนไวแมนกุ (Waimangu) ในนิวซีแลนด์เคยพุ่งสูงถึง 1,500 ฟุต หรือ 457 เมตร)ทะเลที่ใหญ่ที่สุด (ทะเลจีนใต้ มีพื้นที่ 1,148,500 ตารางไมล์)อ่าวที่ใหญ่ที่สุด (อ่าวเม็กซิโก, แต่อ่าวที่เรียกว่า Bay ที่ใหญ่ที่สุดคืออ่าวฮัดสัน ทางตอนเหนือของแคนาดา)ฟยอร์ดตามชายฝั่งที่ยาวที่สุด (นอร์ธเวสต์ฟยอร์ด ทางตะวันออกของกรีนแลนด์ ยาวถึง 313 กิโลเมตร)ช่องแคบที่กว้างที่สุดในโลก (ช่องแคบทาร์ทาร์อยู่ระหว่างเกาะซัลคาลิน และแผ่นดินใหญ่โซเวียต มีระยะทางถึง 800 กิโลเมตร)ช่องแคบที่กว้างที่สุดในโลก (ช่องแคบเดวิส อยู่ระหว่างเกาะกรีนแลนด์กับเกาะแบฟฟิน มีความกว้างที่ต่ำที่สุดถึง 338 กิโลเมตร)เกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก (เกาะกรีนแลนด์ มีพื้นที่ 840,000 ตารางไมล์)แนวหินประการังที่ใหญ่ที่สุดในโลก (เกรทแบริเออร์ (Great Barrier Reef of Queensland) ทางตะวันออกเฉียงเหนือของ ออสเตรเลียมีความยาวถึง 2027 กิโลเมตร)ถ้ำที่ยาวที่สุดในโลก (ถ้ำแมมมอธ อยู่ในสวนสาธารณะแห่งชาติมลรัฐเคนตักกี้ สหรัฐอเมริกา มีความยาวถึง 379.1 กิโลเมตร)ภูเขาที่สูงที่สุดในโลก (ภูเขาหิมาลัย ส่วนที่สูงที่สุดมีความสูงถึง 29,028 ฟุต อยู่ระหว่างชายแดนของธิเบตกับเนปาล)ที่ราบสูงที่ใหญ่ที่สุดในโลก (ที่ราบธิเบต ทางเอเซียตอนกลางมีความสูงเฉลี่ย 16,000 ฟุต จากน้ำทะเล และมีพื้นที่ 200,000 ตารางกิโลเมตร)ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในโลก (ทะเลสาบแคสเปียน อยู่ทางใต้ของรัสเซียและอิหร่าน มีความยาว 1225 กิโลเมตร และมีพื้นที่360,700 ตารางกิโลเมตร)ทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดในโลก (ทะเลทรายสะฮะรา ในอาฟริกาเหนือ ยาว 5150 กิโลเมตร มีพื้นที่ประมาณ 8.4ล้านกิโลเมตร)น้ำตกที่สูงที่สุดในโลก (น้ำตกแองเจล (Angel) ในเวเนซูเอลา สูง 3,212 ฟุต)แม่น้ำที่ยาวที่สุดในโลก (แม่น้ำไนล์ยาว 6670 กม. ไหลลงสู่ทะเลเมดิเตอเรเนียน)ที่ดอนสามเหลี่ยม (delta) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก (แกงกา (Ganga) อยู่ระหว่างบังคลาเทศกับแบงกอลตะวันตก)แม่น้ำที่มีกระแสน้ำกว้างใหญ่ที่สุดในโลก (แม่น้ำอะเมซอนไหลลงสู่มหาสมุทรแอตแลนติคทางใต้ โดยเฉลี่ยเท่ากับ120,000 คิวบิค เมตร/วินาที)ดาวเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุด (ดาวพฤหัสบดี Jupiter มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 88,846 ไมล์)ดาวเคราะห์ที่เล็กที่สุด และมีอากาศหนาวเย็นที่สุด (ดาวพลูโต วัดอุณหภูมิ –220 องศาเซลเซียส)ดาวเคราะห์ที่หมุนเร็วที่สุด (ดาวพุธ สามารถหมุนรอบดวงอาทิตย์ด้วยความเร็ว 107,030ไมล์ต่อชั่วโมง)ดาวเคราะห์ที่ร้อนที่สุด (ดาวพระศุกร์ หรือดาวประจำเมือง หรือดาวประกายพรึก มีอุณหภูมิสูง 462 องศาเซลเซียส)ดาวเคราะห์ที่อยู่ใกล้โลกที่สุด (ดาวพระศุกร์ เมื่อเข้ามาใกล้โลกที่สุดมีระยะทาง 25.7 ล้านไมล์)ดาวเคราะห์ที่มีแสงสุกใสที่สุด (ดาวพระศุกร์ และดาวที่มองเห็นแสงเลือนที่สุดคือ ดาวพลูโต)ดาวเทียมดวงที่มีขนาดใหญ่ที่สุด (ดาวกานีมีตหรือจูปีเตอร์ 3 มีน้ำมากกว่าดวงจันทร์ 2.02 เท่า มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 3,270 ไมล์)ดาวเทียมดวงที่มีขนาดเล็กที่สุด (เลดา (Leda) หรือจูปีเตอร์ 8 มีเส้นผ่าศูนย์กลางเพียง 9 ไมล์)หอสมุดอะไรที่ใหญ่ที่สุดในโลก (หอสมุดแห่งรัฐสภาอเมริกัน (The Library of Congress) กรุงวอชิงตัน มีหนังสือมากกว่า 18 ล้านเล่ม)มหาวิทยาลัยอะไรที่เก่าแก่ที่สุดในโลก (มหาวิทยาลัยคารูอีน (Karueein) ในมอรอคโค ตั้งมาตั้งแต่ค.ศ. 859)มหาวิทยาลัยอะไรที่รับนักศึกษามากที่สุด (มหาวิทยาลัยซิตี้ออฟนิวยอร์ค รับนักศึกษา 269,929 คน)สิ่งก่อสร้างที่สวยที่สุดในโลกคืออะไร (ทัชมาฮัล อยู่ในประเทศอินเดีย)พระราชวังอะไรตั้งอยู่บนที่สูงที่สุด (พระราชวังโปลาทา ในเมืองลาทา ประเทศธิเบตสูงกว่าระดับน้ำทะเล 11,830 ฟุต)พระราชวังอะไรสวยงามที่สุดในโลก (พระราชวังแวร์ซาย ในประเทศฝรั่งเศส สร้างในสมัยพระเจัา หลุยส์ที่ 14)หอคอยอะไรที่สูงที่สุดในโลก (หอคอย ซี.เอ็น (CN Tower) กรุงโทรอนโต ประเทศแคนาดา สูง 1,822 ฟุต)เมืองที่มีประชากรน้อยที่สุดในโลก (วาติกันซิตี้ มีพระคาร์ดินัลเพียง 728 รูป)มหาวิทยาลัยตำรวจที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก คือมหาวิทยาลัยอะไร (มหาวิทยาลัยสก๊อตแลนด์ยาร์ด (Scotland Yard University)ในประเทศอังกฤษ)พิพิธภัณฑ์อะไรที่ใหญ่ที่สุดในโลก ( American Museum of Natural History กรุงนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา)พิพิธภัณฑ์อะไรที่เก่าแก่ที่สุด (พิพิธภัณฑ์แอช โมลีน อ๊อกฟอร์ด ประเทศอังกฤษ สร้างปี ค.ศ. 1679)สิ่งก่อสร้างอะไรที่ใหญ่ที่สุดในโลก (ปิรามิด (Pyramid) ที่เมืองกิเชย์ประเทศอียิปต์ สร้างในสมัยพระเจ้าคิออปส์)ถนนอะไรที่กว้างที่สุดในโลก (มานูเมนตัล แอกซิส ในบราซิลกว้าง 1.5 ไมล์)สิ่งก่อสร้างอะไรที่ใช้เวลาก่อสร้างนานที่สุด (หอเอนปิซา ประเทศอิตาลี)พระราชวังที่ใหญ่ที่สุด คือ (พระราชวังอิมพีเรียล ที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน มีเนื้อที่ 177.9 เอเคอร์)เกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลกคือ (เกาะกรีนแลนด์ ในมหาสมุทรอาร์คติด มีพื้นที่ประมาณ 840,000 ตารางไมล์)หลอดไฟฟ้าอะไรที่ใหญ่ที่สุดในโลก (หลอดไฟฟ้าที่สร้างเป็นอนุสรณ์แก่เอดิสัน ผู้คิดประดิษฐ์หลอดไฟฟ้าเป็นคนแรกอยู่ที่ Yellow Stone สหรัฐอเมริกา)สุสานอะไรที่ใหญ่ที่สุดในโลก (สุสานซุนยัดเซ็น ประเทศจีน)อุโมงค์รถไฟใต้ดินอะไรที่ยาวที่สุดในโลก (อุโมงค์มอสโคว์เมโทร ของประเทศรัสเซีย เสร็จในปี 2522 ยาว 19.07 ไมล์)กำแพงอะไรที่ใหญ่และยาวที่สุดในโลก (กำแพงเมืองจีน ยาว 2,150 ไมล์ ใช้กรรมกรสร้างถึง 3 แสนคน)พระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในโลกอยู่ที่ไหน (วัดไผ่โรงวัว จังหวัดสุพรรณบุรี)หอประชุมอะไรที่ใหญ่ที่สุดในโลก (หอประชุมองค์การสหประชาชาติ (United Nations Building) อยู่ที่กรุงนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา)หอนาฬิกาอะไรที่เรือนใหญ่ที่สุดในโลก (หอนาฬิกาบิกเบน ในกรุงลอนดอน สร้างเมื่อ พ.ศ. 2399 นาฬิกานี้มีน้ำหนัก 13 ตัน)ปืนใหญ่อะไรที่ใหญ่ที่สุดในโลก (ปืนใหญ่กุสตาฟเกซิ ของเยอรมัน ใช้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ลำกล้องยาว 1,344 นิ้วใช้กระสุนหนัก 8 ตัน)ระฆังอะไรที่ใหญ่ที่สุดในโลก (ระฆังชาร์โคโลโคล ที่วังเครมลิน กรุงมอสโคว์รัสเซีย สูง 26 ฟุต หนัก 198 ตัน)เจดีย์อะไรสวยงามที่สุดในโลก (เจดีย์ชเวดากองแห่งพม่า)ตึกอะไรที่สูงที่สุดในโลก (ตึกเซียร์ ที่ชิคาโก รัฐอิลินอยส์ สหรัฐอเมริกา เป็นตึกทำงานที่สูงที่สุดในโลก สูง 1,454 ฟุต 443 เมตร มี 110 ชั้นและก่อนหน้านี้มีตึก World Trade Center อยู่ที่เมืองชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา สูง 1,350 ฟุต สูงกว่า ตึก Empire State ซึ่งสูง 1,250 ฟุต)กล้องดูดาวที่ใหญ่ที่สุดในโลกอยู่ที่ไหน (อยู่บนยอดเขาบาโลมาร์ ชื่อเฮลเทลสโคป ในรัฐแคลิฟอร์เนีย)คุกอะไรที่ลือชื่อที่สุดในโลก (คุกเชบาสตีลย์ ในคราวปฏิวัติฝรั่งเศส พ.ศ. 2497)สะพานแขวนที่ยาวที่สุดในโลก (สะพานฮัมเมอร์เอสเตอรี่ ในอังกฤษ ยาว 4,626 ฟุต)ทางรถไฟสายใดที่ยาวที่สุดในโลก (สายทรานส์ไซบีเรีย ยาว 5,413 ไมล์ จากมอสโคว์ถึงเวลดิวอสต๊อค)ดินแดนประเทศอะไรใช้อูฐมากที่สุด (อัฟริกา)ดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก (ดอก Amold's Rafflesia สีแดงคล้ายอิฐ ดอกกว้างประมาณ 3 ฟุต กลีบหนาประมาณ 1 นิ้ว หนักดอกละ 15 ปอนด์ มีในเกาะสุมาตรา)
13 มกราคม 2553
ศีลธรรมเลว คนก็ได้ กลายเป็นผีหาความดี ไม่ประจักษ์ สักเส้นขนศีลธรรมดี ผีก็ได้ กลายเป็นคนที่เลิศล้น ภูมิใจ ไหว้ตัวเอง ศีลธรรมต่ำ เปลี่ยนคน จนคล้ายสัตว์จะกินกัด โกงกัน ขมันเขม็งศีลธรรมสูง คนสดใส ไม่อลเวงล้วนยำเกรง กันและกัน ฉันเพื่อนตาย ศีลธรรมนี้ ทุกวัน มันตายซากคนมีปาก ก็ไม่พล่าม ศีลธรรมหายศีลธรรมกลับ มาเมื่อไร ทั้งใจกายคนจะหาย จากทุกข์ เป็นสุขเอง ฯ
12 มกราคม 2553
วิธีกำจัด
หลอดฟลูออเรสเซนต์ที่หม[คำไม่พึงประสงค์]ายุการใช้งาน กำลังสร้างปัญหาให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้ง เทศบาล และ อบต. ซึ่งมีหน้าที่ จัดเก็บขยะ และดูแลสิ่งแวดล้อมใน แต่ละท้องถิ่น ปกติเทศบาล และ อบต. จะใช้วิธีการเก็บรวบรวมหลอดฟลูออเรสเซนต์ที่ทิ้งจากบ้านเรือน มารวมไว้ เพื่อรอการขนส่งไปกำจัด ที่ถูกต้อง แต่ปัญหาที่ตามมาก็คือ เทศบาล และ อบต. ส่วนใหญ่ไม่มีพื้นที่ในการจัดเก็บขยะที่เป็นอันตรายเหล่านี้ เสี่ยงในการเกิ[คำไม่พึงประสงค์]ุบัติเหตุและส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนในชุมชนอีกด้วยผศ.ดร.สมศักดิ์ พิทักษานุรัตน์ อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์อนามัยและสิ่งแวดล้อม คณะสาธารณสุขศาสตร์ จึงได้ร่วมกับ รศ.ดร.วันเพ็ญ วิโรจนกูฎ ผู้อำนวยการศูนย์การจัดการสิ่งแวดล้อมและสารอันตราย และนายวรวิทย์ อินทร์ชม นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทำการศึกษาพัฒนาต้นแบบเครื่องบดย่อยหลอดฟลูออเรสเซนต์พร้อมด้วยการควบคุมการแพร่กระจายของสารปรอท เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้นำไปใช้ประโยชน์ แก้ไขปัญหาการจัดเก็บขยะอันตรายจากชุมชนผศ.ดร.สมศักดิ์ เผยว่า เครื่องบดย่อยหลอดฟลูออเรสเซนต์ ประกอบด้วยถังพลาสติกอย่างหนา (HDPE) ขนาด 230 ลิตรและชุดบดย่อยที่มีใบมีด และช่องสำหรับใส่หลอดฟลูออเรสเซนต์ติดตั้งอยู่ด้านบนของถัง สามารถรองรับหลอดฟลูออเรสเซนต์ได้ 1,300-1,400 หลอด ที่บดย่อยแล้ว มีอัตราการบดย่อย 4-6 หลอด ต่อนาที การควบคุมการแพร่กระจายของไอปรอท ใช้วิธีฉีดพ่นโซเดียมซัลไฟด์ลงบนหลอดที่ถูกบดย่อย จากนั้นผสมปูนซีเมนต์เข้ากับเศษหลอดฟูลออเรสเซนต์ ทดสอบการ ชะล้างของสารปรอท และนำไปฝังกลบให้ถูกต้องต่อไปปัจจุบันต้นแบบเครื่องบดย่อยหลอดฟลูออเรสเซนต์ได้ถูกนำไปทดลองใช้งานจริง ที่เทศบาลตำบลพังโคน จังหวัดสกล นคร ภายใต้การดำเนินงานโครงการของเครือข่ายสกลนคร คลีน กรีน แอนด์ เน็ตเวิร์ก (Sakonnakorn Clean Green and Network) ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่าง สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม สำนักงานสาธารณสุข และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัด สกลนครเครื่องบดย่อยหลอดฟลูออเรสเซนต์ เมื่อเทียบต้นทุนการผลิตกับเครื่องบดย่อยหลอดฟลูออเรสเซนต์ ที่นำเข้าจากต่างประเทศ ถือว่ามีราคาถูกกว่ากันมาก เพราะมีต้นทุนเพียง 7,000 บาท เท่านั้น ผศ.ดร.สมศักดิ์ บอกว่า ยัง คงต้องพัฒนาต่อไปในเรื่องของรูปแบบเพื่อให้สะดวกต่อการติดตั้งและเคลื่อนย้าย และจะทดลองออกแบบติดตั้งบนรถเก็บขยะเพื่อให้สะดวกต่อการใช้งานให้มากยิ่งขึ้น
ทำอย่างไรให้เรียนเก่งงงงงงง
- เวลาฟังครู หรือเวลาอ่าน ต้อง คิด ถาม จด ถ้าไม่เข้าใจควรจดคำถามไปค้นคว้า หรือถามผู้รู้- หมั่นดูหนังสือหรือทำการบ้านอย่างมีประสิทธิภาพ หามุมอ่านหรือทำการบ้านที่เหมาะสม - จัดเวลาทบทวนสิ่งที่เรียนมา หรืออ่านล่วงหน้าสิ่งที่จะเรียนต่อไป และถ้าปฏิบัติตามที่กำหนดได้ควรให้รางวัลตัวเอง เช่น ได้ขนม ได้เล่น ได้ฟังเพลง ดูทีวี เป็นต้น - ทบทวนความรู้กับเพื่อน อย่าหวงวิชา แบ่งปันความรู้อธิบายให้กันและกัน อย่าช่วยเหลือเพื่อนในทางที่ผิด เช่น ทุจริตเวลาสอบ หรือให้ลอกงานโดยไม่เข้าใจ - ศึกษาด้วยตนเอง โดยนำตำราหลาย ๆ เล่ม มาทำความเข้าใจจดสาระสำคัญต่าง ๆ และหมั่นหาโจทย์แปลกใหม่มาทำมาก ๆ
11 มกราคม 2553
08 มกราคม 2553
If you love someone
If you love someone,put their name in a circle,instead of a heart,because hearts can break,but circles go on forever.ถ้าคุณรักใครสักคนจงเอาเขาไว้รอบตัวคุณแทนที่จะใส่เขาไว้ในใจเพราะหัวใจสามารถแตกสลายได้แต่ถ้าเขาอยู่รอบตัวคุณ เขาจะอยู่กับคุณตลอดไป
การที่ได้รักคือการเสี่ยง
To love is to risk not being loved in return.To hope is to risk pain.To try is to risk failure, but risk must be taken,Because the greatest hazard in life is to risk nothing.
การที่ได้รักคือการเสี่ยงว่าจะไม่ได้รับความรักเป็นการตอบแทนการตั้งความหวัง คือการเสี่ยงกับความเจ็บปวดการพยายามคือการเสี่ยงกับความล้มเหลวแต่ยังไงก็ต้องเสี่ยง เพราะสิ่งที่อันตราาย ที่สุดในชีวิต ก็คือ การไม่เสี่ยงอะไรเลย
No man or woman is worth your tears and the onlyone who is, will never make you cry.ไม่มีชายหรือหญิงคนไหนมีค่าพอที่คุณจะต้องเสียน้ำตาให้ ส่วนคนที่มีค่าพอนั้นเขาย่อมที่จะไม่มีวันทำให้คุณร้องไห้อย่างเด็ดขาด
การที่ได้รักคือการเสี่ยงว่าจะไม่ได้รับความรักเป็นการตอบแทนการตั้งความหวัง คือการเสี่ยงกับความเจ็บปวดการพยายามคือการเสี่ยงกับความล้มเหลวแต่ยังไงก็ต้องเสี่ยง เพราะสิ่งที่อันตราาย ที่สุดในชีวิต ก็คือ การไม่เสี่ยงอะไรเลย
No man or woman is worth your tears and the onlyone who is, will never make you cry.ไม่มีชายหรือหญิงคนไหนมีค่าพอที่คุณจะต้องเสียน้ำตาให้ ส่วนคนที่มีค่าพอนั้นเขาย่อมที่จะไม่มีวันทำให้คุณร้องไห้อย่างเด็ดขาด
คุณไม่ผิดที่ไปรักเขา
Not strange if you see some of them have allday long with quarrel. Not strange if you see some of them always sweet…And not strange if some of them are cold and distant to each other.And it’s normal if you see some of them have too much different love,seeming the sky and the land.
ไม่แปลกที่บางคู่อาจทะเลาะกันทั้งวันไม่แปลกที่บางคู่อาจหวานให้แก่กันได้ทั้งวันและไม่แปลกที่บางคู่ต่างเฉยชาต่อกันและก็คงไม่แปลกเลยที่บางคู่อาจต่างกันราวฟ้ากับดิน
You're not wrong to love him.And, it’s not also his wrong, if he doesn't love you back.By the way, you're not wrong if you don't love him.And not his wrong if he loves you.Forbid heart from falling in love is hard to do. But... It's not comparable with Forbid heart to forget love, because it's so hard to do.
คุณไม่ผิดที่ไปรักเขาคนนั้นและเขาเองก็คงไม่ผิดที่ไม่ได้รักคุณในทางตรงข้าม คุณไม่ผิดที่ไม่ได้รักเขาคนนั้นและเขาก็ไม่ผิดที่มารักคุณเช่นกันการห้ามใจไม่ให้รักนั้นยากนักแต่คงเทียบไม่ได้กับการห้ามใจให้ลืมรักเพราะย่อมยากกว่า
ไม่แปลกที่บางคู่อาจทะเลาะกันทั้งวันไม่แปลกที่บางคู่อาจหวานให้แก่กันได้ทั้งวันและไม่แปลกที่บางคู่ต่างเฉยชาต่อกันและก็คงไม่แปลกเลยที่บางคู่อาจต่างกันราวฟ้ากับดิน
You're not wrong to love him.And, it’s not also his wrong, if he doesn't love you back.By the way, you're not wrong if you don't love him.And not his wrong if he loves you.Forbid heart from falling in love is hard to do. But... It's not comparable with Forbid heart to forget love, because it's so hard to do.
คุณไม่ผิดที่ไปรักเขาคนนั้นและเขาเองก็คงไม่ผิดที่ไม่ได้รักคุณในทางตรงข้าม คุณไม่ผิดที่ไม่ได้รักเขาคนนั้นและเขาก็ไม่ผิดที่มารักคุณเช่นกันการห้ามใจไม่ให้รักนั้นยากนักแต่คงเทียบไม่ได้กับการห้ามใจให้ลืมรักเพราะย่อมยากกว่า
The Four Candles burned slowly
The Four Candles burned slowly.Their Ambiance was so soft youcould hear them speak...The first candle said, "I Am Peace, but these days, nobodywants to keep me lit." Then Peace's flame slowlydiminishes and goes out completely.The second candle says, "I Am Faith, but these days, I amno longer indispensable." Then Faith's flame slowlydiminishes and goes out completely.Sadly the third candle spoke, "I Am Love and I haven't thestrength to stay lit any longer.""People put me aside and don't understand myimportance. They even forget to love those who arenearest to them." And waiting no longer, Love goes outcompletely.Suddenly...A child enters the room and sees the threecandles no longer burning. The child begins to cry, "Whyare you not burning? You are supposed to stay lit until the end."Then the Fourth Candle spoke gently to the little boy,"Don't be afraid, for I Am Hope, and while I still burn, wecan re-light the other candles."With Shining eyes the child took the Candle of Hope andlit the other three candles.Never let the Flame of Hope go out of your life.With Hope, no matter how bad things look andare...Peace, Faith and Love can Shine Brightly in our lives.
happy new year
May this year bring inspiration and happiness to you and your family.
Looks like a bright new year ahead!
Wishing you peace and joy in the New Year
The beginning is always today! Happy New Year.
A new year is a reminder to celebrate all the things that are good in your world. Happy New Year.
Wishing you a very Happy New Year.
Time flies may you catch it and enjoy many moments in the year ahead Happy New Year.
Wishing you good times, good health, good cheer, and a very Happy New Year !
Wishing you peace, love and fun in the new year.
Looks like a bright new year ahead!
Wishing you peace and joy in the New Year
The beginning is always today! Happy New Year.
A new year is a reminder to celebrate all the things that are good in your world. Happy New Year.
Wishing you a very Happy New Year.
Time flies may you catch it and enjoy many moments in the year ahead Happy New Year.
Wishing you good times, good health, good cheer, and a very Happy New Year !
Wishing you peace, love and fun in the new year.
ดวงเมือง
ศาสตร์แห่งโหร " โสรัจจะ นวลอยู่" ปีขาล 2553 รัฐประหารครั้งใหญ่ ปีแห่งความหายนะทางเศรษฐกิจ ศาสตร์แห่งโหร ปี 2553 จะเปิดตัวในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 14 ระหว่างวันที่ 15-25 ตุลาคม ใครอยากรู้อนาคตธุรกิจการเมือง ปีขาล 2553 ต้องรีบซื้ออ่านโดยพลัน ประชาชาติออนไลน์ ตัดตอน คำพยากรณ์ของ"โสรัจจะ นวลอยู่"มาเป็นออร์เดิร์ฟ อ่านแล้ว อาจเตรียมตัวตั้งรับวิกฤตได้ทันท่วงที ....ปี 2553 ดวงดาวยังคงเดินในสภาพไม่ปกติ เป็นปีเสือดุสุดหฤโหดมหาวิปโยคอย่างแท้จริง
"พระเสาร์ยังสถิตอยู่ในราศีกันย์ตลอดทั้งปี และพระราหูสถิตราศีธนูทั้งปี เช่นกัน"
"ดาวอังคาร ดาวสีเลือดย้ายเข้าสู่ราศีตุล ในวันที่ 4 กันยายน 2553 เล็งลัคนาเมือง"
"26 เมษายน 2553 ดาวพฤหัสบดี อันเป็นดาวฝ่ายคุณธรรม ฝ่ายศาสนาและเป็นดาวแห่งความดีเดินเข้าสู่ราศีมีน เป็นวินาศกับดวงเมือง สถิตร่วมกับดาวพุธและมฤตยู
ปีนี้ดาวเสาร์เล็งกับมฤตยู ซึ่งเป็นบาปเคราะห์ล้วนร้ายแรงทั้งสิ้น เป็นสิ่งน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง ในการเดินของบาปเคราะห์ล้วนร้ายแรงทั้งสิ้น
เป็นสิ่งน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง ในการเดินของบาปเคราะห์ใหญ่ทั้งสองดวงพร้อมด้วยอังคารโยคหลัง อนึ่งตั้งแต่ต้นปีถึงเดือนเมษายน 2553 ดาวอังคารบาปเคราะห์ที่รุนแรงแบบทะลุทะลวงได้เข้าสู่ราศีกรกฎ ทำมุมฉากหรือมุมข้อพับกับราศีเมษ"
@ เกิดปฏิวัติรัฐประหาร" ครั้งใหญ่อีกครั้ง
เมื่อร่วมผนึกกำลังกันเข้าตรึงลัคนาราศีเมษกรุงสยามเช่นนี้ ทำให้เห็นชัดว่าถึงคราวชะตาเมืองกำลังตกต่ำ การแตกแยกโกรธแค้นชิงชังของผู้คน เสนาบดีมีเหตุอาเพศตางๆ เกิดการจลาจล รัฐประหาร ยึดอำนาจ คว่ำกระดาน บุคคลในเครื่องแบบแตกแยกแบ่งเป็นสองฝ่าย เกิดสงครามกลางเมือง ซึ่งเลือดไทยต้องไหลรินนองแผ่นดิน เป็นหนทางไปสู่ "การปฏิวัติรัฐประหาร" ครั้งใหญ่อีกครั้ง
เป็นปีแห่งการทุกข์ทรมานของนักการเมืองที่ต้องก้มหน้าก้มตารับกรรมที่ก่อไว้ ถูกประจานตีแผ่ความเลวร้าย ชั่วช้าสามานย์ ที่แอบแฝงซ่อนเร้นต่อผู้คนที่คอยตักตวงผลประโยชน์ของบ้านเมืองมาเป็นเวลาช้านาน จะต้องถูกคิดบัญชีจากวัฏจักรของดวงดาว ซึ่งส่อถึงความล่มสบายของอาณาจักร เกรงกลัวหรือไม่ก้แล้วแต่ท่านทั้งหลาย เพราะจุดจบของประเทศจะเกิดขึ้นโดยน้ำมือของนักการเมืองชั่ว และบุคคลที่เข้ามาบริหารประเทศอย่างไร้คุณธรรมอย่างทุกวันนี้ แต่ถ้าจะให้ผ่านจุดนั้นไปให้ได้และจะไปให้ถึงเวลาฟ้าใสของประเทศ
ตามดวงดาวบ่งบอกว่าอาจจะต้องใช้เวลาให้ผ่านช่วงเคราะห์กรรมไปอีกสักระยะหนึ่ง
แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ก่อกรรมไม่ดี จะถูกลงโทษจากสรวงสวรรค์ จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ดูแลประเทศเพราะสยามประเทศนั้นไม่มีอะไรที่จะมาทำลายร้างให้สูญสิ้นไปได้
ซึ่งที่ทำนายมานี้ไม่มีอคติต่อใครๆ ทั้งสิ้น หรือสาปแช่งบุคคลใด แต่ไปเป็นไปตามดวงดาวลิขิตจริงๆ สิ่งที่จะลบร้างคำทำนายให้เบาลง ทุกๆ คนต้องสร้างแต่ความดีถือศีล 5 ทำจากใจจริงไม่ใช่เฉพาะภายนอก หรือชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น
พรรคการเมืองทั้งเล็กและใหญ่ทั้งหลาย ซึ่งเป็นอยู่ในปัจจุบันถึงกาลอวสาน สิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบันจะแตกสลายไปเองตามอิทธิพลของดวงดาว และจะเกิดสิ่งใหม่หรือมิติใหม่ซึ่งพัฒนาขึ้นมาเองยากแก่การคาดการณ์ได้
ดาวมฤตยูเจ้าแห่งการปฏิรูปเปลี่ยนแปลง ได้เดินเข้าทำมุมตรีโกณกับราศีมิถุน ประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย และจะทำมุมอยู่อย่างนั้นเกือบถึง 7 ปี ระหว่างนี้จะมีบาปเคราะห์มาเข้าร่วมมุม ทั้งมุมกากบาท ทั้งมุมสามเหลี่ยม บ่งถึงไทยเรายังมีรัฐบาลที่ดันทุรังและไม่ฉลาดไม่เห็นการณ์ไกล
ความไม่เท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจ ย่อมจะกระทบกระเทือนต่อคุณภาพของการพัฒนาประชาธิปไตย และนำมาซึ่งความขัดแย้งทางสังคม
เกิดจลาจลในกรุงเทพฯ ทุกหมู่เหล่าแตกแยกเคียดแค้น ปิดร้านค้ายึดเป็นที่มั่นยิงต่อสู้กัน ทั่วทุกแถบในกรุงเทพฯ มีการขว้างระเบิดสนั่นเมืองไปหลายวัน จะก่อความยุ่งยากทีละน้อย และค่อยๆ รุนแรงขึ้นจนระงับไม่อยู่ ผู้มีอำนาจหรือคนสำคัญบางคนจักหมดอำนาจวาสนา
ข้อสังเกตเหตุการณ์รับกันนองเลือดครั้งนี้เกิดที่กรุงเทพฯ เมื่อดาวอังคารแห่งสงครามโคจรเข้าทับลัคนาแห่งดวงเมืองประชาธิปไตย จึงรบกันนองเลือดระหว่างผู้มีอำนาจกับประชาชน ครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่ตั้งกรุงเทพฯ มา
อาจต้องใช้กำลังทหารเข้าแก้ปัญหา เป็นหนทางไปสู่ "การปฏิวัติรัฐประหาร" ต้องรบราฆ่าฟันกัน สูญเสียชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก ตอนต้นปีบุคคลสำคัญและมีชื่อเสียงของประเทศจะถึงแก่กรรมจากการลอบทำร้าย ผู้คนระส่ำระสาย
@ ประเทศไทยกำลังคอยวีรบุรุษผู้กล้าหาญ
ภายใต้อิทธิฤทธิ์ของพระเคราะห์ แห่งสุริยะระบบ จึงไม่มีอะไรไม่ว่าสิ่งอันมีชีวิตหรือสิ่งอันเป็นนามธรรม กับสิ่งอันอุบัติขึ้นจากการก่อตัวของเหตุการณ์หนึ่งๆ จะต้องถูกครอบงำด้วยพระเคราะห์ทั้งสิ้น
เราคนไทยกำลังดิ้นรน เพื่อการคงอยู่ อนาคตนั้นก็ย่อมจะเป็นไปตามอำนาจของดวงดาวและกาลเวลา
พยายามดื้อรั้นฝืนดวงดาว เอาแต่ใจตนเอง โดยถือประเทศชาติเป็นสนามทดลองความดื้อของตนเอง ประเทศไทยกำลังคอยวีรบุรุษผู้กล้าหาญ ผู้เห็นประโยชน์แก่ประเทศชาติมาแก้ไขสถานการณ์นี้
บ้านเมืองเมื่อไรจะสงบเสียที เพราะรู้อยู่แก่ใจว่า ความมืดมนเหล่านี้จะเบาลง ซึ่งต้องใช้เวลายาวนานมาก มันเกี่ยวพันกับภูมิภาค เกี่ยวพันกับดวงชะตาของโลก เพียงแต่ขอตอบว่ายังไม่มีวันสงบ อีกหลายปีจึงจะเบาบางลง
กรุงเทพฯ บางส่วนเริ่มถูกน้ำทะเลท่วมเข้ามาถึง อาจจะจมน้ำหายไปและจะเป็นเช่นนี้ต่อเนื่องไปอีกหลายปี และอาจจะจมหายไปจากแผนที่โลกหรือแผนที่ประเทศไทย อาจจะต้องเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นภาครับต้องตระหนักถึงเรื่องนี้ ควรหาทางป้องกันไว้ก่อน
เดือนเมษายนเป็นที่สังเกตว่าดาวพระพฤหัสบดี แห่งไทยสยามกำลังโคจรร่วมกับพระพุธและดาวมฤตยูเป็นสัญญาณบ่งถึงการแทรกแซง ในราศีมีนเป็นวินาศกับลัคนาเมือง จะมีเหตุยุ่งยากเกิดขึ้น ผู้รักษาอำนาจการปกครองจะต้องระมัดระวัง อย่าได้หลวมตัว ตัดรอนอำนาจพิษสงของตนเองตามคำเรียกร้องต่างๆ ซึ่งวางกลลวง ในการแสวงหาลู่ทาง ให้ฝ่ายของพวกพ้องตนเองได้มีโอกาสเอาสถานการณ์บังหน้า ก่อเหตุวุ่นวายขึ้น
ขอย้ำว่าในปีนี้เหตุการณ์ไม่สู่สงบ จำเป็นต้องมีความรักและสามัคคีต่อกันและกันและมีเสถียรภาพด้วย
@ ปีแห่งการก่อการร้าย ส่วนปัญหาทางภาคใต้ อิทธิพลของดาวเสาร์และดาวอังคารทำให้ยังเป็นปีแห่งการก่อการร้าย และการก่อวินาศกรรมทั้งปี เหมือนปี 2552 ที่แล้วมาแต่ยังแก้ไม่ตก จะทวีความรุนแรงขึ้นอย่างมหาศาล อาจเสียอำนาจทางภาคใต้ของประเทศประกาสแบ่งแยกเดินแดนแล้วทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างขาดลอยไป เนื่องจากดาวอังคารคงเดินแบบวิกล เพราะดวงผู้นำประเทศ ทำให้การก่อการร้ายปานกลายเป็นสงครามระหว่างภาค ขยายวงกว้าง ออกไปทางภาคใต้การฆ่าผู้บริสุทธิ์รายวันยังคงดำเนินต่อไป มิมีอะไรมาหยุดยั้งได้ ผู้ก่อการร้ายกระทำครั้งนี้เป็นกลุ่ม ศาสนาถูกนำเข้ามาเกี่ยวข้อง ยังเอาโรงเรียน สถานที่ราชการ วัดวาอาราม ใช้อาวุธที่มีอานุภาพรุนแรงระเบิดพลีชีพ ประหนึ่งเป็นสงคราม จนทำให้องค์กรสหประชาชาติยื่นมือเข้ามา
ประเทศไทยจึงเป็นที่กล่าวขวัญในทางที่น่าสะพรึงกลัวไปทั่วโลก สื่อต่างประเทศมาทำข่าว ชาวต่างชาติไม่กล้าเดินทางมาท่องเที่ยว ผู้คนบริสุทธิ์ ทั้งพ่อค้า นักธุรกิจ นักปกครอง เด็กและสตรีต้องอพยพหนีไปยังที่ปลอดภัยกว่าในดินแดนแห่งใหม่ ผู้ที่จะมาชำระสะสางความมืดมน ความเคลือบแคลงให้กระจ่างออกมา ทุกคนทุกวันนี้ก็รู้กันดีอยู่ว่าการกระทำอันอุกอาจครั้งนี้ ย่อมจะต้องใช้กำลังผู้คนจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ฝ่ายคุ้มครองบ้านเมือง ย่อมจะไม่หย่อนสมรรถภาพถึงขนาดไม่รู้เบาะแสอะไรเลย เพียงแต่ว่าความจริงบางอย่างเปิดเผยออกมา จะต้องมีจังหวะเวลาอันสมควรด้วย ย่อมกระทบกระเทือนต่ออะไรมากมาย รวมทั้งสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศกับบ้านใกล้เรือนเคียง
เนื่องจากในกลุ่มชาติอาหรับผู้เป็นเจ้าของน้ำมันส่วนใหญ่ของโลก ยังมีปัญหาข้อพิพาทและรบราฆ่าฟันกันยังไม่จบสิ้น ยังคุกคามความสงบสุขของประชากรโลกต้องเดือดร้อนยิ่งขึ้นไปกว่าปีที่แล้วเพราะอาจขาดแคลนน้ำมัน ซึ่งเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ ได้รวมหัวกันขึ้นราคาน้ำมันโดยไม่หยุดยั้ง บางช่วงก็ใช้น้ำมันเป็นเครื่องต่อรองกับประเทศมหาอำนาจทางตะวันตก ส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกตกต่ำลง ทำให้ข้าวของแพง ผู้คนลำบากไปทั่ว
ส่วนในบ้านเรานอกจากน้ำมันเชื้อเพลิงจะขึ้นราคาไม่หยุดแล้ว แก๊สหุงต้มก็ขึ้นราคาอย่างหนักเช่นกัน สร้างความปั่นป่วนเดือดร้อน
@ การปลุกระดมม็อบใดๆ ควรละเว้น
อีกนัยหนึ่งปี 2553 นี้ เมื่อว่ากันในแง่โหราศาสตร์ฮินดูก็เห็นว่า การวู่วามใด ๆ รังแต่จะทำให้บ้านเมืองลุกเป็นไฟ การปลุกระดมม็อบใดๆ ควรละเว้น บ่งถึงว่าถ้าดื้อรั้นจะเอาแต่ฝ่ายตนท่าเดียวโดยมิได้ผ่อนปรนใดๆ บ้านเมืองก็คงฉิบหายและจะเป็นการปลุกให้ผู้ถืออาวุธทนไม่ไหวคิดเข้ามาแก้ไขสถานการณ์อันไม่สงบ มันจะไปกันใหญ่ นอกจากทุพภิกขภัยจะเล่นงานเอาอย่างอ่วมอรทัยแล้ว น้ำผึ้งหยดเดียวก็จักบันดาลให้เกิดอะไรต่ออะไรที่เลวร้ายอย่างใหย่หลวงได้
ผู้มีอำนาจวาสนา อย่าได้นิ่งนอนใจ ระวังสุขภาพ ความยุ่งยาก ความเดือดร้อนอย่างรุนแรง จักสำแดงโทษ ผู้เป็นใหญ่ ผู้เป็นหลักต่างๆ จะประมาทต่อสถานการณ์ใดๆ ไม่ได้ทั้งสิ้น ระวังกว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้ อย่าวางใจในสิ่งที่ตนคิดว่าตัดรากถอนโคนแล้วคงไม่มีเขี้ยวเล็บ ประวัติศาสตร์ที่ยุ่งยากมาเป็นร้อยเป็นพันปี สอนไว้ได้ดีว่า ในโลกนี้หามีความเที่ยงแท้อะไรไม่
ความผันผวนยุ่งยาก เป็นการแสดงให้เห็นว่าสิ่งต่างๆ ยังคงดำเนินสานต่อไปเรื่อยๆ อย่างไม่หยุดยั้ง และโดยทั่วไปสภาวะในประเทศเปรียบเสมือนน้ำเดือดพล่านบนหม้อที่มีเชื้อไฟข้างใต้โหมอย่างรุนแรง ประชาชนพลเมืองอาจจะประสบปัญหาที่ไม่เคยประสบมาก่อน คือ คนว่างงานจำนวนมาก มีการเดินขบวน วุ่นวาย ต่างๆ นานา และอาจถูกปราบปรามจนต้องสูญเสียชีวิตไปมิใช่น้อย มีสงครามเบ็ดเสร็จในแต่ละท้องที่ผู้คนจะตายหมู่กันมาก
@ปีแห่งความหายนะทางเศรษฐกิจถึงขั้นล้มละลาย
เศรษฐกิจภายในประเทศยังไม่สามารถแก้ไขได้พร้อมกับเศรษฐกิจทั่วโลกก็ประสบปัญหาเศรษฐกิจเช่นกัน ประชาชนคนไทยเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า ยิ่งกว่าปีก่อน เป็นปีแห่งความหายนะทางเศรษฐกิจถึงขั้นล้มละลาย ธนาคารของรัฐไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจฟื้นขึ้นมาได้ ธนาคารทั้งเล็กและใหญ่ปิดตัวลงอย่างสนิท ตลาดหุ้นถูกกระทบอย่างรุนแรง ร่วงหล่นต่ำสุด และปิดตัวเองลง มีคนฆ่าตัวตายเป็นเบือ พลเมืองประสบความยากจนข้นแค้นมากขึ้น แต่องค์ประกอบของรัฐได้ซ้ำเติมประชาชนด้วยการขึ้นค่าสาธารณูปโภคทุกรูปแบบ
ปี 2553 นี้มีภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างรุนแรงทั้งปัญหาภัยแล้งและอุทกภัยน้ำท่วม ปัญหาภัยแล้งทำให้ขาดแคลน ทางภาคตะวันออกและตะวันออกเฉียงเหนืออย่างที่ไม่เคยประสบมาก่อน สัตว์เลี้ยง และผู้คนเดือดร้อน บางจังหวัดและบางอำเภอดินแตกระแหงไม่สามารถปลูกพืชธัญญาหารได้เลย ทำให้ผู้คนอดอยากแต่ขาดความเหลียวแลเอาใจใส่ของภาครัฐ หลายครอบครัวถึงขั้นขุดรากไม้และดินกินเป็นอาหารเพื่อประทังชีวิตให้รอดไปก่อน
เกิดพื้นดินถล่มและทรุดตัวไปทั่วประเทศ ไม่เว้นแม้กระทั่งกรุงเทพมหานคร เราอาจจะต้องสูญเสียแผ่นดินทางภาคใต้ ฝั่งทะเลอันดามัน ตั้งแต่จังหวัดระนองลงมา และจมลงสู่ใต้ทะเลไปทีละน้อย
ราวปลายปีแถบชายฝั่งทะเลอันดามันรวมทั้งเกาะภูเก็ต กระบี่ พังงา ถูกคลื่นยักษ์สึนามิพุ่งเข้าถล่มครั้งใหญ่ กวาดผู้คนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติบ้านเรือนลงทะเลจำนวนมาก
และยังต้องระวังกับวาตภัย ทำให้เกิดความเสียหายแก่เรือกสวนไร่นามหาศาล เกิดน้ำท่วมใหญ่ทั่วประเทศอีกครั้ง กรุงเทพฯจะจมอยู่ใต้บาดาลเป็นเวลานาน เป็นที่น่าทุกขเวทนายิ่งนัก มีผู้เสียชีวิตมากกว่าครั้งใดๆ ที่ผ่านมา
เกิดไต้ฝุ่นเข้าถล่มภาคใต้ ที่ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ และสุราษฎร์ธานี ผลเสียหายมาก เป็นมหาวาตภัยเรือประมงจมร่วม 100 ลำ ลูกเรือสูยหายไปเป็นพัน และปลายปีพายุถล่มรอบสองรุนแรงมาก คนตายเรือนพัน จังหวัดชุมพรเสียหายร่วม 100 เปอร์เซ็นต์
@อาเพศสุดๆ จะเกิด "หิมะตกในกรุงเทพฯ
ประเทศไทย ปีขาล 2553 นี้ จะเป็นปีแห่งความอาเพศพิสดารสุดๆ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นเลยในสยามประเทศจะเกิด "หิมะตกในกรุงเทพฯ" และปริมณฑล คนไทยทั่วประเทศตกตะลึงและพูดกันไปต่างๆ นานา ในความอาถรรพณ์วิปริตผิดธรรมชาติประโคมข่าวไปทั่วโลก เป็นลางร้ายแก่คนกรุงเทพฯ และประชาชนชาวไทย ทั้งภยันตรายจากโรคติดต่อที่ร้ายแรงใหม่ๆ และคร่าชีวิตทั้งเด็ก ผู้หญิง และคนชรา ไปเป็นจำนวนมาก และเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในหลายๆ ด้าน ทั้งวัฒนธรรม-ประเพณีดั้งเดิม และการปกครองการเมืองที่สุดคาดเดา
@ เกิด "เขื่อนยักษ์แตก"
ที่เคยเกิดรอยร้าวสะสมมานาน ได้พังทลายลง เกิดคลื่นน้ำขนาดมหึมา พุ่งตรงลงสู่เบื้องล่าง เข้าท่วมไร่นา ที่อยู่อาศัย สิ่งก่อสร้างของผู้คน อย่างไม่รู้ตัวมาก่อน ทำให้สูญเสียชีวิตผู้คน สัตว์เลี้ยง และทำลายสิ่งก่อสร้าง รวมถึงพืชผลการเกษตรเสียหายทั้งหมดหลายจังหวัดต่อเนื่องมาถึงกรุงเทพฯ
น้ำแข็งขั้วโลกละลายอย่างรวดเร็ว ทำให้ระดับน้ำในทะเลสูงขึ้นและมหาสมุทรสูงขึ้น เกิดสภาวะน้ำท่วมใหญ่ บางส่วนของโลกถูกน้ำท่วมใหญ่จมหมายลงไปในทะเล
กรุงเทพฯ ไข้หวัดนกจะเข้ามาทำลายล้างชีวิตมนุษย์และสัตว์หรือเป็นเชื้อไข้หวัดนกที่กลายพันธุ์ติดต่อมาถึงคน ทำให้สูญเสียชีวิตมนุษย์มากมายเป็นที่สยดสยองต่อวงการแพทย์
ภูเขาไฟในเกาะสุมาตราระเบิดอย่างรุนแรง มีการปะทุอย่างต่อเนื่องทั้งกลางวันและกลางคืน พ่นแก๊สร้อนขี้เถ้าแผ่กระจายเป็นรัศมีกว้างไกล ทำให้ท้องฟ้ามืดมิดบดบังแสงแดดกลายเป็นกลางคืน
เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงที่เกาะสุมาตรา ทำให้เกิดคลื่นสึนามิขนาดใหญ่ในหลายแห่งทั่วโลก ประเทศไทยได้รับผลอย่างจัง จมเรือหลายลำ พุ่งตรงเข้าไปตามชายฝั่งที่อยู่ติดกับทะเลด้านอันดามัน กวาดเอาหมู่บ้านจำนวนมากหายตกทะเลไป ทำให้ประชาชนจำนวนมากที่อาศัยอยู่คาดไม่ถึง ไม่ทันตั้งรับ เสียชีวิตอย่างอนาถ
เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ กวาดและทำลายสิ่งก่อสร้างและชีวิตคนจำนวนมาก นับเป็นเหตุการณ์วิปโยคต้องสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง คลื่นทะเลยักษ์เริ่มปะทะและโจมตีดินแดนชายฝั่งอย่างต่อเนื่อง ทำให้ได้รับความเสียหายมากมายอย่างที่ไม่เคยประสบมาก่อน
ความผันผวนต่างๆ จะแผ่ซ่นไปทั่ว ทุกประเทศจะต้องประสบ ดังเช่นญี่ปุ่น เยอรมนี ตะวันออกไกล ส่วนประเทศในยุโรปนั้น จะเข้าสู่สภาวะมิคสัญญีจะประสบภาวะเดือดร้อนและเดือดพล่านโดยทั่วกัน
นาวาของปวงประเทศทั้งหลายจะต้องเผชิญต่อมหันภัยของมรสุมอีกหลายลูก ประมุขของประเทศต่างๆ ใครจะมีฝีมือ จะเป็นรัฐบุรุษของโลกขนาดไหน ก็ต้องดูความสามารถกันในช่วงปีนี้แหละ
ถึงคราวแล้วที่ประเทศไทยจะเข้าสู่สงครามที่เราไม่เคยมีมาเลยกับประเทศเพื่อนบ้านเป็นเวลาช้านานแล้ว เป็นการรบอย่างแท้จริง อิทธิพลของดาวงดาวคือพระราหูทำมุมเสียกับลัคนาประเทศ ถ้าประเทศไทยยังเฉยเมยไม่ตระหนักต่อปัญหาที่รุมเร้าหนักข้อขึ้นทุกที เสมือนดูหมิ่นสยามประเทศมาโดยตลอด
ดังนั้นปี 2553 จะเกิดการรบนองเลือดถึงขั้นเสียชีวิตผู้คนมาก ถึงจะได้คืนมาซึ่งแผ่นดิน อาจจะถึงขั้นประกาศสงครามกับเพื่อนบ้าน
@ ช่วงปลายปี′53 โลกจะเข้าสู่ยุคเข็ญ
ประเทศในอ่าวเปอร์เซียกับตะวันออกกลาง อยู่ในเกณฑ์ของความอดทนอย่างถึงที่สุดของผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย การเคลื่อนกำลังอาวุธอาจจำเป็นต้องกระทำสงครามยุทธนาวีหลีกเลี่ยงไม่ได้
ดาวของประเทศมหาอำนาจ (สหรัฐ) กับตะวันออกกลาง และอ่าวเปอร์เซียเป็นแนวทางการเคร่งเครียด การขัดแย้ง การวิบัติ ที่ฉายเงารางๆ ให้เห็น
ประเทศที่กุมอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก ปีนี้จะมีเหตุไม่ราบรื่นในการสัมพันธ์กับนานาชาติ และภายในประเทศของตนเริ่มมีสัญญาณแห่งการขัดข้อง ความไม่ราบรื่นดังเคย จะมีผลยืดเยื้อที่จะกระทบต่ออนาคตอย่างแน่นอน เงาของความขัดแย้งทางอุดมการณ์ระหว่างประเทศกับความไม่ทัดเทียมกันทางด้านเทคโนโลยีต่าง ๆ เห็นเหตุให้ชาติที่กำลังรีบเร่งไปสู่อนาคตที่แจ่มจรัสเบื้องหน้า เริ่มเห็นทางตัน มนุษยชาติกำลังเผชิญต่อภาวะความสับสนกับความเดือดร้อนต่อชาติอันยากจนข้นแค้นของประชากรโลกส่วนใหญ่ ความมืดมนกำลังเตรียมปักหลักเป็นแกนนำ บัดนี้โลกจะต้องระวังการหวังพึ่งพิงพลังงานใหม่ๆ เข้ามารับใช้มนุษยชาติในด้านอุตสาหกรรม ในด้านธุรกิจซึ่งกำลังตะบึงไปข้างหน้าอันเต็มไปด้วยหมอกหนาแห่งความไม่แน่ใจ
ดาวบาปเคราะห์ใหญ่ จะกระจายกันเข้าตรึง 4 ทวาร 4 มุม โดยมีดาวเสาร์เดินนำหน้า มันเป็นจุดคับขันที่สุดของโลก เป็นปีที่จะเกิดสงครามล้างผลาญโลกครั้งใหญ่ ทำลายล้างกันอย่างย่อยยับยิ่งกว่าครั้งใดๆ ที่เป็นมาในประวัติศาสตร์ของชาติมนุษย์
ช่วงปลายปี′53 โลกจะเข้าสู่ยุคเข็ญ และตะวันออกกลางเริ่มเปิดฉากแข็งกร้าวขึ้น อาวุธปรมาณู อาวุธนิวเคลียร์ อาวุธเคมีร้ายแรง อาวุธมหาประลัย นำมาใช้กัน ทำให้เกิดจุดวิกฤตการณ์ของดลกที่เขม็งเกลียวที่สุดนับตั้งแต่เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา และเมื่อนั้น ปีขาลหฤโหดจะสำแดงฤทธิ์ อาณาบริเวณที่จะเกิดจุดฆาตคือ สหรัฐ อังกฤษ อิสราเอล กลุ่มประเทศปาเลสไตน์ และจีน ส่วนสหรัฐแน่นอนละ ฐานทัพนอกประเทศจะถูกทำลายสิ้นไม่มีเหลือ ส่วนประเทศไทยเราจะถูกดึงเข้าไปเกี่ยวข้องกับสงครามครั้งนี้ด้วย สงครามยืดเยื้อไปถึงปี 2554 จนอาจจะกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 ได้
...อ่านจบแล้ว อาจรู้สึกเครียด เราแนะนำให้ แฟนประชาชาติฯ ทำความดีให้มาก ส่งผ่านความดีไปสู่คนอื่นๆ และเรียนรู้ที่จะให้อภัยผู้อื่น ตอนหน้า ประชาชาติออนไลน์จะนำเสนอคำพยากรณ์ของ กรหริศ บัวสรวง โหรคนแรกที่ทำนายว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะหมดอำนาจวาสนา ล่วงหน้า กว่า 3 ปี
"พระเสาร์ยังสถิตอยู่ในราศีกันย์ตลอดทั้งปี และพระราหูสถิตราศีธนูทั้งปี เช่นกัน"
"ดาวอังคาร ดาวสีเลือดย้ายเข้าสู่ราศีตุล ในวันที่ 4 กันยายน 2553 เล็งลัคนาเมือง"
"26 เมษายน 2553 ดาวพฤหัสบดี อันเป็นดาวฝ่ายคุณธรรม ฝ่ายศาสนาและเป็นดาวแห่งความดีเดินเข้าสู่ราศีมีน เป็นวินาศกับดวงเมือง สถิตร่วมกับดาวพุธและมฤตยู
ปีนี้ดาวเสาร์เล็งกับมฤตยู ซึ่งเป็นบาปเคราะห์ล้วนร้ายแรงทั้งสิ้น เป็นสิ่งน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง ในการเดินของบาปเคราะห์ล้วนร้ายแรงทั้งสิ้น
เป็นสิ่งน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง ในการเดินของบาปเคราะห์ใหญ่ทั้งสองดวงพร้อมด้วยอังคารโยคหลัง อนึ่งตั้งแต่ต้นปีถึงเดือนเมษายน 2553 ดาวอังคารบาปเคราะห์ที่รุนแรงแบบทะลุทะลวงได้เข้าสู่ราศีกรกฎ ทำมุมฉากหรือมุมข้อพับกับราศีเมษ"
@ เกิดปฏิวัติรัฐประหาร" ครั้งใหญ่อีกครั้ง
เมื่อร่วมผนึกกำลังกันเข้าตรึงลัคนาราศีเมษกรุงสยามเช่นนี้ ทำให้เห็นชัดว่าถึงคราวชะตาเมืองกำลังตกต่ำ การแตกแยกโกรธแค้นชิงชังของผู้คน เสนาบดีมีเหตุอาเพศตางๆ เกิดการจลาจล รัฐประหาร ยึดอำนาจ คว่ำกระดาน บุคคลในเครื่องแบบแตกแยกแบ่งเป็นสองฝ่าย เกิดสงครามกลางเมือง ซึ่งเลือดไทยต้องไหลรินนองแผ่นดิน เป็นหนทางไปสู่ "การปฏิวัติรัฐประหาร" ครั้งใหญ่อีกครั้ง
เป็นปีแห่งการทุกข์ทรมานของนักการเมืองที่ต้องก้มหน้าก้มตารับกรรมที่ก่อไว้ ถูกประจานตีแผ่ความเลวร้าย ชั่วช้าสามานย์ ที่แอบแฝงซ่อนเร้นต่อผู้คนที่คอยตักตวงผลประโยชน์ของบ้านเมืองมาเป็นเวลาช้านาน จะต้องถูกคิดบัญชีจากวัฏจักรของดวงดาว ซึ่งส่อถึงความล่มสบายของอาณาจักร เกรงกลัวหรือไม่ก้แล้วแต่ท่านทั้งหลาย เพราะจุดจบของประเทศจะเกิดขึ้นโดยน้ำมือของนักการเมืองชั่ว และบุคคลที่เข้ามาบริหารประเทศอย่างไร้คุณธรรมอย่างทุกวันนี้ แต่ถ้าจะให้ผ่านจุดนั้นไปให้ได้และจะไปให้ถึงเวลาฟ้าใสของประเทศ
ตามดวงดาวบ่งบอกว่าอาจจะต้องใช้เวลาให้ผ่านช่วงเคราะห์กรรมไปอีกสักระยะหนึ่ง
แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ก่อกรรมไม่ดี จะถูกลงโทษจากสรวงสวรรค์ จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ดูแลประเทศเพราะสยามประเทศนั้นไม่มีอะไรที่จะมาทำลายร้างให้สูญสิ้นไปได้
ซึ่งที่ทำนายมานี้ไม่มีอคติต่อใครๆ ทั้งสิ้น หรือสาปแช่งบุคคลใด แต่ไปเป็นไปตามดวงดาวลิขิตจริงๆ สิ่งที่จะลบร้างคำทำนายให้เบาลง ทุกๆ คนต้องสร้างแต่ความดีถือศีล 5 ทำจากใจจริงไม่ใช่เฉพาะภายนอก หรือชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น
พรรคการเมืองทั้งเล็กและใหญ่ทั้งหลาย ซึ่งเป็นอยู่ในปัจจุบันถึงกาลอวสาน สิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบันจะแตกสลายไปเองตามอิทธิพลของดวงดาว และจะเกิดสิ่งใหม่หรือมิติใหม่ซึ่งพัฒนาขึ้นมาเองยากแก่การคาดการณ์ได้
ดาวมฤตยูเจ้าแห่งการปฏิรูปเปลี่ยนแปลง ได้เดินเข้าทำมุมตรีโกณกับราศีมิถุน ประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย และจะทำมุมอยู่อย่างนั้นเกือบถึง 7 ปี ระหว่างนี้จะมีบาปเคราะห์มาเข้าร่วมมุม ทั้งมุมกากบาท ทั้งมุมสามเหลี่ยม บ่งถึงไทยเรายังมีรัฐบาลที่ดันทุรังและไม่ฉลาดไม่เห็นการณ์ไกล
ความไม่เท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจ ย่อมจะกระทบกระเทือนต่อคุณภาพของการพัฒนาประชาธิปไตย และนำมาซึ่งความขัดแย้งทางสังคม
เกิดจลาจลในกรุงเทพฯ ทุกหมู่เหล่าแตกแยกเคียดแค้น ปิดร้านค้ายึดเป็นที่มั่นยิงต่อสู้กัน ทั่วทุกแถบในกรุงเทพฯ มีการขว้างระเบิดสนั่นเมืองไปหลายวัน จะก่อความยุ่งยากทีละน้อย และค่อยๆ รุนแรงขึ้นจนระงับไม่อยู่ ผู้มีอำนาจหรือคนสำคัญบางคนจักหมดอำนาจวาสนา
ข้อสังเกตเหตุการณ์รับกันนองเลือดครั้งนี้เกิดที่กรุงเทพฯ เมื่อดาวอังคารแห่งสงครามโคจรเข้าทับลัคนาแห่งดวงเมืองประชาธิปไตย จึงรบกันนองเลือดระหว่างผู้มีอำนาจกับประชาชน ครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่ตั้งกรุงเทพฯ มา
อาจต้องใช้กำลังทหารเข้าแก้ปัญหา เป็นหนทางไปสู่ "การปฏิวัติรัฐประหาร" ต้องรบราฆ่าฟันกัน สูญเสียชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก ตอนต้นปีบุคคลสำคัญและมีชื่อเสียงของประเทศจะถึงแก่กรรมจากการลอบทำร้าย ผู้คนระส่ำระสาย
@ ประเทศไทยกำลังคอยวีรบุรุษผู้กล้าหาญ
ภายใต้อิทธิฤทธิ์ของพระเคราะห์ แห่งสุริยะระบบ จึงไม่มีอะไรไม่ว่าสิ่งอันมีชีวิตหรือสิ่งอันเป็นนามธรรม กับสิ่งอันอุบัติขึ้นจากการก่อตัวของเหตุการณ์หนึ่งๆ จะต้องถูกครอบงำด้วยพระเคราะห์ทั้งสิ้น
เราคนไทยกำลังดิ้นรน เพื่อการคงอยู่ อนาคตนั้นก็ย่อมจะเป็นไปตามอำนาจของดวงดาวและกาลเวลา
พยายามดื้อรั้นฝืนดวงดาว เอาแต่ใจตนเอง โดยถือประเทศชาติเป็นสนามทดลองความดื้อของตนเอง ประเทศไทยกำลังคอยวีรบุรุษผู้กล้าหาญ ผู้เห็นประโยชน์แก่ประเทศชาติมาแก้ไขสถานการณ์นี้
บ้านเมืองเมื่อไรจะสงบเสียที เพราะรู้อยู่แก่ใจว่า ความมืดมนเหล่านี้จะเบาลง ซึ่งต้องใช้เวลายาวนานมาก มันเกี่ยวพันกับภูมิภาค เกี่ยวพันกับดวงชะตาของโลก เพียงแต่ขอตอบว่ายังไม่มีวันสงบ อีกหลายปีจึงจะเบาบางลง
กรุงเทพฯ บางส่วนเริ่มถูกน้ำทะเลท่วมเข้ามาถึง อาจจะจมน้ำหายไปและจะเป็นเช่นนี้ต่อเนื่องไปอีกหลายปี และอาจจะจมหายไปจากแผนที่โลกหรือแผนที่ประเทศไทย อาจจะต้องเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นภาครับต้องตระหนักถึงเรื่องนี้ ควรหาทางป้องกันไว้ก่อน
เดือนเมษายนเป็นที่สังเกตว่าดาวพระพฤหัสบดี แห่งไทยสยามกำลังโคจรร่วมกับพระพุธและดาวมฤตยูเป็นสัญญาณบ่งถึงการแทรกแซง ในราศีมีนเป็นวินาศกับลัคนาเมือง จะมีเหตุยุ่งยากเกิดขึ้น ผู้รักษาอำนาจการปกครองจะต้องระมัดระวัง อย่าได้หลวมตัว ตัดรอนอำนาจพิษสงของตนเองตามคำเรียกร้องต่างๆ ซึ่งวางกลลวง ในการแสวงหาลู่ทาง ให้ฝ่ายของพวกพ้องตนเองได้มีโอกาสเอาสถานการณ์บังหน้า ก่อเหตุวุ่นวายขึ้น
ขอย้ำว่าในปีนี้เหตุการณ์ไม่สู่สงบ จำเป็นต้องมีความรักและสามัคคีต่อกันและกันและมีเสถียรภาพด้วย
@ ปีแห่งการก่อการร้าย ส่วนปัญหาทางภาคใต้ อิทธิพลของดาวเสาร์และดาวอังคารทำให้ยังเป็นปีแห่งการก่อการร้าย และการก่อวินาศกรรมทั้งปี เหมือนปี 2552 ที่แล้วมาแต่ยังแก้ไม่ตก จะทวีความรุนแรงขึ้นอย่างมหาศาล อาจเสียอำนาจทางภาคใต้ของประเทศประกาสแบ่งแยกเดินแดนแล้วทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างขาดลอยไป เนื่องจากดาวอังคารคงเดินแบบวิกล เพราะดวงผู้นำประเทศ ทำให้การก่อการร้ายปานกลายเป็นสงครามระหว่างภาค ขยายวงกว้าง ออกไปทางภาคใต้การฆ่าผู้บริสุทธิ์รายวันยังคงดำเนินต่อไป มิมีอะไรมาหยุดยั้งได้ ผู้ก่อการร้ายกระทำครั้งนี้เป็นกลุ่ม ศาสนาถูกนำเข้ามาเกี่ยวข้อง ยังเอาโรงเรียน สถานที่ราชการ วัดวาอาราม ใช้อาวุธที่มีอานุภาพรุนแรงระเบิดพลีชีพ ประหนึ่งเป็นสงคราม จนทำให้องค์กรสหประชาชาติยื่นมือเข้ามา
ประเทศไทยจึงเป็นที่กล่าวขวัญในทางที่น่าสะพรึงกลัวไปทั่วโลก สื่อต่างประเทศมาทำข่าว ชาวต่างชาติไม่กล้าเดินทางมาท่องเที่ยว ผู้คนบริสุทธิ์ ทั้งพ่อค้า นักธุรกิจ นักปกครอง เด็กและสตรีต้องอพยพหนีไปยังที่ปลอดภัยกว่าในดินแดนแห่งใหม่ ผู้ที่จะมาชำระสะสางความมืดมน ความเคลือบแคลงให้กระจ่างออกมา ทุกคนทุกวันนี้ก็รู้กันดีอยู่ว่าการกระทำอันอุกอาจครั้งนี้ ย่อมจะต้องใช้กำลังผู้คนจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ฝ่ายคุ้มครองบ้านเมือง ย่อมจะไม่หย่อนสมรรถภาพถึงขนาดไม่รู้เบาะแสอะไรเลย เพียงแต่ว่าความจริงบางอย่างเปิดเผยออกมา จะต้องมีจังหวะเวลาอันสมควรด้วย ย่อมกระทบกระเทือนต่ออะไรมากมาย รวมทั้งสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศกับบ้านใกล้เรือนเคียง
เนื่องจากในกลุ่มชาติอาหรับผู้เป็นเจ้าของน้ำมันส่วนใหญ่ของโลก ยังมีปัญหาข้อพิพาทและรบราฆ่าฟันกันยังไม่จบสิ้น ยังคุกคามความสงบสุขของประชากรโลกต้องเดือดร้อนยิ่งขึ้นไปกว่าปีที่แล้วเพราะอาจขาดแคลนน้ำมัน ซึ่งเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ ได้รวมหัวกันขึ้นราคาน้ำมันโดยไม่หยุดยั้ง บางช่วงก็ใช้น้ำมันเป็นเครื่องต่อรองกับประเทศมหาอำนาจทางตะวันตก ส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกตกต่ำลง ทำให้ข้าวของแพง ผู้คนลำบากไปทั่ว
ส่วนในบ้านเรานอกจากน้ำมันเชื้อเพลิงจะขึ้นราคาไม่หยุดแล้ว แก๊สหุงต้มก็ขึ้นราคาอย่างหนักเช่นกัน สร้างความปั่นป่วนเดือดร้อน
@ การปลุกระดมม็อบใดๆ ควรละเว้น
อีกนัยหนึ่งปี 2553 นี้ เมื่อว่ากันในแง่โหราศาสตร์ฮินดูก็เห็นว่า การวู่วามใด ๆ รังแต่จะทำให้บ้านเมืองลุกเป็นไฟ การปลุกระดมม็อบใดๆ ควรละเว้น บ่งถึงว่าถ้าดื้อรั้นจะเอาแต่ฝ่ายตนท่าเดียวโดยมิได้ผ่อนปรนใดๆ บ้านเมืองก็คงฉิบหายและจะเป็นการปลุกให้ผู้ถืออาวุธทนไม่ไหวคิดเข้ามาแก้ไขสถานการณ์อันไม่สงบ มันจะไปกันใหญ่ นอกจากทุพภิกขภัยจะเล่นงานเอาอย่างอ่วมอรทัยแล้ว น้ำผึ้งหยดเดียวก็จักบันดาลให้เกิดอะไรต่ออะไรที่เลวร้ายอย่างใหย่หลวงได้
ผู้มีอำนาจวาสนา อย่าได้นิ่งนอนใจ ระวังสุขภาพ ความยุ่งยาก ความเดือดร้อนอย่างรุนแรง จักสำแดงโทษ ผู้เป็นใหญ่ ผู้เป็นหลักต่างๆ จะประมาทต่อสถานการณ์ใดๆ ไม่ได้ทั้งสิ้น ระวังกว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้ อย่าวางใจในสิ่งที่ตนคิดว่าตัดรากถอนโคนแล้วคงไม่มีเขี้ยวเล็บ ประวัติศาสตร์ที่ยุ่งยากมาเป็นร้อยเป็นพันปี สอนไว้ได้ดีว่า ในโลกนี้หามีความเที่ยงแท้อะไรไม่
ความผันผวนยุ่งยาก เป็นการแสดงให้เห็นว่าสิ่งต่างๆ ยังคงดำเนินสานต่อไปเรื่อยๆ อย่างไม่หยุดยั้ง และโดยทั่วไปสภาวะในประเทศเปรียบเสมือนน้ำเดือดพล่านบนหม้อที่มีเชื้อไฟข้างใต้โหมอย่างรุนแรง ประชาชนพลเมืองอาจจะประสบปัญหาที่ไม่เคยประสบมาก่อน คือ คนว่างงานจำนวนมาก มีการเดินขบวน วุ่นวาย ต่างๆ นานา และอาจถูกปราบปรามจนต้องสูญเสียชีวิตไปมิใช่น้อย มีสงครามเบ็ดเสร็จในแต่ละท้องที่ผู้คนจะตายหมู่กันมาก
@ปีแห่งความหายนะทางเศรษฐกิจถึงขั้นล้มละลาย
เศรษฐกิจภายในประเทศยังไม่สามารถแก้ไขได้พร้อมกับเศรษฐกิจทั่วโลกก็ประสบปัญหาเศรษฐกิจเช่นกัน ประชาชนคนไทยเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า ยิ่งกว่าปีก่อน เป็นปีแห่งความหายนะทางเศรษฐกิจถึงขั้นล้มละลาย ธนาคารของรัฐไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจฟื้นขึ้นมาได้ ธนาคารทั้งเล็กและใหญ่ปิดตัวลงอย่างสนิท ตลาดหุ้นถูกกระทบอย่างรุนแรง ร่วงหล่นต่ำสุด และปิดตัวเองลง มีคนฆ่าตัวตายเป็นเบือ พลเมืองประสบความยากจนข้นแค้นมากขึ้น แต่องค์ประกอบของรัฐได้ซ้ำเติมประชาชนด้วยการขึ้นค่าสาธารณูปโภคทุกรูปแบบ
ปี 2553 นี้มีภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างรุนแรงทั้งปัญหาภัยแล้งและอุทกภัยน้ำท่วม ปัญหาภัยแล้งทำให้ขาดแคลน ทางภาคตะวันออกและตะวันออกเฉียงเหนืออย่างที่ไม่เคยประสบมาก่อน สัตว์เลี้ยง และผู้คนเดือดร้อน บางจังหวัดและบางอำเภอดินแตกระแหงไม่สามารถปลูกพืชธัญญาหารได้เลย ทำให้ผู้คนอดอยากแต่ขาดความเหลียวแลเอาใจใส่ของภาครัฐ หลายครอบครัวถึงขั้นขุดรากไม้และดินกินเป็นอาหารเพื่อประทังชีวิตให้รอดไปก่อน
เกิดพื้นดินถล่มและทรุดตัวไปทั่วประเทศ ไม่เว้นแม้กระทั่งกรุงเทพมหานคร เราอาจจะต้องสูญเสียแผ่นดินทางภาคใต้ ฝั่งทะเลอันดามัน ตั้งแต่จังหวัดระนองลงมา และจมลงสู่ใต้ทะเลไปทีละน้อย
ราวปลายปีแถบชายฝั่งทะเลอันดามันรวมทั้งเกาะภูเก็ต กระบี่ พังงา ถูกคลื่นยักษ์สึนามิพุ่งเข้าถล่มครั้งใหญ่ กวาดผู้คนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติบ้านเรือนลงทะเลจำนวนมาก
และยังต้องระวังกับวาตภัย ทำให้เกิดความเสียหายแก่เรือกสวนไร่นามหาศาล เกิดน้ำท่วมใหญ่ทั่วประเทศอีกครั้ง กรุงเทพฯจะจมอยู่ใต้บาดาลเป็นเวลานาน เป็นที่น่าทุกขเวทนายิ่งนัก มีผู้เสียชีวิตมากกว่าครั้งใดๆ ที่ผ่านมา
เกิดไต้ฝุ่นเข้าถล่มภาคใต้ ที่ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ และสุราษฎร์ธานี ผลเสียหายมาก เป็นมหาวาตภัยเรือประมงจมร่วม 100 ลำ ลูกเรือสูยหายไปเป็นพัน และปลายปีพายุถล่มรอบสองรุนแรงมาก คนตายเรือนพัน จังหวัดชุมพรเสียหายร่วม 100 เปอร์เซ็นต์
@อาเพศสุดๆ จะเกิด "หิมะตกในกรุงเทพฯ
ประเทศไทย ปีขาล 2553 นี้ จะเป็นปีแห่งความอาเพศพิสดารสุดๆ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นเลยในสยามประเทศจะเกิด "หิมะตกในกรุงเทพฯ" และปริมณฑล คนไทยทั่วประเทศตกตะลึงและพูดกันไปต่างๆ นานา ในความอาถรรพณ์วิปริตผิดธรรมชาติประโคมข่าวไปทั่วโลก เป็นลางร้ายแก่คนกรุงเทพฯ และประชาชนชาวไทย ทั้งภยันตรายจากโรคติดต่อที่ร้ายแรงใหม่ๆ และคร่าชีวิตทั้งเด็ก ผู้หญิง และคนชรา ไปเป็นจำนวนมาก และเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในหลายๆ ด้าน ทั้งวัฒนธรรม-ประเพณีดั้งเดิม และการปกครองการเมืองที่สุดคาดเดา
@ เกิด "เขื่อนยักษ์แตก"
ที่เคยเกิดรอยร้าวสะสมมานาน ได้พังทลายลง เกิดคลื่นน้ำขนาดมหึมา พุ่งตรงลงสู่เบื้องล่าง เข้าท่วมไร่นา ที่อยู่อาศัย สิ่งก่อสร้างของผู้คน อย่างไม่รู้ตัวมาก่อน ทำให้สูญเสียชีวิตผู้คน สัตว์เลี้ยง และทำลายสิ่งก่อสร้าง รวมถึงพืชผลการเกษตรเสียหายทั้งหมดหลายจังหวัดต่อเนื่องมาถึงกรุงเทพฯ
น้ำแข็งขั้วโลกละลายอย่างรวดเร็ว ทำให้ระดับน้ำในทะเลสูงขึ้นและมหาสมุทรสูงขึ้น เกิดสภาวะน้ำท่วมใหญ่ บางส่วนของโลกถูกน้ำท่วมใหญ่จมหมายลงไปในทะเล
กรุงเทพฯ ไข้หวัดนกจะเข้ามาทำลายล้างชีวิตมนุษย์และสัตว์หรือเป็นเชื้อไข้หวัดนกที่กลายพันธุ์ติดต่อมาถึงคน ทำให้สูญเสียชีวิตมนุษย์มากมายเป็นที่สยดสยองต่อวงการแพทย์
ภูเขาไฟในเกาะสุมาตราระเบิดอย่างรุนแรง มีการปะทุอย่างต่อเนื่องทั้งกลางวันและกลางคืน พ่นแก๊สร้อนขี้เถ้าแผ่กระจายเป็นรัศมีกว้างไกล ทำให้ท้องฟ้ามืดมิดบดบังแสงแดดกลายเป็นกลางคืน
เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงที่เกาะสุมาตรา ทำให้เกิดคลื่นสึนามิขนาดใหญ่ในหลายแห่งทั่วโลก ประเทศไทยได้รับผลอย่างจัง จมเรือหลายลำ พุ่งตรงเข้าไปตามชายฝั่งที่อยู่ติดกับทะเลด้านอันดามัน กวาดเอาหมู่บ้านจำนวนมากหายตกทะเลไป ทำให้ประชาชนจำนวนมากที่อาศัยอยู่คาดไม่ถึง ไม่ทันตั้งรับ เสียชีวิตอย่างอนาถ
เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ กวาดและทำลายสิ่งก่อสร้างและชีวิตคนจำนวนมาก นับเป็นเหตุการณ์วิปโยคต้องสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง คลื่นทะเลยักษ์เริ่มปะทะและโจมตีดินแดนชายฝั่งอย่างต่อเนื่อง ทำให้ได้รับความเสียหายมากมายอย่างที่ไม่เคยประสบมาก่อน
ความผันผวนต่างๆ จะแผ่ซ่นไปทั่ว ทุกประเทศจะต้องประสบ ดังเช่นญี่ปุ่น เยอรมนี ตะวันออกไกล ส่วนประเทศในยุโรปนั้น จะเข้าสู่สภาวะมิคสัญญีจะประสบภาวะเดือดร้อนและเดือดพล่านโดยทั่วกัน
นาวาของปวงประเทศทั้งหลายจะต้องเผชิญต่อมหันภัยของมรสุมอีกหลายลูก ประมุขของประเทศต่างๆ ใครจะมีฝีมือ จะเป็นรัฐบุรุษของโลกขนาดไหน ก็ต้องดูความสามารถกันในช่วงปีนี้แหละ
ถึงคราวแล้วที่ประเทศไทยจะเข้าสู่สงครามที่เราไม่เคยมีมาเลยกับประเทศเพื่อนบ้านเป็นเวลาช้านานแล้ว เป็นการรบอย่างแท้จริง อิทธิพลของดาวงดาวคือพระราหูทำมุมเสียกับลัคนาประเทศ ถ้าประเทศไทยยังเฉยเมยไม่ตระหนักต่อปัญหาที่รุมเร้าหนักข้อขึ้นทุกที เสมือนดูหมิ่นสยามประเทศมาโดยตลอด
ดังนั้นปี 2553 จะเกิดการรบนองเลือดถึงขั้นเสียชีวิตผู้คนมาก ถึงจะได้คืนมาซึ่งแผ่นดิน อาจจะถึงขั้นประกาศสงครามกับเพื่อนบ้าน
@ ช่วงปลายปี′53 โลกจะเข้าสู่ยุคเข็ญ
ประเทศในอ่าวเปอร์เซียกับตะวันออกกลาง อยู่ในเกณฑ์ของความอดทนอย่างถึงที่สุดของผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย การเคลื่อนกำลังอาวุธอาจจำเป็นต้องกระทำสงครามยุทธนาวีหลีกเลี่ยงไม่ได้
ดาวของประเทศมหาอำนาจ (สหรัฐ) กับตะวันออกกลาง และอ่าวเปอร์เซียเป็นแนวทางการเคร่งเครียด การขัดแย้ง การวิบัติ ที่ฉายเงารางๆ ให้เห็น
ประเทศที่กุมอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก ปีนี้จะมีเหตุไม่ราบรื่นในการสัมพันธ์กับนานาชาติ และภายในประเทศของตนเริ่มมีสัญญาณแห่งการขัดข้อง ความไม่ราบรื่นดังเคย จะมีผลยืดเยื้อที่จะกระทบต่ออนาคตอย่างแน่นอน เงาของความขัดแย้งทางอุดมการณ์ระหว่างประเทศกับความไม่ทัดเทียมกันทางด้านเทคโนโลยีต่าง ๆ เห็นเหตุให้ชาติที่กำลังรีบเร่งไปสู่อนาคตที่แจ่มจรัสเบื้องหน้า เริ่มเห็นทางตัน มนุษยชาติกำลังเผชิญต่อภาวะความสับสนกับความเดือดร้อนต่อชาติอันยากจนข้นแค้นของประชากรโลกส่วนใหญ่ ความมืดมนกำลังเตรียมปักหลักเป็นแกนนำ บัดนี้โลกจะต้องระวังการหวังพึ่งพิงพลังงานใหม่ๆ เข้ามารับใช้มนุษยชาติในด้านอุตสาหกรรม ในด้านธุรกิจซึ่งกำลังตะบึงไปข้างหน้าอันเต็มไปด้วยหมอกหนาแห่งความไม่แน่ใจ
ดาวบาปเคราะห์ใหญ่ จะกระจายกันเข้าตรึง 4 ทวาร 4 มุม โดยมีดาวเสาร์เดินนำหน้า มันเป็นจุดคับขันที่สุดของโลก เป็นปีที่จะเกิดสงครามล้างผลาญโลกครั้งใหญ่ ทำลายล้างกันอย่างย่อยยับยิ่งกว่าครั้งใดๆ ที่เป็นมาในประวัติศาสตร์ของชาติมนุษย์
ช่วงปลายปี′53 โลกจะเข้าสู่ยุคเข็ญ และตะวันออกกลางเริ่มเปิดฉากแข็งกร้าวขึ้น อาวุธปรมาณู อาวุธนิวเคลียร์ อาวุธเคมีร้ายแรง อาวุธมหาประลัย นำมาใช้กัน ทำให้เกิดจุดวิกฤตการณ์ของดลกที่เขม็งเกลียวที่สุดนับตั้งแต่เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา และเมื่อนั้น ปีขาลหฤโหดจะสำแดงฤทธิ์ อาณาบริเวณที่จะเกิดจุดฆาตคือ สหรัฐ อังกฤษ อิสราเอล กลุ่มประเทศปาเลสไตน์ และจีน ส่วนสหรัฐแน่นอนละ ฐานทัพนอกประเทศจะถูกทำลายสิ้นไม่มีเหลือ ส่วนประเทศไทยเราจะถูกดึงเข้าไปเกี่ยวข้องกับสงครามครั้งนี้ด้วย สงครามยืดเยื้อไปถึงปี 2554 จนอาจจะกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 ได้
...อ่านจบแล้ว อาจรู้สึกเครียด เราแนะนำให้ แฟนประชาชาติฯ ทำความดีให้มาก ส่งผ่านความดีไปสู่คนอื่นๆ และเรียนรู้ที่จะให้อภัยผู้อื่น ตอนหน้า ประชาชาติออนไลน์จะนำเสนอคำพยากรณ์ของ กรหริศ บัวสรวง โหรคนแรกที่ทำนายว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะหมดอำนาจวาสนา ล่วงหน้า กว่า 3 ปี
แก้ชงกัน
ปีพ.ศ.2553 นี้เป็นปี ขาล(เสือ) ตาม ประเพณีการไหว้องค์ไท้ส่วยหรือไท้ส่วยเอี๊ยเป๋าส่วยกุงเผ่งอัง ในช่วงเริ่มต้นปีใหม่(ตรุษจีน) ของทุกๆปี หรือที่ชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีนรู้จักกันดีในนามของ “เทพเจ้าผู้คุ้มครองดวงชะตา” นี้ เป็นเทพผู้ทรงสิทธิ์ และมีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตของผู้คนในแต่ละปี อีกทั้งเป็นเคล็ดลับวิชาของซินแสจีนโบราณที่ยึดหลักการคำนวณและผูกดวงจีนตาม หลักของโป๊ยหยี่ซี้เถียวมาจากการคำนวณหาราศีบนเทียงถัง 10 ตัว มาผสมกับราศีล่าง (ตี่กี่) หรือ 12 นักษัตร ซึ่งไล่เรียงจับคู่กันได้ 60 คู่ เรียกว่า “หลักจับก๊ะจื้อ” โดยในรอบ 60 ปี จึงจะเวียนมาบรรจบครบรอบกัน 1 ครั้ง ใน รอบ 60 ปีนี้ จะมีเทพเจ้าไท้ส่วยประจำอยู่ในแต่ละปี ซึ่งจะมีชื่อเรียกขานต่างๆกัน รวมกันได้ทั้งสิ้น 60 องค์ ทำหน้าที่รักษาและคุ้มครองดวงปี หรือที่เรียกว่า “เฝ้าปี” อยู่ ซึ่งจะถือว่าแต่ละองค์จะมีอำนาจให้คุณดลบันดาลความสุข โชคเคราะห์ทุกข์ภัยหรือให้โทษแก่ผู้ใดนั้นก็ขึ้นอยู่กับพระเมตตาของท่าน โดยเฉพาะท่านที่มีเคราะห์หรือดวงชะตาอ่อน ทำอะไรก็ติดขัดไม่ราบรื่นสมหวัง ท่านก็จะช่วยปัดเป่าเคราะห์ภัยบังเกิดแต่ความเป็นสิริมงคลมาสู่ตัวท่านและ ครอบครัว สำหรับปีขาล พ.ศ.2553 นี้ องค์ไท้ส่วยที่ลงมาสถิตเฝ้าปีมีพระนามว่า “อูฮ้วงไต่เจียงกุง” หรือ “อูหวัน” เหตุ ที่ชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีนให้ความเคารพบูชากราบไหว้ เพราะมีความเชื่อว่าเทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ยจะบันดาลความสุขความทุกข์ให้เกิดแก่ ใครนั้น ก็ขึ้นอยู่กับเมตตาของท่าน หากใครมีเกณฑ์ชะตาที่ดีอยู่แล้วจะได้ดียิ่งขึ้น หากใครมีดวงชะตาที่ไม่ดีทำอะไรก็มีปัญหาติดขัด ก็อธิฐานขอพรจากท่านให้ช่วยปัดเป่าทุกข์ภัยให้ ดังนั้นในแต่ละปีจึงมีผู้คนไปกราบไหว้บูชาขอพร ให้อยู่เย็นเป็นสุขมีดวงชะตาที่ดีตลอดทั้งปี ชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีนจึงมีประเพณีในการไหว้ฝากดวงเพื่อสะเดาะเคราะห์ ต่อเทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย โดยเฉพาะ “ท่านที่เกิดปีชงกับองค์ไท้ส่วย” โดยท่านสามารถเดินทางไปไหว้สะเดาะเคราะห์ด้วยตนเองต่อเทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ยได้ที่ วัดเล่งเน่ยยี่ ทั้ง 2 แห่งคือ ถนนเจริญกรุง และบางบัวทอง ท่านที่มีปีเกิดที่ชงกับปีนี้ และควรไปไหว้ “องค์ไท้ส่วย” คือ ท่านที่เกิดปี ดังต่อไปนี้ 1.ปีวอก(ลิง) ชง(ปะทะ)โดยตรงกับเทพเจ้า “ไท้ส่วยเอี๊ย” และเป็นอริกับปีขาลโดยตรง 2.ปีขาล(เสือ) ทับไท้ส่วย 3.ปีมะเส็ง(งูเล็ก) ปีร่วมชง 4.ปีกุน(หมู) ปีร่วมชง และ ท่านที่ห้ามไปเป็นเจ้าภาพหรือเข้าร่วมพิธีในงานศพ และควรหลีกเลี่ยงการไปงานศพ แต่ถ้าหากไม่สามารถเลี่ยงได้ก็ขอให้ละเว้นการไปดูศพเวลาฝังศพ(เผาศพ) หรือแม้แต่การส่งศพ คือ ท่านที่เกิดในปีนักษัตร ในรอบปีต่อไปนี้ 1.ปีมะเส็ง ท่านที่เกิด ปี2460(อายุ 93ปี) ปี2520(อายุ 33ปี) 2.ปีขาล ท่านที่เกิด ปี2469(อายุ 84ปี) ปี2529(อายุ 24ปี) 3.ปีกุน ท่านที่เกิด ปี2478(อายุ 75ปี) ปี2502(อายุ 51ปี) ปี2538(อายุ 15ปี) 5.ปีวอก ท่านที่เกิด ปี2487(อายุ 66ปี) ปี2511(อายุ 42ปี) ปี2547(อายุ 6ปี) เพราะทั้ง 10 ปีนี้เป็น “ไท้ส่วยเฮี้ยบจี่จู้” แปลว่า “ไท้ส่วยตรงเจ้าพิธี” นอกจากจะนำพาสิ่งอัปมงคลทั้งหลายมาให้แล้ว ยังถือเป็น การหมิ่น และลบหลู่ต่อองค์ไท้ส่วยอีกด้วย โดย เฉพาะอย่างยิ่งในปี 2553 นี้ บ้านที่หน้าบ้านหันไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ และทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ควรจัดตั้งภาพองค์ไท้ส่วยเอี๊ยประจำปี 2553 ไว้ที่หน้าบ้านหรือเหนือประตูบ้าน เพื่อช่วยคุ้มครองปัดเป่าความทุกข์ บันดาลความสุขมาสู่ตัวท่าน และครอบครัวไปตลอดทั้งปี วิธี บูชาเทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย จุดธูป 9 ดอก ไหว้พระประธานในวัดก่อน (ปักธูปกระถางละ 3 ดอก) จากนั้นจึงไปไหว้เทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย จุดธูป 3 ดอกวิงวอนขอพรท่าน ให้ท่านช่วยปกป้องคุ้มครองจากภยันอันตรายต่างๆ ที่ท่านอาจประสบพบเจอในปีนี้ จากหนักให้กลายเป็นเบา จากเบาก็ให้มลายสูญสิ้นไป ซึ่งทางวัดเล่งเน่ยยี่จะมีพิธีสวดมนต์เสริมสิริมงคล หรือพิธีนำซิ้งเต๋าเก็ง เพื่อให้ท่านและครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุขหมดทุกข์หมดเคราะห์ไปตลอดทั้งปี เครื่องบูชาเทพเจ้าไท้ส่วย มีดังนี้ (ถ้าไปทำพิธีที่วัดเล่งเน่ยยี่ ทางวัดมีจัดบริการไว้ให้แล้วเป็นชุด) 1. ธูป 3 ดอก ต่อ 1 ท่าน 2. เทียนแดง 1 คู่ 3. หงิ่งเตี๋ย 12 คู่ 4. ตั่วกิม 12 แผ่น (กระดาษทอง) 5. ทุกหลั่งจี๊ 12 แผ่น 6. เป๋าอุ่งจี๊ 12 แผ่น 7. เผ่งอังจี๊ 12 แผ่น 8. กระดาษแดง (อั่งเถียบ) 1 แผ่น 9. ขนมจันอับ (จับกิ้มทึ้ง) 1 จาน อันประกอบด้วย.... - ถั่วเคลือบน้ำตาลสีขาว - ถั่วเคลือบน้ำตาลสีชมพู - ฟักเชื่อม - ถั่วตัด - ข้าวพอง 10. ส้ม 4 ผล 1 จาน 1. นำกระดาษแดงที่เขียน ชื่อ-นามสกุล วัน เดือน ปีเกิด (และเวลาตกฟาก) ลางลงบนกระดาษไหว้ ใช้หนังสติ๊ก หรือเชือกแดงมัดไว้ 2. จัดส้ม 4 ผล และขนมจันอับใส่จานจัดวางต่อหน้าองค์เทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย 3. จุดเทียนแดงปักไว้ข้างๆ กระถาง จากนั้นจุดธูป 3 ดอก อธิษฐานให้ท่านช่วยคุ้มครองให้ปลอดภัย จากอันตรายต่างๆ และประสบแต่สิ่งที่ดีตลอดทั้งปี 4. ถ้าเป็นของตนเองให้หยิบชุดสะเดาะเคราะห์ที่เตรียมไว้ตามข้อ 1 ปัดตั้งแต่ศรีษะลงมาจนสุดแขน 12 ครั้ง (หมายเหตุ ถ้าท่านไปไหว้แทนบุคคลอื่น ก็ไม้ต้องทำพิธีปัดตัว แต่ให้กระทำโดยปัดเสื้อของบุคคลนั้นแทน) 5. นำชุดสะเดาะเคราห์วางลงในกล่องรับฝากที่ทางวัดจัดไว้ให้ ก็เป็นอันเสร็จพิธี ของเซ่นไหว้ต่างๆ ถวายให้วัดไม่ต้องนำกลับบ้าน คำอธิษฐานขอพรไหว้เทพเจ้า วันนี้ตรงกับวันที่...เดือน.....พ.ศ. ... ข้าพเจ้าชื่อ....นามสกุล.....วันเดือนปีเกิด....ที่อยู่... ขอ อัญเชิญเทพเจ้า..........โปรดเสด็จมารับเครื่องสักการบูชาทั้งหลาย เมื่อรับแล้วโปรดประทานพรให้ข้าพเจ้าและครอบครัวประสบแต่สรรพสิริมงคล มีความสุขความเจริญก้าวหน้าอุดมด้วยโชคลาภ ทำมาค้าขึ้น เงินทองไหลมาเทมา ปราศจากทุกข์โศกโรคภัย สิ่งอัปมงคลทั้งหลายอย่าได้แผ้วพาน ขอให้สมความปรารถนาด้วยมงคลทั้งปวงเทอญ ใน ปีพ.ศ.2553 ควรหาโอกาสไปไหว้เทพเจ้าต่างๆ ตามแต่ที่จะเสริมปีนักษัตรตนเอง(รายละเอียดมีกล่าวไว้ในหัวข้อถัดไปของบท ความ) และหาวัตถุมงคลหรือเครื่องรางที่เป็นสิริมงคลมาเสริมดวงชะตาโดยตั้งไว้ที่ บ้าน(ที่ทำงาน) หรือติดตัว เพื่อเป็นการแก้ชงหรือเสริมดวงชะตา โดยเฉพาะปีนักษัตรที่ชงทั้ง 4 ปี 1.ปีวอก(ลิง) ชง(ปะทะ)โดยตรงกับเทพเจ้าผู้คุ้มครองดวงชะตา “ไท้ส่วยเอี๊ย” และเป็นอริกับปีขาลโดยตรง อีกทั้งยังมีดาวอัปมงคลเพ่งเล็งอยู่หลายดวง โชคชะตาจึงตกต่ำมัวหมอง เกิดเรื่องร้ายมากกว่าดี ถูกอุปสรรคปัญหารุมเร้า เงินทองไหลออก โชคลาภอับเฉา ต้องระวังอุบัติเหตุเคราะห์ภัยต่างๆ พยายามอยู่อย่างสงบเสงี่ยมอย่าไปยุแหย่ท้าทายผู้ใด และอย่าริอาจทำเรื่องผิดกฎหมายเป็นอันขาดมิเช่นนั้นอาจต้องรับผลกรรมที่ตามมา หากคิดจะป้องกันแก้ไข ขจัดภัย สลายเคราะห์ ปรับเปลี่ยนร้ายให้เป็นดี ควรจัดตั้งวัตถุมงคล หรือพกจี้มงคลติดตัว(ติดรถ) “มังกรลิงขี่ม้าเดินทาง รวมพลังสลายเคราะห์ภัย” เพื่อ ปกป้องคุ้มครองให้ชาวปีวอกแคล้วคลาดปลอดภัย เสริมส่งให้การงานการค้าเจริญรุ่งเรือง โชคลาภสดใส มั่งคั่งร่ำรวย สุขภาพแข็งแรง อยู่เย็นเป็นสุขตลอดปี หรือจะหาเครื่องรางปีนักษัตรที่เสริมดวงเฉพาะเรื่องไปเลย ได้ดังนี้ - ปีชวด (หนู) เสริมดวงเรื่องการงาน - ปีมะโรง (มังกร,งูใหญ่) เสริมดวงเรื่องการเงิน - ปีมะเส็ง (งูเล็ก) เสริมดวงเรื่องความคิด 2.ปีขาล(เสือ) ปีนี้ดวงของคุณไม่ชงโดยตรงแต่ก็ ทับองค์ไท้ส่วย และเนื่องจากดวงชะตาของคนเกิดปีขาล มีดาวร้ายหลายดวงคอยคุกคามอยู่ โดยเฉพาะดาวกระบี่คม “เจี้ยนฟง” และดาวศัตรูที่ซ่อนเร้น “จื่อเป้ย” คอย จ้องทำร้ายให้บาดเจ็บเลือดตกยางออกเกิดเหตุร้ายมากกว่าดี ทำให้โชคลาภตกต่ำ เงินทองรั่วไหล การงานการค้าไม่เจริญก้าวหน้า และอาจมีผู้ไม่หวังดีคิดมุ่งร้าย ฉะนั้นจงอย่าประมาท หากคิดป้องกันแก้ไขกลับร้ายให้เป็นดี ควรจัดตั้งวัตถุมงคล หรือพกจี้มงคลติดตัว(ติดรถ) “แปดวิเศษ ขจัดภัย เสริมส่งความเจริญรุ่งเรือง” เพื่อสลายพลังร้ายขจัดเคราะห์ ต้านภัย เสริมส่งให้การงานการค้ารุ่งเรือง โชคลาภเงินทองเพิ่มพูน สุขภาพแข็งแรง ปราศจากอุบัติเหตุเภทภัย อยู่เย็นเป็นสุขตลอดปี หรือจะหาเครื่องรางปีนักษัตรที่เสริมดวงเฉพาะเรื่องไปเลย ได้ดังนี้ - ปีมะเมีย (ม้า) เสริมดวงเรื่องการเงิน - ปีจอ (สุนัข) เสริมดวงเรื่องความคิด - ปีกุน (หมู) เสริมดวงเรื่องความร่ำรวย 3.ปีมะเส็ง(งูเล็ก) ปีนี้ดวงของคุณไม่ชงโดยตรงแต่ก็ถือว่า ร่วมชง และเนื่องจากดวงชะตาของคนเกิดปีมะเส็ง มีดาวมงคลพระจันทร์ “ไท่อิน” และดาวธรณีช่วยแก้ไข “ตี้เจี่ย” ส่องแสงนำทางให้เจริญรุ่งเรือง แต่มีดาวเทพแห่งหายนะ “หวังสึน” และดาวมอดม้วยมลาย “ฉูเป้า” กับดาวกับดักมรณะ “กวันซัว” เข้า มาคุกคามทำให้โชคลาภห่างหายการงานการค้าสะดุดติดขัด สุขภาพอ่อนแอเจ็บป่วยง่าย ต้องระวังการใช้ชีวิตประจำวันให้ดี เพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุต่างๆ และพึงระวังกับดักหลุมพรางที่ผู้ไม่หวังดีขุดล่อไว้ ฉะนั้นจึงไม่ควรประมาท หากคิดป้องกันแก้ไข ควรจัดตั้งวัตถุมงคล หรือพกจี้มงคลติดตัว(ติดรถ) “มังกรคู่ถวายมุกอัคคี” เพื่อสลายพลังอำนาจของดาวร้าย ขจัดอุปสรรคเคราะห์ภัย เสริมส่งให้การค้าเจริญก้าวหน้า กระตุ้นโชคลาภให้สดใส เงินทองไหลมาเทมา มีสุขภาพแข็งแรง อยู่เย็นเป็นสุขตลอดปี หรือจะหาเครื่องรางปีนักษัตรที่เสริมดวงเฉพาะเรื่องไปเลย ได้ดังนี้ - ปีฉลู (วัว) เสริมดวงเรื่องการเงิน - ปีระกา (ไก่) เสริมดวงเรื่องความสุข - ปีจอ (หมา) เสริมดวงเรื่องความคิด 4.ปีกุน(หมู) ปีนี้ดวงของคุณไม่ชงโดยตรงแต่ก็ถือว่า ร่วมชง และเนื่องจากดวงชะตาของคนเกิดปีกุน ปีนี้มีดาวมงคลช่วยส่งเสริมเกื้อหนุนให้มีความเจริญรุ่งเรืองได้รับการสนับ สนุนอุปถัมภ์ค้ำจุน การงานการค้าก้าวหน้าประสบความสำเร็จ แต่ก็มีดาวอัปมงคลหลายดวงจ้องคุกคามอยู่ จึงต้องระวังคำพูดคำจาอย่าไปนินทา ว่าร้ายผู้อื่น ดูแลสุขภาพของตนเองให้ดีอย่าให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บ และอย่าไปในที่เปลี่ยวตามลำพัง เพราะมีเกณฑ์ว่าอาจถูกทำร้ายปล้นชิงวิ่งราวหรือถูกโจรขโมยขึ้นบ้าน ฉะนั้นจึงไม่ควรประมาท หากคิดป้องกันแก้ไข ควรจัดตั้งวัตถุมงคล หรือพกจี้มงคลติดตัว(ติดรถ) “น้ำเต้าดูดทรัพย์” เพื่อกระตุ้นเปิดรับโชคลาภ ดูดทรัพย์สินเงินทองให้ไหลมาเทมาเสริมส่งให้การงานการค้าเจริญรุ่งเรือง ปราศจากอุปสรรคเคราะห์ภัย มีสุขภาพแข็งแรง อายุยืนยาว หรือจะหาเครื่องรางปีนักษัตรที่เสริมดวงเฉพาะเรื่องไปเลย ได้ดังนี้ - ปีขาล (เสือ) คบแล้วพารวย หรือหารูปเสือมาไว้ที่บ้าน - ปีเถาะ (กระต่าย) เสริมดวงเรื่องการเงิน - ปีมะแม (แพะ) เสริมดวงเรื่องความคิด 5.ปีชวด(หนู) ปีนี้คุณมีดาวอัปมงคลรายล้อมสร้างความเสียหายโดยเฉพาะดาวหมาสวรรค์ “เทียนโกว่” ดาวแห่งการสูญเสีย “เตี๊ยวเคอะ” และดาวลูกกรง “ฉิวอี้” ส่งผลให้ดวงชะตามัวหมอง โชคลาภอับเฉา ธุรกิจการงานประสบปัญหามากมาย ทั้งคู่แข่งทางการค้า ปรปักษ์ในที่ลับและที่แจ้ง และต้องระวังอย่าสร้างปัญหาหรือทำผิดกฎหมายมิฉะนั้นจะเป็นการนำภัยเข้าสู่ ตัว ดั้ง นั้นจึงควรเสริมสิริมงคล เพื่อให้เกิดความปลอดภัย พร้อมทั้งขจัดเภทภัยต่างๆ จึง ควรจัดตั้งวัตถุมงคลเสริมดวง หรือพกจี้มงคลติดตัว(ติดรถ) “ฮกลกซิ่ว ค้างคาว กวาง ลูกท้อ” เพื่อสลายพลังร้ายของดาวอัปมงคลให้สูญสิ้นไป พร้อมทั้งเสริมส่งให้การงานการค้า ตำแหน่งลาภยศเจริญก้าวหน้า โชคลาภเงินทองเพิ่มพูนทวี สุขภาพแข็งแรง อายุยืนยาว หรือจะหาเครื่องรางปีนักษัตรที่เสริมดวงเฉพาะเรื่องไปเลย ได้ดังนี้ - ปีฉลู (วัว) เสริมดวงเรื่องการเงิน - ปีมะโรง (งูใหญ่) เสริมดวงเรื่องความคิด - ปีวอก (ลิง) เสริมดวงเรื่องความสุข 6.ปีฉลู(วัว) ปีนี้คุณมีดาวมงคลนกคู่แห่งรัก “หงหลวน” โคจรเข้ามาส่งความสุขสดชื่น มีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง แต่มีดาวป่วยไข้ “ปิ้งฝู” จอมมารแห่งโรคภัยเข้ามาคุกคาม ทำให้สุขภาพอ่อนแอ เจ็บไข้ป่วยง่าย จึงต้องดูแลสุขภาพเอาใจใส่สุขอนามัยเรื่องอาหารการกินให้ดี ฉะนั้นจึงไม่ควรประมาท หากคิดป้องกันแก้ไข ขจัดเคราะห์ภัย จึงควรจัดตั้งวัตถุมงคล หรือพกจี้มงคลติดตัว(ติดรถ) “นกมงคล ทับทิม ไผ่ เหมย” ที่ มีอานุภาพสูงส่งนี้ เพื่อสลายพลังพิฆาตของจอมมารแห่งโรคภัยให้แตกดับไป พร้อมทั้งเสริมส่งให้ดาวแห่งความรักบันดาลให้ความรักของท่านสดชื่นหวานแหวว มีลูกหลานเต็มบ้านเต็มเมือง พรั่งพร้อมบริบูรณ์ด้วยโชคลาภ ทรัพย์สินเงินทอง มีสุขภาพแข็งแรงอยู่เย็นเป็นสุขตลอดปี หรือจะหาเครื่องรางปีนักษัตรที่เสริมดวงเฉพาะเรื่องไปเลย ได้ดังนี้ - ปีชวด (หนู) เสริมดวงเรื่องการเงิน - ปีมะเส็ง (งูเล็ก) เสริมดวงเรื่องการงาน - ปีระกา (ไก่) เสริมดวงเรื่องความสุข 7.ปีเถาะ(กระต่าย) ปีนี้คุณมีดาวมงคล “พระอาทิตย์” เปล่งรัศมีสดใสนำทางให้มีความเจริญรุ่งเรือง แต่มีดาวทะเลสาบน้ำเค็ม “เสียนฉือ” และดาวพิฆาตแห่งปี “เหนียนซา” คอย คุกคามทำให้เงินทองรั่วไหล โชคลาภถดถอย ฉุดรั้งไม่ให้การงานการค้าลื่นไหล ฝักใฝ่หลงใหลอบายมุขจนสุขภาพเสื่อมโทรม มนุษย์สัมพันธ์บกพร่องเป็นเหตุนำไปสู่การทะเลาะกับผู้อื่น โดยเฉพาะคู่รักหรือภรรยา และคนในครอบครัว ฉะนั้นไม่ควรประมาท หากคิดแก้ไขให้ออกห่างจากอบายมุขทั้งหลาย จึงควรจัดตั้งวัตถุมงคล หรือพกจี้มงคลติดตัว(ติดรถ) “กระต่ายรุ่งเรือง พระอาทิตย์เสริมส่ง” เพื่อเสริมสร้างให้ดาวมงคล “พระอาทิตย์” สาด แสงแรงกล้ายิ่งขึ้น เผาผลาญกำจัดสิ่งอัปมงคลต่างๆ ให้สูญสิ้นไปเหลือไว้แต่ความเป็นสิริมงคลเสริมส่งให้การงานการค้ารุ่งเรือง โชคลาภสดใส มั่งคั่งร่ำรวย สุขภาพแข็งแรงตลอดปี หรือจะหาเครื่องรางปีนักษัตรที่เสริมดวงเฉพาะเรื่องไปเลย ได้ดังนี้ - ปีมะแม (แพะ) เสริมดวงเรื่องความสุข - ปีกุน (หมู) เสริมดวงเรื่องการเงิน - ปีมะโรง (งูใหญ่) เสริมดวงเรื่องความคิด 8.ปีมะโรง(มังกร,งูใหญ่) ปีนี้คุณมีแต่ดาวอัปมงคลเข้ามาคุกคามโดยเฉพาะดาวประตูมรณะ “ซังเหมิน” ดาวหางเสือดาว “เป้าเหว่ย” และดาวสวรรค์ร้องไห้ “เทียนคู่” ส่ง ผลทำให้โชคลาภอับเฉา การงานการค้าไม่เจริญก้าวหน้า ต้องระวังการดำเนินชีวิตประจำวันของตนเองดูแลผู้อาวุโสกับเด็กๆ ให้ดีหากเจ็บป่วยต้องรีบพาไปหาหมอรักษา และต้องอยู่อย่างสงบอย่าไปมีเรื่องทะเลาะกับผู้อื่นเพราะจะนำภัยเข้าสู่ตัว อีกทั้งต้องมีความมุ่งมั่นอดทน จึงจะหลุดพ้นจากวิกฤตการณ์ที่เลวร้ายนี้ได้ ฉะนั้นจึงไม่ควรประมาท หากคิดแก้ไข ขจัดภัย สลายเคราะห์เปลี่ยนร้ายกลายเป็นดี ควรจัดตั้งวัตถุมงคล หรือพกจี้มงคลติดตัว(ติดรถ) “ดอกบัว ปลาทอง ธรรมจักร เสริมส่งความเจริญรุ่งเรือง”เพื่อ สลายพลังพิฆาตของดาวร้ายให้หมดไป เสริมส่งให้โชคชะตาสดใสขึ้น การงานการค้าเจริญก้าวหน้า กระตุ้นโชคลาภให้เงินทองเพิ่มพูนทวี ปราศจากเคราะห์เหตุโรคภัย อยู่เย็นเป็นสุขตลอดปี หรือจะหาเครื่องรางปีนักษัตรที่เสริมดวงเฉพาะเรื่องไปเลย ได้ดังนี้ - ปีมะโรง, ปีมะเส็ง เสริมดวงเรื่องการเงิน
สำหรับคนปีขาล
ดูดวงปี 2553 สำหรับท่านที่เกิดปีขาล
ท่านที่เกิดปีขาลรอบอายุ 84 ปี (พ.ศ. 2469) และรอบอายุ 24 ปี (พ.ศ. 2529) สำหรับ เจ้าชะตาอาวุโสรอบอายุ 84 ปี ในปี 2553 นี้ สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การดูแลสุขภาพตัวเองทั้งสุขภาพกายและใจ ด้านสุขภาพกาย ที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ คือ เรื่องอาหารการกิน และต้องหมั่นออกกำลังกายบ้าง พบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพเป็นระยะๆ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ส่วนสุขภาพใจต้องอย่าให้เครียด ปล่อยวางเรื่องลูกหลานให้เค้าจัดการกันเอง เรามีหน้าที่ให้ศีลให้พรลูกหลาน เท่านั้นพอ นอกจากนี้ควรหมั่นทำบุญสร้างกุศล แค่นี้ก็จะเป็นสุขในปีนี้แล้ว
ดวง 2553 สำหรับเจ้าชะตาหนุ่มสาว รอบอายุ 24 ปี เนื่องจากตกอยู่ในปีชงปีหนึ่ง จึงส่งผลให้ทุกกิจกรรม การงานติดขัดไม่ราบรื่น ก่อนจะทำการใดๆ ต้องคิดให้รอบคอบเสียก่อน สิ่งที่ไม่ถูกต้องอย่าทำเป็นอันขาด ระวังอย่าหลงเชื่อเพื่อนฝูงที่ชักชวนไปลงทุนทำสิ่งที่หมิ่นเหม่ต่อกฎหมาย อาจพลาดพลั้งได้ นอกจากจะสูญเงินลงทุนแล้ว ยังต้องรับผิดทางคดีอาญาด้วย และระหว่างทำงาน หรือเดินทางในปีนี้อย่าประมาท มีเกณฑ์ประสบอุบัติเหตุ ต้องระวังไว้เสมอ
ท่านที่เกิดปีขาลรอบอายุ 72 ปี (พ.ศ. 2481) และรอบอายุ 12 ปี (พ.ศ. 2541) สำหรับ เจ้าชะตาอาวุโสรอบอายุ 72 ปี ปีนี้ถูกจัดให้เป็นปีชงปีเกิด สิ่งที่ท่านควรระวังในปีนี้ คือ ปัญหาด้านสุขภาพ โดยเฉพาะโรคซ่อนเร้น ซึ่งจะปรากฎในปีนี้ ควรระวังเรื่องอาหารการกิน ควบคุมเรื่องน้ำตาล , ไขมัน , ความเค็ม ให้ดี เพราะจะเป็นสาเหตุให้เกิดโรคเบาหวาน , โรคไขมันอุดตัน และโรคไต และที่สำคัญคือ การปล่อยวาง อย่าไปเครียดเรื่องลูกหลานเพราะจะส่งผลต่อสุขภาพกายได้
ส่วน ดวง 2553 ผู้เยาว์อายุ 12 ปี ในปี 2553 นี้ โดยภาพรวมมีทั้งดี และไม่ดี เรื่องดีเกี่ยวกับการเรียน ผลการเรียนของท่านก็จะได้รับการเกื้อหนุนจากดาวมงคลให้ ก้าวหน้าด้วยดี อย่างไรก็ตามเจ้าตัว ก็ต้องตั้งใจหมั่นทบทวนบทเรียนด้วย ไม่เข้าใจก็ต้องหัดไต่ถามครูอาจารย์ จะช่วยให้ ระดับการเรียนขึ้นไปสู่เป้าหมายที่ตั้งใจ แต่เนื่องจากเป็นปีที่ตรงทับกับปีเกิด จึงมีสิ่งที่จะทำให้วุ่นวาย คือ โรคภัยไข้เจ็บ จะเกิดอาการแพ้อากาศ เป็นหวัดบ่อย และเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด ผู้ปกครองควรเพื่มการดูแล เอาใจใส่อย่างใกล้ชิด
และเนื่อง จากปี 2553 นี้ เป็นปีที่ทับปีเกิดทั้งสองรอบอายุ ทั้งผู้เยาว์และผู้อาวุโส จะมีเหตุการณ์ไม่ราบรื่นผ่านเข้ามาแน่ ดังนั้นช่วงต้นปีจึงควรหาเวลาไปไหว้พระ และหมั่นทำบุญ ตักบาตร สวดมนต์เพื่อคุ้มครองดวงชะตา และบรรเทาเคราะห์ภัยร้ายต่างๆ
ท่านที่เกิดปีขาลรอบอายุ 60 ปี (พ.ศ. 2493) สำหรับเจ้าชะตารอบอายุ 60 ปี ปีเกิดท่านถูกจัดให้เป็นปีชงราศีหนึ่ง ตลอดทั้งปีจึงอาจต้องเผชิญกับปัญหาความวุ่นวายไม่น้อย แต่ก็มีดาวมงคลแห่ง ปัญญามาคอยช่วยเหลือ เคราะห์ภัยที่มีจึงได้รับการบรรเทา จะทำอะไรใช้ปัญญาไตร่ตรองให้รอบคอบโดยเฉพาะเรื่องงาน และธุรกิจการค้า ในปีนี้ไม่ควรใช้อารมณ์ในการตัดสินใจ
ด้านสุขภาพระวังการเจ็บป่วยด้วยโรคกระเพาะและลำไส้ อีกทั้งต้องระวังอุบัติเหตุทั้งในระหว่างทำงานและเดินทาง หลีกเลี่ยงการไปร่วมงานศพ ไม่ว่าจะไปเป็นประธาน หรือรองประธานในพิธี หรือเดินทางไปส่งศพที่สุสาน หรือแม้แต่การรับประทานอาหารในงานศพก็ควรหลีกเลี่ยงเด็ดขาด
ในช่วงต้นปีท่านควรหาเวลาไปไหว้พระ ทำบุญตักบาตร และหมั่นสวดมนต์ นั่งสมาธิ ปฎิบัติธรรมให้เป็นประจำ ก็จะช่วยให้พบแต่สิ่งมงคลและโชคดี
ท่านที่เกิดปีขาลรอบอายุ 48 ปี (พ.ศ. 2505) ใน ปี 2553 นี้ ท่านจะพบกับปัญหา ความเดือดร้อน วุ่นวาย อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ท้งเรื่องการงาน-การค้า , ครอบครัว สุขภาพดังนั้นเตรียมใจรับมือกับปัญหาและวางแผนไว้ล่วงหน้าได้เลย การงานทุกอย่างควรพิจารณาให้รอบคอบก่อนลงมือทำ อย่าใจร้อน อย่าใช้อารมณ์ตัดสินใจ จะสร้างความเสียหายติดตามมา อุปสรรคและปัญหาทุกอย่างแม้จะหนักแต่ ท่านก็จะสามารถผ่านไปได้ หากมีความมานะพยายามและอดทน สิ่งสำคัญคือ ท่านควรสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ร่วมงานไม่ว่าจะในระดับที่สูงกว่า หรือต่ำกว่า นอกจากนี้ท่านต้องรักษาความจริงใจ และมีความยุติธรรมโปร่งใส จึงจะช่วยให้การงาน-การค้า ราบรื่นก้าวหน้า
ด้านครอบครัวจะมีความสุขดีพอใช้ แต่ควรระวังเรื่องสุขภาพที่จะเกิดกับตับ ถุงน้ำดี ม้าม หรือกระเพาะอาหาร นอกจากนี้ในช่วง 14 เม.ย.- 13 พ.ค. และ 12 ก.ค. – 9 ส.ค. เจ้าชะตาต้องระวังการมีปากเสียง หรือเกิดเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับผู้อื่น จนส่งผลให้เกิดเรื่องเดือดร้อน และเสียหายตามมา
ท่านที่เกิดปีขาลรอบอายุ 36 ปี (พ.ศ. 2517) เนื่อง จากปี 2553 นี้ เป็นปีที่ตรงทับปีเกิด ดวงชะตาจะไม่ใคร่ดี หลายเรื่องที่ตั้งใจจะทำ อาจไม่สำเร็จ หรือไม่ราบรื่นเท่าที่ควร จะมีปัญหา อุปสรรครังควานเสมอ ดังนั้นในการทำงาน หรือธุรกิจการค้าใดๆ ก็ตามในปีนี้ ควรทำด้วยความสุขุมรอบคอบ ตัดสินใจให้ละเอียด เพราะจะส่งผลเสียหายหนัก โชคยังดียังมีดาวมงคลคอยช่วยเหลือบ้าง ประกอบกับ หากท่านมีความตั้งใจ มีความขยันอดทน ไม่ท้อ ก็จะผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆ และกิจการเดินหน้าไปได้ด้วยดี
ด้านการเงินท่านไม่ค่อยดี ไม่ควรเล่นการพนันเสี่ยงโชค ห้ามลงทุนในธุรกิจที่เสี่ยงต่อกฎหมาย เพราะนอกจากจะทำให้สูญเสียเงินแล้วยังอาจต้องโทษคดีอาญาอีกด้วย ที่สำคัญท่านมีเกณฑ์จะพบกับปัญหาขาดสภาพคล่อง หากมีการใช้จ่ายแบบมือเติบโดยไม่คิดหน้าคิดหลังให้ดีด้านครอบครัว ปีนี้ท่านควรหาเวลาอยู่ร่วมกับสมาชิกในครอบครัวให้มากขึ้น เพื่อจะได้กระชับความสัมพันธ์ การพูดคุย และสื่อสารที่ดีจะนำมาซึ่งความสงบสุขในครอบครัว นอกจากนี้ช่วงต้นปีท่านควรหาเวลาไปไหว้พระตามวัดต่างๆ หมั่นทำบุญ ตักบาตร ถือศีล ทำสมาธิ และปฎิบัติธรรม ผลบุญก็จะช่วยให้การงานราบรื่นทุกสิ่งสมหวัง
ท่านที่เกิดปีขาลรอบอายุ 84 ปี (พ.ศ. 2469) และรอบอายุ 24 ปี (พ.ศ. 2529) สำหรับ เจ้าชะตาอาวุโสรอบอายุ 84 ปี ในปี 2553 นี้ สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การดูแลสุขภาพตัวเองทั้งสุขภาพกายและใจ ด้านสุขภาพกาย ที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ คือ เรื่องอาหารการกิน และต้องหมั่นออกกำลังกายบ้าง พบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพเป็นระยะๆ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ส่วนสุขภาพใจต้องอย่าให้เครียด ปล่อยวางเรื่องลูกหลานให้เค้าจัดการกันเอง เรามีหน้าที่ให้ศีลให้พรลูกหลาน เท่านั้นพอ นอกจากนี้ควรหมั่นทำบุญสร้างกุศล แค่นี้ก็จะเป็นสุขในปีนี้แล้ว
ดวง 2553 สำหรับเจ้าชะตาหนุ่มสาว รอบอายุ 24 ปี เนื่องจากตกอยู่ในปีชงปีหนึ่ง จึงส่งผลให้ทุกกิจกรรม การงานติดขัดไม่ราบรื่น ก่อนจะทำการใดๆ ต้องคิดให้รอบคอบเสียก่อน สิ่งที่ไม่ถูกต้องอย่าทำเป็นอันขาด ระวังอย่าหลงเชื่อเพื่อนฝูงที่ชักชวนไปลงทุนทำสิ่งที่หมิ่นเหม่ต่อกฎหมาย อาจพลาดพลั้งได้ นอกจากจะสูญเงินลงทุนแล้ว ยังต้องรับผิดทางคดีอาญาด้วย และระหว่างทำงาน หรือเดินทางในปีนี้อย่าประมาท มีเกณฑ์ประสบอุบัติเหตุ ต้องระวังไว้เสมอ
ท่านที่เกิดปีขาลรอบอายุ 72 ปี (พ.ศ. 2481) และรอบอายุ 12 ปี (พ.ศ. 2541) สำหรับ เจ้าชะตาอาวุโสรอบอายุ 72 ปี ปีนี้ถูกจัดให้เป็นปีชงปีเกิด สิ่งที่ท่านควรระวังในปีนี้ คือ ปัญหาด้านสุขภาพ โดยเฉพาะโรคซ่อนเร้น ซึ่งจะปรากฎในปีนี้ ควรระวังเรื่องอาหารการกิน ควบคุมเรื่องน้ำตาล , ไขมัน , ความเค็ม ให้ดี เพราะจะเป็นสาเหตุให้เกิดโรคเบาหวาน , โรคไขมันอุดตัน และโรคไต และที่สำคัญคือ การปล่อยวาง อย่าไปเครียดเรื่องลูกหลานเพราะจะส่งผลต่อสุขภาพกายได้
ส่วน ดวง 2553 ผู้เยาว์อายุ 12 ปี ในปี 2553 นี้ โดยภาพรวมมีทั้งดี และไม่ดี เรื่องดีเกี่ยวกับการเรียน ผลการเรียนของท่านก็จะได้รับการเกื้อหนุนจากดาวมงคลให้ ก้าวหน้าด้วยดี อย่างไรก็ตามเจ้าตัว ก็ต้องตั้งใจหมั่นทบทวนบทเรียนด้วย ไม่เข้าใจก็ต้องหัดไต่ถามครูอาจารย์ จะช่วยให้ ระดับการเรียนขึ้นไปสู่เป้าหมายที่ตั้งใจ แต่เนื่องจากเป็นปีที่ตรงทับกับปีเกิด จึงมีสิ่งที่จะทำให้วุ่นวาย คือ โรคภัยไข้เจ็บ จะเกิดอาการแพ้อากาศ เป็นหวัดบ่อย และเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด ผู้ปกครองควรเพื่มการดูแล เอาใจใส่อย่างใกล้ชิด
และเนื่อง จากปี 2553 นี้ เป็นปีที่ทับปีเกิดทั้งสองรอบอายุ ทั้งผู้เยาว์และผู้อาวุโส จะมีเหตุการณ์ไม่ราบรื่นผ่านเข้ามาแน่ ดังนั้นช่วงต้นปีจึงควรหาเวลาไปไหว้พระ และหมั่นทำบุญ ตักบาตร สวดมนต์เพื่อคุ้มครองดวงชะตา และบรรเทาเคราะห์ภัยร้ายต่างๆ
ท่านที่เกิดปีขาลรอบอายุ 60 ปี (พ.ศ. 2493) สำหรับเจ้าชะตารอบอายุ 60 ปี ปีเกิดท่านถูกจัดให้เป็นปีชงราศีหนึ่ง ตลอดทั้งปีจึงอาจต้องเผชิญกับปัญหาความวุ่นวายไม่น้อย แต่ก็มีดาวมงคลแห่ง ปัญญามาคอยช่วยเหลือ เคราะห์ภัยที่มีจึงได้รับการบรรเทา จะทำอะไรใช้ปัญญาไตร่ตรองให้รอบคอบโดยเฉพาะเรื่องงาน และธุรกิจการค้า ในปีนี้ไม่ควรใช้อารมณ์ในการตัดสินใจ
ด้านสุขภาพระวังการเจ็บป่วยด้วยโรคกระเพาะและลำไส้ อีกทั้งต้องระวังอุบัติเหตุทั้งในระหว่างทำงานและเดินทาง หลีกเลี่ยงการไปร่วมงานศพ ไม่ว่าจะไปเป็นประธาน หรือรองประธานในพิธี หรือเดินทางไปส่งศพที่สุสาน หรือแม้แต่การรับประทานอาหารในงานศพก็ควรหลีกเลี่ยงเด็ดขาด
ในช่วงต้นปีท่านควรหาเวลาไปไหว้พระ ทำบุญตักบาตร และหมั่นสวดมนต์ นั่งสมาธิ ปฎิบัติธรรมให้เป็นประจำ ก็จะช่วยให้พบแต่สิ่งมงคลและโชคดี
ท่านที่เกิดปีขาลรอบอายุ 48 ปี (พ.ศ. 2505) ใน ปี 2553 นี้ ท่านจะพบกับปัญหา ความเดือดร้อน วุ่นวาย อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ท้งเรื่องการงาน-การค้า , ครอบครัว สุขภาพดังนั้นเตรียมใจรับมือกับปัญหาและวางแผนไว้ล่วงหน้าได้เลย การงานทุกอย่างควรพิจารณาให้รอบคอบก่อนลงมือทำ อย่าใจร้อน อย่าใช้อารมณ์ตัดสินใจ จะสร้างความเสียหายติดตามมา อุปสรรคและปัญหาทุกอย่างแม้จะหนักแต่ ท่านก็จะสามารถผ่านไปได้ หากมีความมานะพยายามและอดทน สิ่งสำคัญคือ ท่านควรสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ร่วมงานไม่ว่าจะในระดับที่สูงกว่า หรือต่ำกว่า นอกจากนี้ท่านต้องรักษาความจริงใจ และมีความยุติธรรมโปร่งใส จึงจะช่วยให้การงาน-การค้า ราบรื่นก้าวหน้า
ด้านครอบครัวจะมีความสุขดีพอใช้ แต่ควรระวังเรื่องสุขภาพที่จะเกิดกับตับ ถุงน้ำดี ม้าม หรือกระเพาะอาหาร นอกจากนี้ในช่วง 14 เม.ย.- 13 พ.ค. และ 12 ก.ค. – 9 ส.ค. เจ้าชะตาต้องระวังการมีปากเสียง หรือเกิดเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับผู้อื่น จนส่งผลให้เกิดเรื่องเดือดร้อน และเสียหายตามมา
ท่านที่เกิดปีขาลรอบอายุ 36 ปี (พ.ศ. 2517) เนื่อง จากปี 2553 นี้ เป็นปีที่ตรงทับปีเกิด ดวงชะตาจะไม่ใคร่ดี หลายเรื่องที่ตั้งใจจะทำ อาจไม่สำเร็จ หรือไม่ราบรื่นเท่าที่ควร จะมีปัญหา อุปสรรครังควานเสมอ ดังนั้นในการทำงาน หรือธุรกิจการค้าใดๆ ก็ตามในปีนี้ ควรทำด้วยความสุขุมรอบคอบ ตัดสินใจให้ละเอียด เพราะจะส่งผลเสียหายหนัก โชคยังดียังมีดาวมงคลคอยช่วยเหลือบ้าง ประกอบกับ หากท่านมีความตั้งใจ มีความขยันอดทน ไม่ท้อ ก็จะผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆ และกิจการเดินหน้าไปได้ด้วยดี
ด้านการเงินท่านไม่ค่อยดี ไม่ควรเล่นการพนันเสี่ยงโชค ห้ามลงทุนในธุรกิจที่เสี่ยงต่อกฎหมาย เพราะนอกจากจะทำให้สูญเสียเงินแล้วยังอาจต้องโทษคดีอาญาอีกด้วย ที่สำคัญท่านมีเกณฑ์จะพบกับปัญหาขาดสภาพคล่อง หากมีการใช้จ่ายแบบมือเติบโดยไม่คิดหน้าคิดหลังให้ดีด้านครอบครัว ปีนี้ท่านควรหาเวลาอยู่ร่วมกับสมาชิกในครอบครัวให้มากขึ้น เพื่อจะได้กระชับความสัมพันธ์ การพูดคุย และสื่อสารที่ดีจะนำมาซึ่งความสงบสุขในครอบครัว นอกจากนี้ช่วงต้นปีท่านควรหาเวลาไปไหว้พระตามวัดต่างๆ หมั่นทำบุญ ตักบาตร ถือศีล ทำสมาธิ และปฎิบัติธรรม ผลบุญก็จะช่วยให้การงานราบรื่นทุกสิ่งสมหวัง
สำหรับปีวอก
ดูดวงปี 2553 สำหรับท่านที่เกิดปีวอก
ท่านที่เกิดปีวอกรอบอายุ 78 ปี (พ.ศ. 2475) และรอบอายุ 18 ปี (พ.ศ. 2535) ปีนี้เป็นปีที่ เจ้าชะตาอาวุโสต้องระมัดระวังให้มากเพราะดวงชะตาปะทะ ชงกับปีขาล (พ.ศ. 2553) และมีดาวอัปมงคลหลายดวงเพ่งเล็งรังควานในเรือนชะตาราศี ดังนั้น ในหลายด้านของชีวิตจะไม่ราบรื่นให้ระวังเหตุการณ์พลิกผันเปลี่ยนแปลงไม่คาด คิด ท่านจึงควรหาทางป้องกันและเตรียมความพร้อมทุกด้านไว้เสมอ นอกจากนี้เจ้าชะตาอาวุโสจะต้องมีการวางตัวให้ดี ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของลูกๆ หลานๆ และควรดูแลรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง หากออกนอกบ้านหรือเดินทางไกล ท่านควรให้ลูกหลานหรือบริวารคอยติดตามเพื่อความปลอดภัย ระวังการมีปากเสียงทะเลาะวิวาท และควรระวังเหตุ การณ์ที่อยู่นอกเหนือความคาดหมาย จะนำมาซึ่งการเสียทรัพย์
สำหรับเจ้าชะตาวัยรุ่น การดำเนินชีวิตของท่านในปีนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ความอดทน อดกลั้นและอดออม เพราะชะตาท่านปีนี้มักจะเกิดเรื่องขัดแย้งกับบุคคลรอบข้าง แม้บางเรื่องท่านจะถูกก็ต้องทนอารมณ์วู่วามใจร้อนต้องลดลง พยายามอย่าให้มีเรื่องเพราะหากเกิดเรื่องแล้วนอกจากจะเจ็บตัวยังมีสิทธิ์ ต้องขึ้นโรงพักขึ้นศาล
อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือปัญหาสุขภาพและการรู้จักเลือกคบเพือน ท่านต้องระวังสิ่งที่คาดไม่ถึงจะทำให้ท่านเสียใจและเสียทรัพย์ ขณะขับขี่ยวดยานหรือระหว่างเดินทางสัญจรต้องระวังอุบัติเหตุ นอกจากนี้ ท่านมีเกณฑ์จะไว้ทุกข์ให้ญาติผู้ใหญ่ในปีนีด้วย
ในช่วงต้นปีเจ้าชะตาทั้งสองรอบอายุ ควรหาโอกาสไปทำบุญไหว้พระ สะเดาะเคราะห์ เพื่อให้ท่านและครอบครัวแคล้วคลาดจากเรื่องร้ายประสบกับความราบรื่นร่มเย็น เป็นสุขตลอดปี
ท่านที่เกิดปีวอกรอบอายุ 66 ปี (พ.ศ. 2487) และรอบอายุ 6 ปี (พ.ศ. 2547) เนื่องจากรอบอายุของท่านชงกับปีขาล (พ.ศ. 2553)โดยตรง ส่งผลให้ทุกกิจกรรมการงานในปีนี้ ท่านจะต้องเหน็ดเหนื่อยมากกว่าคนอื่น ฉะนั้น ขอท่านจงอย่าประมาท แม้จะมีดาวมงคลโคจรเข้ามาร่วมด้วย แต่เพราะตกในปีชงทำให้จะเกิดสิ่งที่คาดไม่ถึงให้เสียทรัพย์ ท่านจะต้องระวังอุบัติเหตุในบ้าน อีกทั้งโรคภัยไข้เจ็บจะถามหา ด้านการงานและกิจกรรมต่างๆ ท่านควรคิดให้รอบคอบก่อนลงมือและพยายามหลีกเลี่ยงการทะเลาะมีปากเสียงกับ บุคคลรอบข้าง
สำหรับเด็กน้อยรอบอายุ 6 ปี ปีนี้ท่านพ่อแม่ผู้ปกครองจึงควรดูแลเด็กน้อยวัยนี้อย่างระมัดระวัง ทั้งในระหว่างการเล่นกีฬาหรือทำกิจกรรมต่างๆ รวมถึงการไปเที่ยวเล่นนอกบ้าน เพราะอาจจะส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บถึงขั้นเลือดตกยางออก อีกทั้งระวังการทะเลาะวิวาทของเด็กจะนำความขัดแย้งลุกลามมาถึงผู้ใหญ่ และต้องระวังโรคภัยไข้เจ็บตั้งแต่อาการปวดหัวตัวร้อน เป็นหวัด ควรรีบพบแพทย์ อย่าปล่อยทิ้งไว้เพราะอาจจะลุกลามเป็นอย่างอื่น ในช่วงต้นปี ทั้งเจ้าชะตารอบอายุ 66 ปีและเด็กน้อยวัย 6 ปี ควรหาโอกาสไปไหว้พระ สะเดาะเคราะห์เพื่อขอให้คุณพระคุณเจ้าท่านช่วยคุ้มครองให้เคราะห์ภัยจง ถูกปัดเป่า อย่าเจ็บ อย่าไข้ และให้ท่านและครอบครัวประสบความร่มเย็นเป็นสุข
ท่านที่เกิดปีวอกรอบอายุ 54 ปี (พ.ศ. 2499) เกณฑ์ดวงชะตาของ ท่านที่เกิดปีวอกรอบอายุนี้ การงานรวมถึงกิจการค้ามีทิศทางความก้าวหน้ามีโอกาสขยับขยายที่ดี แต่เนื่องจากชะตาของท่านตกเป็นปีชงของปีขาล (ปีพ.ศ. 2553) จึงเกรงว่าสิ่งที่ท่านตั้งหวังจะมีโอกาสผิดพลาดคลาดเคลื่อนไม่สมหวัง หลายสิ่งที่จะได้มาในปีนี้ ท่านต้องฝ่าฟันด้วยความเหนื่อยยากมากกว่าเดิมเป็นสองเท่า เนื่องจากในระหว่างปีมักมีปัญหาอุปสรรครุมเร้าถาโถม
ฉะนั้นการดำเนินธุรกิจหน้าที่การงานต่างๆในปีนี้ ท่านจึงต้องกระทำด้วยความระมัดระวังรอบคอบแต่ก็ถือว่ายังโชคดีที่มีดาวมงคล ให้การช่วยเหลือสลายเรื่องร้ายได้กว่าครึ่ง
หากภายในครอบครัวท่านปีนี้สามารถมีงานมงคลของลูกหลาน จะยิ่งช่วยสลายพลังอัปมงคลของดวงท่านได้มากสิ่งที่ท่านควรใส่ใจในปีนี้คือ การเชื่อมสัมพันธ์กับมิตรสหายใหม่ และการรักษาสัมพันธภาพกับมิตรเดิมเพื่อที่ท่านจะได้มีพันธมิตรไว้คอยช่วย เหลือเมื่อการงานประสบอุปสรรคปัญหา และท่านควรเสริมสร้างบารมีด้วยการปฏิบัติธรรม ทำบุญและบริจาคทานแก่ผู้ด้อยโอกาส บุญกุศลจะน้อมนำให้ท่านประสบสุข ช่วยบรรเทาเคราะห์ภัยทั้งปวง และช่วงต้นปีท่านควรหาโอกาสไปไหว้สะเดาะห์เคราะห์เพื่อให้ท่านแคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งปวง
ท่านที่เกิดปีวอกรอบอายุ 42 ปี (พ.ศ. 2511)ดวงชะตาของ ท่านที่เกิดปีวอกรอบอายุนี้ เนื่องจากเป็นปีปะทะ (ชง) กับปีขาล (พ.ศ. 2553) ส่งผลให้ถนนชีวิตของท่านค่อนข้างตกต่ำ ประกอบกับดาวพระเคราะห์ที่โคจรเข้าสู่เรือนราศีของท่านในปีนี้ ส่งผลให้เกิดเรื่องวิตกกังวลมีเรื่องเศร้าโศกในบ้านและโรคภัยไข้เจ็บถามหา ทำให้เกิดอุปสรรคและเกิดข้อพิพาทขัดแย้ง ดังนั้น ในด้านหน้าที่การงานรวมถึงกิจการค้า ในปีนี้ ท่านต้องทำด้วยความระมัดระวัง มีสติ ธุรกิจผิดศิลธรรม หรือผิดกฎหมายอย่าได้เอาตัวเข้าไปพัวพัน มิสิทธิ์หนีไม่พ้น โทษทัณฑ์ต้องผิดทางอาญา
อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญท่านควรระวังความปลอดภัยและสวัสดิภาพของคนในบ้านโดย เฉพาะสุขภาพของผู้สูงอายุ เพราะปีนี้ ท่านมีเกณฑ์จะไว้ทุกข์ให้ญาติผู้ใหญ่ แต่นับว่ายังดีที่มีดาวมงคล เปล่งประกายฉายส่องให้ความช่วยเหลือท่ามกลาง สิ่งแวดล้อมที่กดดันมีปัญหา แต่ท่านก็มีโอกาสจะซื้อทรัพย์สินราคาแพงเข้าบ้าน อีกทั้งการร่วมงานและการลงทุนในเรื่องต่างๆ จะให้ผลตอบแทนที่น่ายินดี
ช่วงต้นปีเจ้าชะตาควรหาโอกาสไปไหว้พระ สะเดาะเคราะห์เพื่อให้เคราะห์ภัยถูกปัดเป่า อย่าได้ป่วยไข้และอย่าได้เกิดเรื่องร้ายในครอบครัวท่านที่เกิดปีวอกรอบอายุ 30 ปี (พ.ศ. 2523) สำหรับเจ้าชะตาปีวอกรอบอายุนี้ เนื่องจากมีดาวพระเคราะห์ร้ายที่โคจรเข้าสู่เรือนราศีของท่าน และชงกับปีขาล (พ.ศ. 2553) ดังนั้น ปีนี้การงานและการดำเนินชีวิตจะรู้สึกอึดอัดติดๆ ขัดๆ จะดำเนินการงานใดมักมีอุปสรรคมาแทรกแซงให้สิ่งที่ตั้งหวังไว้ไม่คืบหน้า
ทิศทางการทำงานการค้าไม่สมหวัง มีเหตุให้เสียทรัพย์และมักจะมีเรื่องขัดแย้งมีปากเสียงกับสมาชิกในครอบครัว รวมถึงผู้ร่วมงาน แต่อย่างไรก็ดีเนื่องจากในชะตามีดาวมงคลโคจรร่วมอยู่ด้วย จึงช่วยผ่อนคลายเคราะห์ภัยให้เบาบาง ทุกกิจกรรมปีนี้จึงขอให้ท่านใช้สติ ความอดทน มุ่งมั่น ตั้งใจทำงานสร้างผลงานที่ดี อย่าท้อถอยต่อปัญหาที่รุมเร้าก็จะมีอนาคตที่สดใสสามารถตั้งหลักปักฐานได้ สำเร็จ ขอให้คิดว่าอุปสรรคที่ผ่านเข้ามาเปรียบเป็นยาชูกำลังที่ทำให้ท่านได้ทดสอบ ตัวเองเท่านั้น
หากได้เงินจากโชคลาภ ท่านควรจะนำส่วนหนี่งไปทำบุญก็จะช่วยเสริมให้หน้าที่การงานและกิจการค้าพบ ความก้าวหน้าได้แต่ให้ระวังดูแลสุขภาพของตนเองในระหว่างปีด้วยที่จะเจ็บไข้ไม่ สบาย หากท่านประมาทชะล่าใจเกรงว่าจะเป็นปัญหาใหญ่ตามมา ในช่วงต้นปี เจ้าชะตาควรหาโอกาสไปไหว้พระสะเดาะเคราะห์ขอให้ท่านช่วยปกป้องคุ้มครองให้ เจ้าชะตาแคล้วคลาดจากเหตุร้ายและเภทภัยทั้งปวง
ท่านที่เกิดปีวอกรอบอายุ 78 ปี (พ.ศ. 2475) และรอบอายุ 18 ปี (พ.ศ. 2535) ปีนี้เป็นปีที่ เจ้าชะตาอาวุโสต้องระมัดระวังให้มากเพราะดวงชะตาปะทะ ชงกับปีขาล (พ.ศ. 2553) และมีดาวอัปมงคลหลายดวงเพ่งเล็งรังควานในเรือนชะตาราศี ดังนั้น ในหลายด้านของชีวิตจะไม่ราบรื่นให้ระวังเหตุการณ์พลิกผันเปลี่ยนแปลงไม่คาด คิด ท่านจึงควรหาทางป้องกันและเตรียมความพร้อมทุกด้านไว้เสมอ นอกจากนี้เจ้าชะตาอาวุโสจะต้องมีการวางตัวให้ดี ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของลูกๆ หลานๆ และควรดูแลรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง หากออกนอกบ้านหรือเดินทางไกล ท่านควรให้ลูกหลานหรือบริวารคอยติดตามเพื่อความปลอดภัย ระวังการมีปากเสียงทะเลาะวิวาท และควรระวังเหตุ การณ์ที่อยู่นอกเหนือความคาดหมาย จะนำมาซึ่งการเสียทรัพย์
สำหรับเจ้าชะตาวัยรุ่น การดำเนินชีวิตของท่านในปีนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ความอดทน อดกลั้นและอดออม เพราะชะตาท่านปีนี้มักจะเกิดเรื่องขัดแย้งกับบุคคลรอบข้าง แม้บางเรื่องท่านจะถูกก็ต้องทนอารมณ์วู่วามใจร้อนต้องลดลง พยายามอย่าให้มีเรื่องเพราะหากเกิดเรื่องแล้วนอกจากจะเจ็บตัวยังมีสิทธิ์ ต้องขึ้นโรงพักขึ้นศาล
อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือปัญหาสุขภาพและการรู้จักเลือกคบเพือน ท่านต้องระวังสิ่งที่คาดไม่ถึงจะทำให้ท่านเสียใจและเสียทรัพย์ ขณะขับขี่ยวดยานหรือระหว่างเดินทางสัญจรต้องระวังอุบัติเหตุ นอกจากนี้ ท่านมีเกณฑ์จะไว้ทุกข์ให้ญาติผู้ใหญ่ในปีนีด้วย
ในช่วงต้นปีเจ้าชะตาทั้งสองรอบอายุ ควรหาโอกาสไปทำบุญไหว้พระ สะเดาะเคราะห์ เพื่อให้ท่านและครอบครัวแคล้วคลาดจากเรื่องร้ายประสบกับความราบรื่นร่มเย็น เป็นสุขตลอดปี
ท่านที่เกิดปีวอกรอบอายุ 66 ปี (พ.ศ. 2487) และรอบอายุ 6 ปี (พ.ศ. 2547) เนื่องจากรอบอายุของท่านชงกับปีขาล (พ.ศ. 2553)โดยตรง ส่งผลให้ทุกกิจกรรมการงานในปีนี้ ท่านจะต้องเหน็ดเหนื่อยมากกว่าคนอื่น ฉะนั้น ขอท่านจงอย่าประมาท แม้จะมีดาวมงคลโคจรเข้ามาร่วมด้วย แต่เพราะตกในปีชงทำให้จะเกิดสิ่งที่คาดไม่ถึงให้เสียทรัพย์ ท่านจะต้องระวังอุบัติเหตุในบ้าน อีกทั้งโรคภัยไข้เจ็บจะถามหา ด้านการงานและกิจกรรมต่างๆ ท่านควรคิดให้รอบคอบก่อนลงมือและพยายามหลีกเลี่ยงการทะเลาะมีปากเสียงกับ บุคคลรอบข้าง
สำหรับเด็กน้อยรอบอายุ 6 ปี ปีนี้ท่านพ่อแม่ผู้ปกครองจึงควรดูแลเด็กน้อยวัยนี้อย่างระมัดระวัง ทั้งในระหว่างการเล่นกีฬาหรือทำกิจกรรมต่างๆ รวมถึงการไปเที่ยวเล่นนอกบ้าน เพราะอาจจะส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บถึงขั้นเลือดตกยางออก อีกทั้งระวังการทะเลาะวิวาทของเด็กจะนำความขัดแย้งลุกลามมาถึงผู้ใหญ่ และต้องระวังโรคภัยไข้เจ็บตั้งแต่อาการปวดหัวตัวร้อน เป็นหวัด ควรรีบพบแพทย์ อย่าปล่อยทิ้งไว้เพราะอาจจะลุกลามเป็นอย่างอื่น ในช่วงต้นปี ทั้งเจ้าชะตารอบอายุ 66 ปีและเด็กน้อยวัย 6 ปี ควรหาโอกาสไปไหว้พระ สะเดาะเคราะห์เพื่อขอให้คุณพระคุณเจ้าท่านช่วยคุ้มครองให้เคราะห์ภัยจง ถูกปัดเป่า อย่าเจ็บ อย่าไข้ และให้ท่านและครอบครัวประสบความร่มเย็นเป็นสุข
ท่านที่เกิดปีวอกรอบอายุ 54 ปี (พ.ศ. 2499) เกณฑ์ดวงชะตาของ ท่านที่เกิดปีวอกรอบอายุนี้ การงานรวมถึงกิจการค้ามีทิศทางความก้าวหน้ามีโอกาสขยับขยายที่ดี แต่เนื่องจากชะตาของท่านตกเป็นปีชงของปีขาล (ปีพ.ศ. 2553) จึงเกรงว่าสิ่งที่ท่านตั้งหวังจะมีโอกาสผิดพลาดคลาดเคลื่อนไม่สมหวัง หลายสิ่งที่จะได้มาในปีนี้ ท่านต้องฝ่าฟันด้วยความเหนื่อยยากมากกว่าเดิมเป็นสองเท่า เนื่องจากในระหว่างปีมักมีปัญหาอุปสรรครุมเร้าถาโถม
ฉะนั้นการดำเนินธุรกิจหน้าที่การงานต่างๆในปีนี้ ท่านจึงต้องกระทำด้วยความระมัดระวังรอบคอบแต่ก็ถือว่ายังโชคดีที่มีดาวมงคล ให้การช่วยเหลือสลายเรื่องร้ายได้กว่าครึ่ง
หากภายในครอบครัวท่านปีนี้สามารถมีงานมงคลของลูกหลาน จะยิ่งช่วยสลายพลังอัปมงคลของดวงท่านได้มากสิ่งที่ท่านควรใส่ใจในปีนี้คือ การเชื่อมสัมพันธ์กับมิตรสหายใหม่ และการรักษาสัมพันธภาพกับมิตรเดิมเพื่อที่ท่านจะได้มีพันธมิตรไว้คอยช่วย เหลือเมื่อการงานประสบอุปสรรคปัญหา และท่านควรเสริมสร้างบารมีด้วยการปฏิบัติธรรม ทำบุญและบริจาคทานแก่ผู้ด้อยโอกาส บุญกุศลจะน้อมนำให้ท่านประสบสุข ช่วยบรรเทาเคราะห์ภัยทั้งปวง และช่วงต้นปีท่านควรหาโอกาสไปไหว้สะเดาะห์เคราะห์เพื่อให้ท่านแคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งปวง
ท่านที่เกิดปีวอกรอบอายุ 42 ปี (พ.ศ. 2511)ดวงชะตาของ ท่านที่เกิดปีวอกรอบอายุนี้ เนื่องจากเป็นปีปะทะ (ชง) กับปีขาล (พ.ศ. 2553) ส่งผลให้ถนนชีวิตของท่านค่อนข้างตกต่ำ ประกอบกับดาวพระเคราะห์ที่โคจรเข้าสู่เรือนราศีของท่านในปีนี้ ส่งผลให้เกิดเรื่องวิตกกังวลมีเรื่องเศร้าโศกในบ้านและโรคภัยไข้เจ็บถามหา ทำให้เกิดอุปสรรคและเกิดข้อพิพาทขัดแย้ง ดังนั้น ในด้านหน้าที่การงานรวมถึงกิจการค้า ในปีนี้ ท่านต้องทำด้วยความระมัดระวัง มีสติ ธุรกิจผิดศิลธรรม หรือผิดกฎหมายอย่าได้เอาตัวเข้าไปพัวพัน มิสิทธิ์หนีไม่พ้น โทษทัณฑ์ต้องผิดทางอาญา
อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญท่านควรระวังความปลอดภัยและสวัสดิภาพของคนในบ้านโดย เฉพาะสุขภาพของผู้สูงอายุ เพราะปีนี้ ท่านมีเกณฑ์จะไว้ทุกข์ให้ญาติผู้ใหญ่ แต่นับว่ายังดีที่มีดาวมงคล เปล่งประกายฉายส่องให้ความช่วยเหลือท่ามกลาง สิ่งแวดล้อมที่กดดันมีปัญหา แต่ท่านก็มีโอกาสจะซื้อทรัพย์สินราคาแพงเข้าบ้าน อีกทั้งการร่วมงานและการลงทุนในเรื่องต่างๆ จะให้ผลตอบแทนที่น่ายินดี
ช่วงต้นปีเจ้าชะตาควรหาโอกาสไปไหว้พระ สะเดาะเคราะห์เพื่อให้เคราะห์ภัยถูกปัดเป่า อย่าได้ป่วยไข้และอย่าได้เกิดเรื่องร้ายในครอบครัวท่านที่เกิดปีวอกรอบอายุ 30 ปี (พ.ศ. 2523) สำหรับเจ้าชะตาปีวอกรอบอายุนี้ เนื่องจากมีดาวพระเคราะห์ร้ายที่โคจรเข้าสู่เรือนราศีของท่าน และชงกับปีขาล (พ.ศ. 2553) ดังนั้น ปีนี้การงานและการดำเนินชีวิตจะรู้สึกอึดอัดติดๆ ขัดๆ จะดำเนินการงานใดมักมีอุปสรรคมาแทรกแซงให้สิ่งที่ตั้งหวังไว้ไม่คืบหน้า
ทิศทางการทำงานการค้าไม่สมหวัง มีเหตุให้เสียทรัพย์และมักจะมีเรื่องขัดแย้งมีปากเสียงกับสมาชิกในครอบครัว รวมถึงผู้ร่วมงาน แต่อย่างไรก็ดีเนื่องจากในชะตามีดาวมงคลโคจรร่วมอยู่ด้วย จึงช่วยผ่อนคลายเคราะห์ภัยให้เบาบาง ทุกกิจกรรมปีนี้จึงขอให้ท่านใช้สติ ความอดทน มุ่งมั่น ตั้งใจทำงานสร้างผลงานที่ดี อย่าท้อถอยต่อปัญหาที่รุมเร้าก็จะมีอนาคตที่สดใสสามารถตั้งหลักปักฐานได้ สำเร็จ ขอให้คิดว่าอุปสรรคที่ผ่านเข้ามาเปรียบเป็นยาชูกำลังที่ทำให้ท่านได้ทดสอบ ตัวเองเท่านั้น
หากได้เงินจากโชคลาภ ท่านควรจะนำส่วนหนี่งไปทำบุญก็จะช่วยเสริมให้หน้าที่การงานและกิจการค้าพบ ความก้าวหน้าได้แต่ให้ระวังดูแลสุขภาพของตนเองในระหว่างปีด้วยที่จะเจ็บไข้ไม่ สบาย หากท่านประมาทชะล่าใจเกรงว่าจะเป็นปัญหาใหญ่ตามมา ในช่วงต้นปี เจ้าชะตาควรหาโอกาสไปไหว้พระสะเดาะเคราะห์ขอให้ท่านช่วยปกป้องคุ้มครองให้ เจ้าชะตาแคล้วคลาดจากเหตุร้ายและเภทภัยทั้งปวง
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)