สูตรสำเร็จ

เบนจามิน แฟรงคลิน (1706-90) เจ้าของโรงพิมพ์และสำนักพิมพ์ นักเขียน นักการฑูต รัฐบุรุษ นักวิทยาศาสตร์และนักประดิษฐ์ชื่อดัง ที่มีความสามารถรอบตัวราวกับบุคคล ในยุคศิลปะวิทยาการ เขาเกิดในชุมชนที่ผ่านพ้นยุคบุกเบิกไปได้ไม่นาน ที่บอสตันแมสซาชูเซตส์ ในต้นศตวรรษที่ 18 และเลิกเรียนเมื่ออายุ 10 ขวบ เรื่องราวความสำเร็จใน ชีวิตของเขาจึงน่าประทับใจยิ่งขึ้น เมื่ออายุ 12 ปี เขาฝึกงานกับเจมส์ พี่ชาย ซึ่งเป็นเจ้าของโรงพิมพ์และสำนักพิมพ์และใช้เวลาว่างอ่านวรรณคดีคลาสสิกโบราณกับงานของ นักประพันธ์อังกฤษเด่น ๆ ในยุคนั้น เขาไปฟิลาดิเฟีย เพนซิลวิเนีย ปี 1723 ที่ฟิลาเดลเฟีย แฟรงคลินแต่งงานและตั้งโรงพิมพ์สำนักพิมพ์และร้านหนังสือ เขามีบทบาทสำคัญ ต่อการเมืองของเพนซิลเวเนีย และได้สร้างตัวละคร Poor Richard ซึ่งเป็นชาวนาที่แสดงภาษิตลึกซึ้งที่รวบรวมไว้ในหนังสือรวมผลงานเขียนของแฟรงคลิน และทำให้เขา มีชื่อเสียง แฟรงคลิงใช้เวลาส่วนหนึ่งประดิษฐ์คิดค้นและทดลองทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งทำให้เขาโด่งดังไปทั่วโลก ปี 1752 เขาชักว่าวขึ้นในพายุฟ้าคะนอง โดยมีกุญแจผูกติดกับ ว่าว เพื่อแสดงว่ากุญแจดอกนั้นได้รับประจุไฟฟ้าและพิสูจน์ว่ามีประจุไฟฟ้าอยู่ในฟ้าแลบฟ้าผ่า ต่อมาเขาก็ประดิษฐ์สายล่อฟ้าขึ้นเพื่อป้องกันบ้านเรือนจากฟ้าผ่าในช่วงฝนฟ้าคะนอง ต่อมาเขาประดิษฐ์แว่นตาที่ใช้เลนส์สองโฟกัสขึ้น แฟรงคลินได้รับปริญญากิตติมาศักดิ์จากมหาวิทยาลัยในยุโรปจากผลงานของเขาและเป็นที่รู้จักในนาม ดร.แฟรงคลิน ระหว่าง ทศวรรษ 1760 และ 1770 เขาได้รับมอบหมายให้ไปอังกฤเพื่อเกลี้ยกล่อมรัฐสภาให้รับคำร้องเรียนเรื่องภาษีอากรของเพนซิลเวเนียเขาปกป้องอเมริกาในการเจรจากับอังกฤษ หลังปี 1763 ด้วยเรื่องอธิไตยของอณานิคม ในปี 1775 เขาเดินทางกลับฟิลาเดลเฟียทันเวลาช่วยร่างคำประกาศอิสรภาพจากอังกฤษ ในช่วงสงครามประกาศอิสระภาพ แฟรงคลินเป็นทูตอเมริกันประจำฝรั่งเศษ ปัญญาชนในฝรั่งเศษเชิดชูเขาในฐานะอุดมคติของ มนุษย์โดยธรรมชาติ ซึ่งเป็นที่นิยมของนักปรัชญาแห่งยุคสว่าง เขามีส่วนช่วย ฝรั่งเศสมาเป็นพันธมิตรของอเมริกา ปี 1783 เขากับผู้ร่วมงานเจรจาตกลงกันสนธิสัญญาแห่งปารีส ซึ่งอังกฤษยอมรับในอธิปไตยของอเมริกา แฟรงคลินกลับสู่อเมริกาในปี 1785 และเข้าร่วมหารือเกี่ยวกับระบอบการปกครองแบบใหม่ของสหรัฐอเมริกา เขาเป็นผู้แทนของเพนซิลเวเนียในการประชุมร่างรัฐธรรมนูญปี 1787 และสนับสนุนให้เสริมความแข็ง แกร่งแก่สหพันธในวัย 84 ปี เขาทำประโยชน์แก่สาธารณชนเป็นครั้งสุดท้ายโดยสนับสนุนการเรียกร้องให้ล้มเลิกระบบทาศในสหรัฐอเมริกา ตราบจนวาระสุดท้าย เบนจามิน แฟรงคลิน ยังคงเป็นนักสู้ในกองทัพแห่งความก้าวหน้าและแสงสว่างทางปัญญา