จริงหรือที่เราต้องได้รับการอบรมจากคนที่มีศาสนาก่อน ถึงจะเป็นคนดีได้?
เราคนไทยเกือบทุกคนได้เรียนวิชาพุทธศาสนาในโรงเรียน และสังคมมีความผูกพันกับพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก … แต่คนชาติอื่นๆที่ไม่ได้เป็นอย่างนี้ล่ะ ไม่มีหลักสูตรทางศาสนา สังคมไม่ได้ผูกติดกับศาสนาอย่างเหนียวแน่น คนในสังคมนั้นจะเป็นอย่างไร?
ถึงจะพูดถึงแค่ในประเทศไทย การเป็นคนดีนั้น พูดให้ถูกคือ เป็นคนดีในพุทธศาสนามากกว่า นั่นคือถ้าไม่มีพุทธศาสนา เราก็อาจจะเป็นคนดีได้เหมือนกัน แต่เป็นคนดีในอะไรสักอย่าง (อาจจะเป็น Flying Spaghetti Monster) … ศาสนาดูเหมือนจะเป็นแนวทางมากำหนดว่าต้องปฏิบัติตัวอย่างไรในสังคมเสียมากกว่า (ซึ่งหลักนั้นผมก็ไม่เถียงว่ามันไม่ดี)
การที่เราเติบโตขึ้นมา ได้รู้ดีรู้ชั่วจากพุทธศาสนา แต่กลับมาประกาศว่าไม่นับถือพุทธศาสนานั้น ถือเป็นการยกตนเหนือคำสอนหรือเปล่า? ในความเห็นผมเลย ผมว่าไม่นะ ผมถือว่าเป็นการไม่ยึดติดมากกว่า (คุ้นๆเหมือนได้ยินคำสอนอันนี้ในพุทธศาสนา) คนนั้นอาจจะได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนตามหลักกาลามสูตรแล้วว่า พุทธศาสนาไม่ใช่หลักที่เหมาะกับตัวเองอย่างสมบูรณ์ และไม่อยากบอกว่าเป็นพุทธศาสนิกชน เพราะไม่ได้ปฏิบัติตามหลักในหลายๆอย่าง …
ศาสนาบางครั้งก็เหมือนกฎหมาย ต่างกันที่บทลงโทษ … เราต้องตอบแทนกฎหมายที่มาบังคับเรารึเปล่า?
ในความคิดผม ศาสนามีพื้นฐานมาจากความอ่อนแอทางจิตใจของมนุษย์ มันเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้น เพื่อให้เรารู้สึกว่า เวลาเราทำอะไรสักอย่างลงไป เราจะถูกมองว่าเป็นคนดี สังคมนับถือเรา คนอื่นชื่นชมเรา และเราไม่ถูกละเลย (คิดดูว่าบางคนที่ทำความดีแล้วถูกละเลย เรายกความผิดให้อะไร?) … นั่นคือเบื้องหน้าที่ศาสนามีอิทธิพลต่อมนุษย์ แต่ใครจะรู้ว่าเบื้องหลังจริงๆแล้ว ศาสนาอาจถูกประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่ออำนาจในการควบคุมมวลชนก็เป็นไปได้ (คิดดูว่าผู้นำบางศาสนาทำอะไรลงไป เมื่อสมัยอดีต เวลาที่มีคนไม่นับถืออยู่ในสังคม และอาจสั่นคลอนรากฐานอำนาจ … ศาสนาที่มีเมืองเป็นของตัวเองน่ะ)
ถามว่าเรายังควรมีศาสนาอยู่หรือไม่? ผมตอบชัดๆเลยว่า เรา (มนุษย์) ขาดศาสนาไม่ได้ … เราเป็นสัตว์ที่อ่อนแอทั้งร่างกายและจิตใจ การมีศาสนาช่วยให้เราเกาะกลุ่มเป็นสังคม และมีแนวทางการปฏิบัติตัว เพื่อให้อยู่ร่วมกันได้อย่างปกติสุข
ผมต่อต้านการทำบุญไหม … ไม่
ผมต่อต้านการสวดมนต์ไหม … ไม่
ผมต่อต้านการนั่งสมาธิไหม … ไม่
การทำบุญ ทำให้คนอื่นมีความสุข … การสวดมนต์ทำให้จิตใจสงบนิ่ง เช่นเดียวกับการนั่งสมาธิ และยังช่วยเรื่องความจำ และความสามารถในการการเรียนรู้ด้วย
10 กุมภาพันธ์ 2553
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น